9 เรื่องดี ๆ ที่พ่อแม่ควรทำก่อนลูกโต


1,721 ผู้ชม


9 เรื่องดี ๆ ที่พ่อแม่ควรทำก่อนลูกโต


          พัฒนาการเด็ก เติบโตตามวัยขึ้นทุกวัน คุณพ่อคุณแม่ต้องเร่งสร้างและช่วยกันเก็บเกี่ยวความทรงจำที่ดีร่วมกับลูกน้อย วันนี้เรามีเกร็ดความรู้จากนิตยสาร Mother & Care มาแนะนำกันค่ะ มาเปิดโลกกว้างและสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้กับลูก ๆ กับ 9 เรื่องดี ๆ ต่อไปนี้ก่อนลูกโตกันดีกว่าค่ะ ^^

          เพราะวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ลูก ๆ ก็เช่นกัน คุณจะเห็นว่าเขาเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ เติบโตขึ้นทุกวัน เราจึงเชื่อว่าเรื่องบางเรื่องไม่ควรปล่อยผ่าน ควรรีบทำตั้งแต่วันนี้


 1. ให้นมแม่
          นมแม่เป็นมากกว่าอาหารที่เลี้ยงบำรุงร่างกาย แต่ยังเป็นอาหารสมองต้นทุกชีวิต เป็นอาหารทางใจที่หล่อเลี้ยงชีวิต เพราะทุกครั้งที่ลูกอยู่ในอ้อกอดขณะที่กินนมแม่ สมองของลูกน้อยจะจดจำเรื่องราวดี ๆ ผ่านการมองเห็น กลิ่นกาย ผิวสัมผัส และรสชาติน้ำนมแม่ เป็นสายใยความผูกพันที่คุณและลูกก็รู้สึกดีด้วย
  2. กอดทุกวัน
          ในเชิงชีววิทยา การกอดจะกระตุ้นการทำงานของฮีโมโกลบิน ให้ลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้ทั่วถึง เราจึงรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา อีกทั้งการกอดยังเป็นการถ่ายทอดกำลังใจ ความรัก ความอบอุ่น คุณจะสังเกตได้ว่า เวลาลูกร้องไห้ โยเย การที่คุณได้โอบอุ้ม โอบกอดลูกเอาไว้อย่างนุ่มนวล อ่อนโยน จะช่วยให้ลูกสงบนิ่งหยุดร้องได้ ถ้าลูกวัยรุ่น อ้อมกอดและความเข้าใจของพ่อกับแม่ในทุกสถานการณ์เป็นยาวิเศษที่บรรเทาปัญหาของลูกวัยนี้
 3. บันทึกเรื่องของลูก
          การเก็บความทรงจำของคนเราทำได้มากมายไม่ว่าเก็บไว้ในใจ เก็บเป็นภาพถ่าย หรือเลือกที่จะเก็บผ่านทางตัวอักษรนั่นก็คือ การเขียนบันทึก จะเรื่องสนุก ความประทับใจ เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณใช้เลี้ยงลูก พัฒนาการของลูก เหตุการณ์ที่ทำให้คุณสุข เศร้า เหนื่อย ยิ้ม หัวเราะ เพราะเมื่อเวลาล่วงเลยไป สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวันก็อาจจะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา การบันทึกเรื่องราวเอาไว้ อาจไม่ต้องจดทุกวัน แต่จดในสิ่งที่คุณอยากจำและต้องการให้ลูกรับรู้เมื่อเขาโตขึ้น จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกรู้จักความรักของแม่มากยิ่งขึ้น
 4. นิสัยรักการอ่าน
          การสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดกับลูกตั้งแต่วัยเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต เพราะการอ่านจะช่วยในเรื่องทักษะภาษาการรู้จักใช้จินตนาการ การคิดวิเคราะห์ (จำเป็นมาก ๆ สำหรับโลกยุคนี้และยุคหน้า) การหาความรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด และเมื่อพ่อแม่อ่านหนังสือกับลูกก็เป็นการสร้างความสุขสร้างกิจกรรมให้เกิดขึ้นภายในครอบครัว
 5. รู้จักธรรมะที่ถูกต้อง
          ที่จริงธรรมะอยู่ใกล้ตัว เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา เพียงแค่การสั่งสอน อบรม หรือพูดเรื่องธรรมะกับเด็กนั้น อาจต้องย่อยให้เด็กเข้าใจได้ง่าย เช่น ให้ลูกวัยอนุบาล ช่วยจัดโต๊ะกินข้าว ให้ลูกช่วยยกชามที่เป็นกระเบื้อง เด็กสามารถทำได้ถ้าพ่อแม่มีความไว้วางใจ สอนลูกอย่างเข้าใจ บอกหลักง่าย ๆ"ถือแน่น ๆ เดินช้า ๆ นะลูก" สิ่งเหล่นี้คือการปลูกฝังธรรมะในชีวิตประจำวัน สร้างธรรมะในตัวลูกตั้งแต่ยังเยาว์วัย ขอแค่ให้ลูกระลึกถึงความถูก-ผิดเป็นสรณะ ไม่ว่าจะทำการณ์ใด ๆ ในชีวิต ส่วนการที่เด็ก ๆ ไปนั่งสมาธิหรือเข้าวัดฟังธรรมกันเป็นประจำนั่นเป็นวิธีการส่วนหนึ่งในการเรียนรู้เรื่องธรรมะเมื่อเขาเติบโต
 6. คุยด้วยความเข้าใจ
          ยุคสังคมก้มหน้า พ่อแม่ และลูกตกอยู่ในวังวนเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสาร เทคโนโลยี รูปแบบต่าง ๆ จนลืมหันมาใส่ใจให้ความสำคัญกับการพูดคุย สอบถามความเป็นไปห่วงใยกันและกัน จนเกิดเป็นความห่างเหิน ลองพักสายตา หยุดใช้นิ้วมือ แล้วใช้สายตามองลูก พูดคุยสอบถามเรื่องของลูกด้วยความตั้งใจ ใส่ใจ จริงใจ การทำแบบนี้จะช่วยให้ลูกรู้สึกถึงความรักความห่วงใยของคุณ พร้อมที่จะบอกเล่าและปรึกษากับคุณในทุก ๆ เรื่อง คุณคงไม่อยากให้ปัญหาของลูกสายเกินแก้ใช่ไหมคะ

