ว่านหางจระเข้ เป็นพืชประเภทไม้ล้มลุกของชนพื้นเมืองแอฟริกา สามารถทนต่ออากาศร้อนและสภาพความแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี มีลักษณะขึ้นเป็นกอ ลำต้นสั้น
จะมีใครสักกี่คนที่รู้!! ว่านหางจระเข้ วุ้นเย็นๆ ขจัดเซลล์มะเร็งได้
เมื่อนึกถึงสมุนไพร ที่มีลักษณะเป็นวุ้นเย็นๆ และมีสรรพคุณช่วยในการรักษาผิวหนัง เชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่จะต้องทราบทันทีก็คือ “ว่านหางจระเข้” โดยเฉพาะสาวๆ ที่รักสวยรักงามและดูแลผิวพรรณอย่างพิถีพิถัน แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ถึงคุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้ในการรักษาและป้องกันโรคมะเร็งได้เช่นกัน
ว่านหางจระเข้ เป็นพืชประเภทไม้ล้มลุกของชนพื้นเมืองแอฟริกา สามารถทนต่ออากาศร้อนและสภาพความแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี มีลักษณะขึ้นเป็นกอ ลำต้นสั้น ใบเป็นปลายแหลมและมีขอบหยักเป็นหนาม ใบหนาอวบ ภายในใบจะมีวุ้นใสๆ และมียางสีเหลืองอ่อนๆ
ซึ่งในว่านหางจระเข้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินซี วิตามินอี โซเดียม ซิลิเนียม และแมกนีเซียม เป็นต้น
สารสำคัญที่เรานำมาใช้ในด้านโรคมะเร็งก็คือ “Aloe – Emodin” และ “Acemannan” โดยสารสำคัญที่ชื่อ Aloe – Emodin นั้นจะช่วยกระตุ้น Macrophage ให้กำจัดเซลล์มะเร็งและใช้ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคิเมียได้อีกด้วย ส่วน Acemannan จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายและการเจริญเติบโตของเซลล์ปกติ แล้วยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้เติบโตจนลุกลามไปที่บริเวณอื่นได้
นอกจากนี้วุ้นในว่านหางจระเข้ยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับของเสียที่อยู่ภายในลำไส้ให้ออกมาจนหมด จึงสามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ได้ หรือนำมาพอกผิวหนังที่มีอาการอักเสบ เป็นลมพิษ ปวดแสบปวดร้อนจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก และอาการไหม้จากแสงแดดที่แผดเผาจนทำให้ผิวคล้ำเสีย
สำหรับผู้ที่มีแผลไหม้จากการฉายรังสีเพื่อรักษาโรค พบว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นเมื่อใช้ว่านหางจระเข้อย่างต่อเนื่อง ทำให้แผลหายเร็วโดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ แต่ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากฤทธิที่เป็นยาระบายจะทำให้เด็กในครรภ์คลอดก่อนกำหนด เพราะการบีบตัวของมดลูกนั่นเอง
ที่มา: www.rak-sukapap.com