อย่าละเลย..เนื้องอกมดลูก กับ 8 สัญญานเตือนสำหรับผู้หญิง


9,659 ผู้ชม

“เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก” สำหรับผู้หญิงที่อยู่วัยเจริญพันธุ์หรือวัยหมดประจำเดือนแล้วก็ตาม มดลูกเป็นอวัยวะอย่างหนึ่งที่สำคัญสำหรับผู้หญิงอย่างยิ่ง ซึ่งในทางการแพทย์ปัจจุบันพบว่าสาวๆ หลายคนมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก อันเนื่องมาจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้มีโอกาสเป็นมากขึ้น 


อย่าละเลย..เนื้องอกมดลูก กับ 8 สัญญานเตือนสำหรับผู้หญิง

อย่าละเลย..เนื้องอกมดลูก กับ 8 สัญญานเตือนสำหรับผู้หญิง

“เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก” สำหรับผู้หญิงที่อยู่วัยเจริญพันธุ์หรือวัยหมดประจำเดือนแล้วก็ตาม มดลูกเป็นอวัยวะอย่างหนึ่งที่สำคัญสำหรับผู้หญิงอย่างยิ่ง ซึ่งในทางการแพทย์ปัจจุบันพบว่าสาวๆ หลายคนมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก อันเนื่องมาจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้มีโอกาสเป็นมากขึ้น 
ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ซีสต์ที่ปีกมดลูก หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก แต่ยังมีอีกโรคหนึ่งที่เป็นภัยเงียบและพบมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน นั่นก็คือ “เนื้องอกมดลูก” ซึ่งเราสามารถสังเกตอาการด้วยตนเองก่อนว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ 
1 มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และรู้สึกแน่นท้อง โดยเฉพาะบริเวณช่วงล่างด้านซ้ายของท้อง
2 มีอาการท้องผูกอันเนื่องมาจากก้อนเนื้ออยู่ในตำแหน่งที่ค่อนไปทางข้างหลังของช่องท้อง จึงทำให้ไปกดทับลำไส้ใหญ่
3 มีอาการปวดหลัง เพราะก้อนเนื้อที่มีขนาดใหญ่อยู่ในตำแหน่งบริเวณช่วงหลังของท้อง จึงทำให้ไปเบียดอวัยวะภายใน
4 ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ เนื่องจากก้อนเนื้อที่มดลูกเข้าไปเบียดกับกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้กระเพาะปัสสาวะเก็บปริมาณปัสสาวะได้น้อยลง
5 มีอาการปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติ หรือประจำเดือนมามากผิดปกติ
6 รู้สึกเจ็บในขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์ หากมีเนื้องอกเกิดขึ้นที่บริเวณปากมดลูก หรือมีก้อนเนื้อยื่นเข้าไปในช่องคลอด
7 เกิดภาวะแทรกซ้อนช่วงระหว่างตั้งครรภ์ อย่างเช่นก้อนเนื้องอกที่ขัดขวางการคลอดทางช่องคลอด หรือทารกที่อยู่ในครรภ์อาจจะอยู่ผิดท่า จึงทำให้ต้องคลอดด้วยวิธีการผ่า เนื่องจากไม่สามารถคลอดตามธรรมชาติได้
8 ทำให้มีบุตรยากหรืออยู่ในภาวะแท้งบุตรง่าย เพราะก้อนเนื้อยื่นเข้าไปในโพรงมดลูกแล้วอาจจะทำให้ท่อนำไข่อุดตัน และไปขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน 
เนื้องอกมดลูกสามารถรักษาได้ หากตรวจพบเร็วและสามารถกำจัดออกได้ ก่อนที่เนื้องอกนั้นจะพัฒนากลายเป็นโรคมะเร็ง ดังนั้นต้องหมั่นสังเกตอาการเหล่านี้แล้วรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดค่ะ

ขอบคุณที่มา : www.sharegunpai.blogspot.com

อัพเดทล่าสุด