5 เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวกินไฟ ใช้ยังไงให้ประหยัด


2,325 ผู้ชม

เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟ ในบ้านมีอะไรบ้างที่เปลืองสุด ๆ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านส่วนใหญ่ก็ใช้ไฟเยอะอยู่แล้ว แต่เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟในบ้านมากที่สุดต้องยกให้เครื่องใช้ไฟฟ้า 5 ชนิดตามนี้เลยค่ะ


    เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟ ในบ้านมีอะไรบ้างที่เปลืองสุด ๆ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านส่วนใหญ่ก็ใช้ไฟเยอะอยู่แล้ว แต่เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟในบ้านมากที่สุดต้องยกให้เครื่องใช้ไฟฟ้า 5 ชนิดตามนี้เลยค่ะ

          สิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องใช้กำลังไฟฟ้าถึงจะทำงานได้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่พอมีเจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ในบ้าน แล้วเราต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มมากขึ้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบายหลายอย่าง แต่แม้เครื่องใช้ไฟฟ้า 5 ชนิดต่อไปนี้จะขึ้นชื่อว่ากินไฟเว่อร์ ๆ ทว่าหากเรารู้จักใช้อย่างถูกต้องก็ช่วยประหยัดไฟได้ไม่น้อยเลยนะคะ โดยเคล็ดลับใช้เครื่องไฟฟ้าตัวกินไฟแบบไม่เปลืองค่าไฟมากนัก ก็รอให้คุณมาเก็บเกี่ยวไปปรับใช้กันตรงนี้แล้ว

 1. แอร์

          เครื่องปรับอากาศ หรือที่เราเรียกอย่างติดปากว่าแอร์เป็นตัวกินไฟมากถึง 200-1,800 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ดังนั้นเพื่อช่วยประหยัดไฟขึ้นมาอีกนิด เราสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง โดยติดตั้งแอร์ต่ำกว่าระดับฝ้าประมาณ 14 เซนติเมตร เพื่อเลี่ยงความร้อนจากหลังคาบ้าน รวมทั้งก่อนเปิดแอร์ทุกครั้งควรปิดหน้าต่างและประตูให้สนิท ที่สำคัญควรตรวจสอบสภาพการใช้งานของแอร์เป็นประจำทุกปี ล้างแอร์บ่อย ๆ และควบคุมอุณภูมิเครื่องปรับอากาศให้ไม่ต่ำกว่า 25 องศาทุกครั้งที่เปิดด้วย

 2. เครื่องทำน้ำอุ่น

          เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นตัวกินไฟประมาณ 400 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงในแต่ละเดือน ซึ่งหากคุณก็เป็นอีกคนที่ติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาก แม้อากาศจะไม่หนาวก็ต้องอาบน้ำอุ่นเป็นประจำ ควรควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ประมาณ 120 องศาฟาเรนไฮต์ (ราว ๆ 50 องศาเซลเซียส) และควรติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้ห่างจากแทงก์น้ำไม่น้อยกว่า 1.8 เมตร รวมทั้งหมั่นขจัดสิ่งอุดตันในฝักบัว เพื่อให้น้ำไหลอย่างสะดวก ไม่ขัดขวางการทำงานของระบบทำน้ำอุ่น และตรวจเช็กสภาพการใช้งานของเครื่องเป็นประจำทุกปีด้วยก็ดีค่ะ


 3. โทรทัศน์
          โทรทัศน์ ที่เราเปิดดูกันอยู่ทุกวันและมักเปิดใช้งานแทบจะตลอดเวลาที่อยู่ในบ้าน อย่างน้อย ๆ ก็ประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวัน เฉลี่ยแล้วจะใช้ไฟไปประมาณ 3-400 หน่วยต่อปีเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าอยากประหยัดค่าไฟลงอีกสักนิด ลองเปิดโทรทัศน์เฉพาะยามที่ต้องการดู และปิดสวิตช์ทุกครั้งที่เลิกดู รวมถึงถอดปลั๊กออกจากเต้าเสียบด้วย จะทำให้ไม่มีกระแสไฟวิ่งอยู่และลดรายจ่ายค่าไฟลงไปได้ค่ะ



 4. ตู้เย็น
          เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกันแทบทุกบ้านตัวนี้กินไฟประมาณ 30-200 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ดูเป็นตัวเลขที่ไม่มากแต่อย่าลืมว่าเราเปิดใช้ตู้เย็นทั้งวันและแทบตลอดเวลาเลยนะคะ ดังนั้นค่าไฟที่เสียให้ตู้เย็นไปก็คงไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาประหยัดไฟกับตู้เย็นกันบ้างดีกว่า โดยควบคุมอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้อยู่ระหว่าง 36-38 องศาฟาเรนไฮต์ (2.2-3.3 องศาเซลเซียส) ส่วนช่องแช่แข็งควรอยู่ประมาณ 0-5 องศาฟาเรนไฮต์ (-17.8 ถึง -15 องศาเซลเซียส)
          นอกจากนี้ควรหมั่นตรวจสอบช่องแช่แข็งอย่าให้มีน้ำแข็งเกาะหนาเกิน 0.25 นิ้ว จุของในตู้เย็นแต่พอดี พร้อมกันนั้นก็อย่าลืมเช็กสภาพการใช้งานของขอบยางประตูตู้เย็นด้วย ง่าย ๆ ก็แค่ลองสอดธนบัตรเข้าไปที่ประตูตู้เย็น หากธนบัตรถูกหนีบติดกับประตูอย่างเหนียวแน่น นั่นก็แสดงว่ายางขอบประตูตู้เย็นยังมีสภาพโอเคอยู่ แต่ถ้าธนบัตรไหลลื่นลงมา ให้รีบเปลี่ยนยางขอบประตูตู้เย็นด่วนเลยจ้า


 5. คอมพิวเตอร์
          อย่าลืมว่าคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตยุคปัจจุบันไปแล้ว ดังนั้นนอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ แล้ว คอมพิวเตอร์ก็มักเป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่เราเปิดใช้งานกันอยู่ตลอดทั้งวัน และนั่นทำให้ค่าไฟสูงขึ้นมาก ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ ก็ต้องเปิดโมเด็มอินเทอร์เน็ตควบคู่กัน ซึ่งหม้อแปลงของโมเด็มเมื่อรวมกับการใช้งานคอมพิวเตอร์แล้ว ก็กินไฟไม่น้อยเลยนะคะ ทางที่ดีควรชัตดาวน์คอมพิวเตอร์และโมเด็มทุกครั้งที่ไม่ใช้ หรืออย่างน้อยที่สุด ควรตั้งให้มีการพักหน้าจอเพื่อประหยัดไฟก็ยังดี


ที่มา               kapook

อัพเดทล่าสุด