เทคนิค “ปลูกหอมไร้ดินในถาดไข่” สะอาด ปลอดภัย ไร้สารเคมี...ลองปลูกไว้กินเองได้เลย
เทคนิค “ปลูกหอมไร้ดินในถาดไข่” สะอาด ปลอดภัย ไร้สารเคมี...ลองปลูกไว้กินเองได้เลย
ในยุคที่อะไรก็ฝืดเคือง เศรษฐ กิจก็ย่ำแย่แบบนี้หลายคนนั้นหันมาประหยัดค่าใช้จ่ายกันมากขึ้นก็ด้วยสภาพปัจจุบันนั้น อะไรๆ ก็แพงมากเหลือเกิน นับวันยิ่งอยู่ยากมาก กันเลยทีเดียว เงินเดือนแทบไม่พอกิน แน่นอนว่า การประหยัดนั้น เราต้องทำทุกๆ ทางอะไรที่หาเองได้ทำขึ้นมาเองได้ ก็ช่วยให้เรา ประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากเลยทีเดียว และที่จะมาพูดถึงในวันนี้ก็คือ พืชผักสวนครัวที่ต้องทานกันเป็นประจำ อย่าง หอม หรือ ต้นหอม ถ้าหากไปซื้อที่ตลาดเวลาซื้อ ต้นหอม มาทำกับข้าวจะรู้เลยว่ากำละ 5–10 บาทนั้นได้มานิดเดียวทำกับข้าวได้แค่มื้อเดียวเผลอๆไม่พอด้วยซ้ำ คิดดูว่าหากเราไปซื้อบ่อยๆ บางทีมันก็ดูไม่คุ้มเลย ดังนั้นจะดีมากๆ หากเราสามารถ ปลูกหอม ไว้ทานเองได้
แต่หลายคนมักบอกว่าการใช้ชีวิตในเมือง ไม่มีพื้นที่ ไม่มีดิน ที่จะทำแปลงปลูกผักหรอก ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยไอเดียใหม่ๆ นั่นคือ การปลูกหอมแบบไร้ดิน ที่จะนำมาฝากกันกับ การปลูกหอมไร้ดินในถาดไข่ ด้วยวิธีการง่ายๆ และวัสดุที่หาได้ไม่ยากเลยสิ่งที่จะต้อง เตรียมก็มีแค่ ถาดใส่ไข่ซึ่งเป็นถาดแบบกระดาษ แต่ละชุดนั้นให้ซ้อนกันจำนวน 5 ใบ นี่คือแปลงผัก ของเรา อีกอย่าง ก็คือ หัวหอม จำนวน 30 หัว ต่อหนึ่งแปลงถาดใส่ไข่ ในที่นี้จะใช้หัวหอมแดงแทน เพราะต้นหอมที่เราใช้กันนั้นที่มีส่วนโคนเป็นสีขาว จะเรียกว่าหอมแบ่งส่วนใหญ่จะปลูกมาจากเมล็ด ถึงเวลาเก็บเกี่ยวชาวสวนก็จะใช้วิธีถอนมาทั้งต้น จึงทำให้หัวหอมแบ่งนั้นหาได้ยาก แต่ใบหอมแดงนั้นก็สามารถรับประทานและใช้แทนกันได้เช่นกัน
สิ่งที่ต้องเตรียม
ถาดใส่ไข่ ที่เป็นแบบถาดกระดาษจำนวน 5 ใบ
หัวหอม 30 หัว
วิธีทำ
1.คัดเลือก หัวหอม เลือกเอาหอมสมบูรณ์ ไม่เน่า ไม่มีเชื้อรา
2.นำถาดกระดาษมาวางซ้อนกัน 5ใบ แล้วนำน้ำมารดถาดกระดาษให้เปียกชุ่ม
ในยุคที่อะไรก็ฝืดเคือง เศรษฐ กิจก็ย่ำแย่แบบนี้หลายคนนั้นหันมาประหยัดค่าใช้จ่ายกันมากขึ้นก็ด้วยสภาพปัจจุบันนั้น อะไรๆ ก็แพงมากเหลือเกิน นับวันยิ่งอยู่ยากมาก กันเลยทีเดียว เงินเดือนแทบไม่พอกิน แน่นอนว่า การประหยัดนั้น เราต้องทำทุกๆ ทางอะไรที่หาเองได้ทำขึ้นมาเองได้ ก็ช่วยให้เรา ประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากเลยทีเดียว และที่จะมาพูดถึงในวันนี้ก็คือ พืชผักสวนครัวที่ต้องทานกันเป็นประจำ อย่าง หอม หรือ ต้นหอม ถ้าหากไปซื้อที่ตลาดเวลาซื้อ ต้นหอม มาทำกับข้าวจะรู้เลยว่ากำละ 5–10 บาทนั้นได้มานิดเดียวทำกับข้าวได้แค่มื้อเดียวเผลอๆไม่พอด้วยซ้ำ คิดดูว่าหากเราไปซื้อบ่อยๆ บางทีมันก็ดูไม่คุ้มเลย ดังนั้นจะดีมากๆ หากเราสามารถ ปลูกหอม ไว้ทานเองได้
