8 ความจริงสุดอึ้งจากเศรษฐีรวยสุดในโลก 2017


1,748 ผู้ชม

วิเคราะห์ทำเนียบมหาเศรษฐีร่ำรวยสุดในโลกปี 2017 พบ 4 ความจริงสุดทึ่งที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจได้อย่างเหลือเชื่อ โดย 1 ใน 8 ความจริงนี้คือปี 2017 เป็นปีที่มหาเศรษฐีโลกร่ำรวยขึ้นอีก


8 ความจริงสุดอึ้งจากเศรษฐีรวยสุดในโลก 2017

วิเคราะห์ทำเนียบมหาเศรษฐีร่ำรวยสุดในโลกปี 2017 พบ 4 ความจริงสุดทึ่งที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจได้อย่างเหลือเชื่อ โดย 1 ใน 8 ความจริงนี้คือปี 2017 เป็นปีที่มหาเศรษฐีโลกร่ำรวยขึ้นอีก เบ็ดเสร็จมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นของคนกลุ่มนี้คือคิดเป็น 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32.5 ล้านล้านบาทในปี 2017 ปีเดียว

1. ทั้งหมดเป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่เป็นอเมริกัน

จากรายชื่อบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 10 คนประจำปี 2017 ปรากฏว่า Top 10 เป็นผู้ชาย และส่วนใหญ่เป็นคนอเมริกันที่มีธุรกิจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ความจริงนี้บอกได้ชัดเจนว่าปี 2017 เป็นปีทองของธุรกิจไอทีเพราะมีเงิดสะพัดมากมายหลั่งไหลเข้าสู่กระเป๋าของผู้บริหารกลุ่มท็อปในตลาดนี้

2. ปีนี้ “คนรวย” ยิ่งรวยขึ้นอีก

จากดัชนี Billionaires Index สำนักข่าว Bloomberg ชี้ว่าหากคำนวณทรัพย์สินของมหาเศรษฐี 500 อันดับแรกของโลก จะพบว่าคนกลุ่มนี้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีก 1,000,000,000,000 เหรียญสหรัฐในปี 2017

Bloomberg วิเคราะห์ว่าเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะตลาดหุ้นที่บูมสุดขีด ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้ว ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นของมหาเศรษฐีโลกคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 4 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2016

3. แชมป์รวยสุด คือผู้ที่รวยเพิ่มขึ้นมากที่สุด

แชมป์มหาเศรษฐีโลกปีนี้ยังคงเป็นผู้ก่อตั้ง Amazon อย่าง Jeff Bezos เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซอเมริกันคือบุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่ทำเงินได้เพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2017 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา Bezos มีทรัพย์สินเข้ากระเป๋าเพิ่ม 3.42 หมื่นล้านเหรียญหรือประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท ทำให้มูลค่าทรัพย์สินรวมทะลุ 1 แสนล้านเหรียญ (3.2 ล้านล้านบาท)

ทั้งหมดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมูลค่าหุ้น Amazon ที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดในปีนี้ ทำให้ Bezos ถูกคำนวณทรัพย์สินเพิ่มขึ้นตามจำนวนหุ้น Amazon ที่ถืออยู่

4. เจ้าพ่อ Facebook และซีอีโอ LVMH รวยขึ้นเห็นชัด

Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook และ Bernard Arnault ซีอีโอบริษัทกลุ่มสินค้าหรูหราอย่าง LVMH ต้นสังกัด Louis Vuitton คือ 2 มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างน่าจับตาในปีนี้ โดย Zuckerberg ติดอันดับ 5 จากที่มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่ม 2.3 หมื่นล้านเหรียญ ขณะที่ Arnault นั่งเก้าอี้อันดับ 6 แต่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากกว่า 2.45 หมื่นล้านเหรียญ

5. กองทรัยพ์สมบัติ มากกว่า GDP 4 ประเทศรวมกัน

จากการประเมิน หากนำทรัพย์สินของมหาเศรษฐีทุกคนในทำเนียบ Top 500 ของโลกมารวมกัน จะพบว่ามีมูลค่ารวมมากกว่า 5.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 4.4 ล้านล้านเหรียญในปี 2016 ตัวเลขนี้มากกว่า GDP หรือ gross domestic product ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศใหญ่ 4 ประเทศรวมกัน เช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศส

6. ปี 2017 คือปีที่มีมหาเศรษฐีเกิดขึ้นมากที่สุด

จากการสำรวจของนิยสาร Forbes พบว่าปี 2017 คือปีที่โลกมีมหาเศรษฐีเกิดขึ้นมากที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยรายงานของ Forbes เมื่อมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าโลกมีมหาเศรษฐีมากกว่า 2,043 ราย เพิ่มขึ้น 230 รายเมื่อเทียบกับปี 2016

7. เศรษฐีใหม่ส่วนใหญ่อยู่ที่จีน

หากมองเฉพาะเศรษฐีเกิดใหม่ จีนคือประเทศที่มีจำนวนเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นมากที่สุด โดย Forbes ประเมินว่าตัวเลขเศรษฐีใหม่จีนอยู่ที่ 76 คน ขณะที่รองแชมป์คือสหรัฐฯ ซึ่งมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้น 25 คน

8. ช่องว่างเห็นชัด

ในขณะที่ปี 2017 คือปีที่ถูกมองว่าเป็น “ช่วงเวลาสุดบูมของมหาเศรษฐี” แต่ด้วยความที่จำนวนเศรษฐีที่เพิ่มขึ้นระดับสุดยอด “all-time high” ชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้ปี 2017 กลายเป็นปีที่โลกมองเห็นช่องว่างทางเศรษฐกิจได้ชัดเจนมาก

การสำรวจจากธนาคาร Credit Suisse ประเมินว่า 1% ของมหาเศรษฐีโลก มีทรัพย์สินเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินในครัวเรือนทั่วโลกรวมกัน แต่ในทางกลับกัน กลุ่มผู้ที่ยากจนที่สุดของโลกเกินครึ่ง กลับมีทรัพย์สินรวมกันไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของเศรษฐีโลก

อ่านแล้วอาจงง แต่ขอให้เข้าใจว่าช่องว่างความรวยบนโลกนี้กำลังใหญ่ขึ้นทุกที ผู้สนใจ ติดตามรายชื่อทำเนียบเศรษฐี 500 อันดับได้จากที่มา ซึ่งจะพบว่า “เจ้าสัวเจริญ” อยู่อันดับ 63 ของโลก นำโด่งคนไทยอีก 6 คนที่ติดทำเนียบนี้เช่นกัน

www.janjao.net

อัพเดทล่าสุด