นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ยืนยัน ไม่มีสารใด ๆ ที่เปลี่ยนผิวคนให้ขาวได้ การหายามากินหรือฉีด อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต...
จากกรณีที่มีอาหารเสริมผสมกลูต้าไธโอนยี่ห้อหนึ่ง อวดอ้างสรรพคุณในเรื่องผิวขาวกระจ่างใส ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ "แค่ขาว...ก็ชนะ" จนเป็นที่วิจารณ์แพร่หลายในโลกออนไลน์ ล่าสุด รศ. นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ รศ. นพ.นภดล กล่าวว่าสีผิวของคนนั้นมาจากกรรมพันธุ์ เชื้อชาติ ซึ่งไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสีขาวได้เหมือนชาติอื่น ๆ การเอาสารต่าง ๆ มาใช้ ก็มีแต่จะอันตรายหรือไม่ได้ผลเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ได้ผล โดยกรณีของไวท์เทนนิ่งนั้น ถือเป็นเครื่องสำอางค์ ที่ระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า ต้องเป็นสารที่ไม่สามารถปรับโครงสร้างผิว ไม่สามารถห้ามเมลาโนไซต์ หรือเซลล์เม็ดสีให้หยุดทำงานได้ อย่างมากแค่เคลือบผิวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สารที่จะเปลี่ยนโครงสร้างผิวได้ จะอยู่ในประเภทของยา ต้องใช้ภายใต้ความควบคุมของแพทย์ เช่น สารไฮโดรควิโนน ที่ใช้รักษาฝ้าและด่างขาว เพราะมีฤทธิ์กัดผิว หากใช้นาน ๆ ผิวจะคล้ำ และอาจเป็นโรคด่างขาวตามมาอีก
การที่คนไทยมีผิวคล้ำ ทำให้ไม่แก่เร็ว เพราะมีเม็ดสีป้องกันแสงอัลตร้าไวโอเลตเยอะ ไม่ก่อให้เกิดริ้วรอย ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง ส่วนกลูต้าไธโอนนั้น มีทั้งแบบกินและแบบฉีด หากฉีดจะทำให้ผิวเป็นสีชมพู แต่จะเป็นแค่ชั่วคราวและอันตรายมาก บางคนอาจถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนแบบกินนั้นยังมีข้อถกเถียง เพราะมีผลการศึกษาเพียงเล็กน้อยที่บ่งชี้ว่าสีผิวอ่อนลง อีกทั้งหากรับประทานในระยะยาวจะส่งผลต่อตับ เส้นเลือดไม่แข็งตัวจนเลือดออกตามผิวหนัง
นอกจากนี้ รศ. นพ.นภดล ยังกล่าวว่า การโฆษณาอวดอ้างว่าทำให้ผิวขาวนั้น ถือว่าผิดกฎหมาย หากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้ง อย. ได้ ซึ่งที่ผ่านมามีการตักเตือนบริษัทที่โฆษณาเกินจริง รวมทั้งการปรับบริษัทและสื่อที่เผยแพร่ด้วย แต่การปรับนั้นยังน้อยเมื่อเทียบกับทุนโฆษณา บริษัทจึงไม่กระทบ
่ที่มา: มติชนออนไลน์