แต่หลายคนมักบอกว่าการใช้ชีวิตในเมือง ไม่มีพื้นที่ ไม่มีดิน ที่จะทำแปลงปลูกผักหรอก ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยไอเดียใหม่ๆ นั่นคือ การปลูกหอมแบบไร้ดิน ที่จะนำมาฝากกันกับ การปลูกหอมไร้ดินในถาดไข่ ด้วยวิธีการง่ายๆ และวัสดุที่หาได้ไม่ยากเลยสิ่งที่จะต้อง เตรียมก็มีแค่ ถาดใส่ไข่ซึ่งเป็นถาดแบบกระดาษ แต่ละชุดนั้นให้ซ้อนกันจำนวน 5 ใบ นี่คือแปลงผัก ของเรา อีกอย่าง ก็คือ หัวหอม จำนวน 30 หัว ต่อหนึ่งแปลงถาดใส่ไข่ ในที่นี้จะใช้หัวหอมแดงแทน เพราะต้นหอมที่เราใช้กันนั้นที่มีส่วนโคนเป็นสีขาว จะเรียกว่าหอมแบ่งส่วนใหญ่จะปลูกมาจากเมล็ด ถึงเวลาเก็บเกี่ยวชาวสวนก็จะใช้วิธีถอนมาทั้งต้น จึงทำให้หัวหอมแบ่งนั้นหาได้ยาก แต่ใบหอมแดงนั้นก็สามารถรับประทานและใช้แทนกันได้เช่นกัน
สิ่งที่ต้องเตรียม
ถาดใส่ไข่ ที่เป็นแบบถาดกระดาษจำนวน 5 ใบ
หัวหอม 30 หัว
วิธีทำ
1.คัดเลือก หัวหอม เลือกเอาหอมสมบูรณ์ ไม่เน่า ไม่มีเชื้อรา
2.นำถาดกระดาษมาวางซ้อนกัน 5ใบ แล้วนำน้ำมารดถาดกระดาษให้เปียกชุ่ม
3. เอาหัวหอมวางใส่ไว้ในถาดไข่ ทุกหลุมให้ครบ 30 หลุม แล้วรดน้ำให้ชุ่ม ทุกวันเช้า-เย็น
4. รอการเจริญเติบโต
เป็นอย่างไรบ้างคะ วิธีปลูกหอม ที่ ไข่เจียว นำมาฝาก ง่ายมากๆเลยใช่ไหมคะ ถ้าคนไหนสนใจก็ลองนำวิธีนี้ไปปลูกกินที่บ้านกันนะคะ รับรองว่าคุณจะมีต้นหอมกินตลอด อีกทั้งเป็นการช่วยลดรายจ่ายเล็กๆน้อยในครอบครัว และที่สำคัญได้กินผักปลอดภัยไร้สารเคมีแน่นอนค่ะ
4. รอการเจริญเติบโต
เป็นอย่างไรบ้างคะ วิธีปลูกหอม ที่ ไข่เจียว นำมาฝาก ง่ายมากๆเลยใช่ไหมคะ ถ้าคนไหนสนใจก็ลองนำวิธีนี้ไปปลูกกินที่บ้านกันนะคะ รับรองว่าคุณจะมีต้นหอมกินตลอด อีกทั้งเป็นการช่วยลดรายจ่ายเล็กๆน้อยในครอบครัว และที่สำคัญได้กินผักปลอดภัยไร้สารเคมีแน่นอนค่ะ
**เคล็ดลับน่ารู้**
-หอมแดงชอบชอบอากาศชุ่มชื้น และได้รับแสงแดดเต็มที่ตลอดวัน
-ถาดกระดาษควรรดน้ำให้มีความเปียกชุ่มอยู่ตลอด ระวังอย่าให้ถาดกระดาษแห้งเพราะจะทำให้ต้นหอมมีปลายใบเหลือง และชะงักการเจริญเติบโต
-ควรใช้ถาดกระดาษซ้อนกันหลายๆใบ เพราะเวลารดน้ำถาดกระดาษหลายใบจะอุ้มน้ำได้ดีกว่า 1ใบและช่วยรักษาความชุ่มชื้นของต้นหอมอีกด้วยค่ะ
ขอบคุณที่มา : www.sharesidotcom.blogspot.com