 7. เล่นด้วยกัน
          การเล่นเป็นเรื่องที่ดีเสมอของเด็ก เมื่อเด็กได้เล่นจะเกิดความสนุก การเรียนรู้ การจดจำ เลียนแบบ เพียงแค่วิธีการเล่นนั้นเปลี่ยนไปตามพัฒนาการช่วงวัยของลูก การเล่นกับลูกช่วยให้พ่อแม่เข้าใจลูกว่ามีลักษณะ ความชอบ บุคลิกเป็นอย่างไร เราสามารถสร้างทักษะ สร้างประสบการณ์ สร้างความทรงจำ ผ่านการเล่นกับลูกได้มากมาย และเมื่อลูกมีความสุขกับการเล่น ความสุขที่เกิดขึ้นจะสร้างตัวตนของลูกขึ้นมาได้
 8. เที่ยวไปด้วยกัน

          พาลูกออกนอกห้องเรียน สร้างประสบการณ์ดี ๆ จากการท่องเที่ยวให้ลูกของคุณได้ทั้งความสนุกได้รับประสบการณ์ ความรู้จากการเรียนรู้ของจริงที่พบเจอ เช่น การไปดูนก การไปเดินป่า เล่นทราย เรียนรู้ตามพิพิธภัณฑ์ เรื่องแบบนี้ในห้องเรียนเป็นเพียงแค่ข้อมูลส่วนหนึ่ง เราไม่อาจพิสูจน์ความจริงได้ ถ้าไม่ก้าวขาออกมาค้นหา และคุณก็คือคนที่สร้างแรงบันดาลใจ สร้างการเรียนรู้ของลูก
 9. ให้เวลาคุณภาพ
          มีการพิสูจน์แล้วว่า สิ่งแวดล้อมสามารถเปลี่ยนแปลงศักยภาพที่ถูกกำหนดมาทางพันธุกรรม นั่นก็หมายความว่า สองมือของพ่อแม่ สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเสริมสร้างสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดกับตัวลูกได้แน่นอน โดยเฉพาะสังคมของการแข่งขันที่พ่อแม่อาจมีเงื่อนไขของเวลาเป็นส่วนประกอบ เราจึงหวังว่าทุกช่วงเวลาของคุณกับลูก เป็นช่วงเวลาคุณภาพจริง ๆ
          สังเกตได้ว่า ทุกเรื่องที่ยกตัวอย่างมาอาจเป็นกิจกรรมที่คุณเคยทำ หรืออาจไม่เคยทำ เพียงแค่ให้คุณทำอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญทำด้วยใจเข้าไปในขณะที่ทำ รับรองว่าจะเกิดสิ่งดี ๆ กลับมาที่คุณและลูกน้อย

ที่มาและภาพประกอบ: กระปุก

อัพเดทล่าสุด