วันนี้เราจึงนำภาพของ ผ้าอนามัย ในอดีตว่ามี กากมะพร้าว เข้ามาเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ แล้วถ้ามีหน้าตามันจะเป็นอย่างไร จะสร้างความอึดอัดให้กับสาวๆ ในช่วงมีประจำเดือนหรือป่าว เราลองไปดูกันเลย....
นี่คือหน้าตา “ผ้าอนามัย” ของผู้หญิงในอดีต ไม่น่าเชื่อ “กากมะพร้าว” ก็มาจริงๆ !!
ผ้าอนามัย เป็นสิ่งสำคัญของสาวๆในช่วงมีรอบเดือน หรือ ประจำเดือน ซึ่งมันมีหน้าที่คอยซึบซับเลือดเหล่านั้นไม่ให้ไหลออกมาภายนอกสร้างความรำคานและสกปรก หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวของ "กากมะพร้าว" ที่มาที่เกี่ยวข้องกับผ้าอนามัย
วันนี้เราจึงนำภาพของ "ผ้าอนามัย" ในอดีตว่ามี "กากมะพร้าว" เข้ามาเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ แล้วถ้ามีหน้าตามันจะเป็นอย่างไร จะสร้างความอึดอัดให้กับสาวๆ ในช่วงมีประจำเดือนหรือป่าว เราลองไปดูกันเลย
"กากมะพร้าว" เข้ามาเกี่ยวข้องกับผ้าอนามัยจริง โดยสาวไทยในสมัยก่อนใช้กากมะพร้าว ทุบให้นิ่ม แล้วพ่อด้วยผ้าที่เย็บไว้เอามาใส่บริเวณจุดซ่อนเร้น ลักษณะคล้ายกับซูโม่ หรือ สาวไทยบางคนใช้ผ้าถุงห่อกากมะพร้าว ก่อนหน้านี้นำ "กากมะพร้าว" ไปแช่น้ำ แล้วนำมาทุบให้นุ่มก่อนจะนำไปใช้งาน ซึ่งมีวิธรการตามภาพด้านล่าง
หลังจากนั้นมาเกิดวิวัฒนาการเป็นแบบห่วง และ ซักได้
ต่อมา จอห์นสัน แอนด์ จอห์สัน เป็นผู้ผลิตผ้าอนามัยรายแรก ชื่อ Lister’s Towels ตั้งแต่ปี ค.ศ.1896 ซึ่งในช่วงนั้นสาวๆยังไม่กล้าใช้เพราะข้อความที่ระบุข้างกล่องว่า “ผ้าอนามัยสำหรับคุณสุภาพสตรี (Sanitary for ladies) หลังจากนั้นจึงปรับให้ดูเรียบหรูไม่มีข้อความ มีแต่ชื่อแบรนด์เท่านั้น
ต่อมาเป็นรุ่น Kotex ผ้าอนามัยแบบนี้ผลิตจากผ้าฝ้าย ได้ไอเดียจากการใช้ผ้าซับเลือดในทหารสงครามที่ฝรั่งเศส
ต่อมาเป็น Modess กับ คูปองที่แอบซื้อผ้าอนามัย เพราะสาวๆในสมัยนั้นยังอายกับการซื้อผ้าอนามัย เลยคิดวิธีการตัดโฆษณาจากนิตยสารเผื่อรับกล่องผ้าอนามัยนั้นเอง
หลังจากนั้น ค่อยๆ วิวัฒนาการกลายเป็น ผ้าอนามัยแบบแถบกาว ที่เราใช้กันนั้นเอง เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจและนับถือคนที่คิดผลิตขึ้นมา หากไม่ได้พวกเขารับรองว่าป่านนี้เราอาจต้องปลุกต้นมะพร้าวเพื่อทำผ้าอนามัยกันก็ได้นะเนี่ย
สุดท้ายอยากฝากทิ้งท้ายให้สาวระมัดระวังเรื่องการใช้ผ้าอนามัยที่ดี และถูกต้องคือ
1. ควรเปลี่ยนอย่างน้อย 2 ผืน ต่อวัน หรือให้ดีคือ 2-4 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้อับชื้นและเกิดการติดเชื้อได้
2. ควรสำรวจว่าใช้ผ้าอนามัยแบบไหน แบบสอด หรือปกจิ เพราะหากทิ้งไว้นานอาจก่อนเกิดอันตรายในร่างกาย เนื่องจากได้รับสารพิษ (Toxin) จากเชื้อแบคทีเรียพวกสตาฟีโลคอคคัส (Staphylococcus spp.) ที่จะทำให้ ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย (เรียกว่า ทอกซิค ชอคซินโดรม -Toxic Shock Syndrome)
3. ควรเก็บผ้าอนามัยในที่แห้ง สังเกตุวันหมดอายุ และหากใช้แล้วแพ้ไม่ควรใช้ต่อนะ
ที่มา: www.tsood.com
info.muslimthaipost.com