3 โรคที่ กระเทียม สามารถป้องกันได้


4,670 ผู้ชม


กระเทียม (garlic) พืชสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้เป็นทั้งอาหารและยากันมานานนับเป็นพันปี แน่นอนว่าเมื่อแต่ละคนเกิดมา ก็จะได้รู้ว่า กระเทียม ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบอาหารกันแล้ว

ในปัจจุบันนี้ กระเทียม ถูกนำมาใช้ในการป้องกันโรคหลายอย่างด้วยกัน ช่วยลดระดับไขมัน Cholesterol ลดความดันโลหิตสูง และส่งเสริมให้ระบบภุมิคุ้มกันให้ดีขึ้น

กระเทียม มีสารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidants) ซึ่งอนุมูลอิสระ (free radicals) อาจมีบบาทสำคัญต่อการทำให้คน ?แก่? เร็วขึ้น ตลอดรวมไปถึงการทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้มากมาย รวมถึงโรคหัวใจ และมะเร็ง และเจ้า กระเทียม นี้ก็สามารถทำลายอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวที่สามารถทำลายเยื้อหุ้มเซลล์ (cell membranes) และ DNA ได้ดี

3 โรคที่ กระเทียม สามารถป้องกันได้

โรคต่าง ๆ ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้

1. โรคหัวใจ (Heart disease)

มีหลักฐานบางอย่างสนับสนุนว่า กระเทียมอาจป้องกันไมเกิดโรคหัวใจได้ โดย อาจลดการเกิดเส้นเลือดแข็ง (artherosclerosis) และสามารถลดระดับความดันลได้เล็กน้อย(ระหว่าง 7 % ถึง 8%)

การศึกษาชิ้นหนึ่ง เป็นเวลานานถึง 4 ปี ใช้กระเทียม 900 mg ทุกวัน ปรากฏว่า มันสามารถลดการเกิดเส้นเลือดแข้งลงได้

นอกจากนั้น กระเทียมยังเป็นสารต้านการจับตัวเป็นก้อนของเลือด ด้วยการทำให้เกล็ดเลือดบางลง ซึ่งอาจป้องกันไม่เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack) หรือ สมองขาดเลือด (stroke)

ส่วนผลที่มีต่อไขมัน cholesterol นั้น จากการศีกษาในตอนแรกพบว่า มันสามารถลดระดับของ Cholesterol ในกระแสเลือดได้ แต่ผลจากการศึกษาระยะเร็ว ๆ นี้ ปรากฏว่า กระเทียมไม่ผลต่อการลดระดับไขมันดังกล่าวเลย

2. โรคหวัด (Common cold)

จากผลการศึกษาในระยะแรก พบว่า กระเทียมสามารถช่วยป้องกันโรคหวัด (common cold)ได้ มีการศึกษาเปรียบเทียบการใช้กระเทียม ในระยะที่มีโรคหวัดระบาด (common cold) ผลปรากฏว่า คนที่รับประทานกระเทียม จะเป็นโรคหวัดได้น้อยกว่าคน ที่ไม่รับประทานกระเทียมเลย นอกจากนั้น ในระหว่างเป็นหวัด กระทียมสามารถทำให้อาการของหวัดหายเร็วด้วย

3. มะเร็ง (Cancer)

กระเทียมอาจเสริมให้ระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรงขึ้น สามารถช่วยร่างกายให้ต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ โดยผลจากห้องทดลอง ดูเหมือนว่า กระเทียมมีฤทธ็ในการต่อต้านมะเร็ง

ผลจากการศึกษาในกลุ่มชนเป็นระยะเวลานาน พบว่า กลุ่มคนที่รับประทานกระเทียมสด หรือกระเทียม ที่ปรุงในอาหาร ทำให้มีแนวโน้มที่จะไม่เกิดเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งของลำไส้ใหญ่ (colon) และมะเร็งกระเพาะ (CA stomach)

ผลจากการศึกษา (จำนวน 7 ชิ้น) พบว่า คนที่กินกระเทียมสด หรือกระเทียมปรุงแล้ว สามารถลดการเกิดมะเร็ง colorectal ได้ถึง 30 %

สิ่งที่ต้องระวังสำหรับกระเทียม

แม้ว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณอยู่มากมาย แต่กระเทียมผลอันไม่พึงประสงค์ของกระเทียมอยู่มากเหมือนกัน เช่น ทำให้ปวดท้อง ท้องอืดเฟ้อ มีกลิ่นปาก ออกแสบร้อนที่มือ (เมื่อสัมผัสถูก)

นอกเหนือไปจากนั้น มันยังทำให้เกิดมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ เหนื่อยหล้า ปวดเมื่อกล้ามเนื้อ และอาจแพ้กระเทียม ทำให้เกิดมีลักษณะหืดหอบ และเป็นผื่นคัน

นอกจากนี้กระเทียมสามารถทำให้ฤทธิ์ของยาบางอย่างเปลี่ยนไปได้ ยกตัวอย่าง

  • Isoniazid- เป็นยาที่ใช้ในการรักษาวัณโรค กระเทียมสามารถลดการดูดซึมยาตัวนี้ได้ เป็นเหตุให้ ใช้ยาดังกล่าวมีปริมาณไม่พอต่อการรักษาโรค
  • Birth control pills- กระเทียมอาจลดประสิทธิภาพของยาลงได้
  • Blood-thinning medications- กระเทียมอาจทำให้ฤทธิของยาต้านการจับตัวเป็นก้อนเลือดได้ ทำให้เกิดมีเลือดออกได้
  • Medications for HIV/AIDs- กระเทียม สามารถลดระดับของสาร Protease inhibitors ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรค HIV
  • Non-steroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs)- ทั้ง NSAIDs และ กระเทียม สามารถทำให้เกิดมีเลือดออก (bleeding)

ปัจจุบันในบ้านเรายังไม่มีการรับรองว่ากระเทียมนั้นจะสามารถรักษาโรคได้จริง คงเป็นได้เพียงแต่สมุนไพรทางเลือกในการรักษาและสมุนไพรเสริมสุขภาพเท่านั้น และแม้ว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณอยู่มากมาย แต่คุณก็ไม่ควรที่จะเลือกใช้กระเทียมเพื่อหวังผลในการรักษาอาการหรือโรคใดโรคหนึ่ง อีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละบุคคลก็อาจจะแตกต่างกันออกไป

ดังนั้นคุณควรเลือกรับประทานให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพืชผักสมุนไพรทั่วๆ ไป ถ้าศึกษากันจริงๆ แล้ว มันก็มีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่ากันเลย

ที่มา: เอ็มไทย

อัพเดทล่าสุด