https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
วิตามินบี แต่ละชนิด มีประโยชน์อย่างไรบ้าง MUSLIMTHAIPOST

 

วิตามินบี แต่ละชนิด มีประโยชน์อย่างไรบ้าง


975 ผู้ชม

วิตามินเป็นกลุ่มสารอาหารที่แม้จะไม่ได้ให้พลังงาน แต่ก็มีความสำคัญและขาดไม่ได้


วิตามิน เป็นกลุ่มสารอาหารที่แม้จะไม่ได้ให้พลังงาน แต่ก็มีความสำคัญและขาดไม่ได้ เพราะใช้ในการทำงานของร่างกายแทบทุกระบบ เป็นส่วนประกอบของสารสำคัญต่างๆ ในร่างกาย และเป็นตัวช่วยให้ปฏิกิริยาทางชีวเคมีต่างๆ ในร่างกายดำเนินไปตามปกติ

หากร่างกายของเราขาดวิตามิน ก็จะส่งผลให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดพลาด สูญเสียประสิทธิภาพ และอาจก่อให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร สุขภาพผิวพรรณ การขาดวิตามินจึงเปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่ขาดสารหล่อลื่น เมื่อใช้งานไปนานๆ เครื่องก็อาจรวนและหยุดทำงานได้

การรักษาระดับสมดุลของวิตามินและแร่ธาตุในร่างกายให้อยู่ในปริมาณที่พอดี จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยวันนี้เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกกับ “วิตามินบี” ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ และมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อร่างกายแตกต่างกันไปดังนี้ค่ะ

วิตามินบี 1 (ไทอามีน) vitamin B1
มีบทบาทสำคัญ คือ บำรุงสุขภาพและการควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ ช่วยการทำงานในระบบแปลงน้ำตาลในเลือดให้กลายเป็นพลังงาน เมื่อใดที่ขาดวิตามินบี 1 ผลที่ตามมาคือปวดศีรษะ ประสาทอ่อน เส้นประสาทอักเสบ ความคิดวุ่นวาย สับสน หากกล้ามเนื้อขาดวิตามิน จะทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ หรืออาจจะเป็นอัมพาตเฉพาะส่วน เช่น แขน ขา และเป็นตะคริว
แหล่งอาหาร : ข้าวไม่ขัดสี ข้าวโอ๊ต โฮลวีต รำข้าว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง นม ไข่แดง ปลา เนื้อไม่ติดมัน

วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) vitamin B2
ช่วยเสริมสร้างพลังงานแก่ร่างกาย โดยร่วมกับโปรตีนและสารอื่น สร้างเอนไซม์ที่จำเป็นต่อกระบวนการสลายน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน วิตามินชนิดนี้ถูกเก็บสะสมไว้ในตับและไต โดยจะถูกดึงเข้าสู่เนื้อเยื่อในปริมาณที่เหมาะสม นักกีฬาและผู้ออกกำลังกายหนักๆ จึงควรได้รับวิตามินบี 2 มากเป็นพิเศษ เพื่อล้างพิษอันเกิดจากอนุมูลอิสระที่ทำลายผิวหนังและเนื้อเยื่อภายใน หากร่างกายขาดวิตามินบี 2 จะก่อให้เกิดโรคปากนกกระจอกได้
แหล่งอาหาร : ไข่ นม โยเกิร์ต ชีส ปลา ตับ ผักใบเขียว ถั่ว

วิตามินบี 3 (ไนอาซิน) vitamin B3
ช่วยสร้างระบบเอนไซม์และชักนำให้เกิดกระบวนการสันดาป จึงมีความสำคัญในระบบเผาผลาญ ระบบย่อยอาหาร และระบบไหลเวียนเลือด ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการท้องร่วง ลดระดับคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ การขาดวิตามินบี 3 จะทำให้เกิดอาการง่วงซึม นอนไม่หลับ กระวนกระวายใจ ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือโรคซึมเศร้าได้
แหล่งอาหาร : ไข่ ปลา เนื้อไม่ติดมัน ไก่ ตับ โฮลวีต จมูกข้าวสาลี ถั่วลิสง อะโวคาโด อินทผลัม ลูกพรุน มะเดื่อฝรั่ง

วิตามินบี แต่ละชนิด มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

วิตามินบี 5 (กรดแพนโทเธนิก) vitamin B5
มีความสำคัญต่อการผลิตพลังงาน การเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอล ต่อต้านการอักเสบ เสริมสร้างระบบประสาท ช่วยสร้างสารกระตุ้นเพื่อลดความเครียด ด้วยเหตุนี้ วิตามินบี 5 จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “วิตามินคลายเครียด”
แหล่งอาหาร : กะหล่ำปลี บรอคโคลี คะน้า จมูกข้าวสาลี ถั่ว อะโวคาโด และผลิตภัณฑ์จากนม

วิตามินบี 6 (ไพริด๊อกซิน) vitamin B6
มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างและแบ่งตัวของเซลล์ทุกชนิด เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว จึงช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดีขึ้น ช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันนิ่วในไต และลดเสี่ยงโรคหัวใจ
แหล่งอาหาร : มันฝรั่ง กล้วย เนื้อไก่ เมล็ดทานตะวัน น้ำมะเขือเทศ ผักโขม ถั่วลิสง ปลาแซลมอน ปลาทูน่า อะโวคาโด ข้าวไม่ขัดสี กะหล่ำปลี แคนตาลูป ถั่ววอลนัท

วิตามินบี 7 (ไบโอติน) vitamin B7
เป็นวิตามินที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะ ช่วยป้องกันผมหงอก ผมร่วง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผมและหนังศีรษะ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและโปรตีนในร่างกาย ช่วยลดอาการซึมเศร้า เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
แหล่งอาหาร : ตับ ไต เครื่องในสัตว์ นม ไข่แดง ยีสต์ หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ แครอท อะโวคาโด กล้วย อัลมอนด์

วิตามินบี 9 (กรดโฟลิกหรือโฟเลต) vitamin B9
เป็นวิตามินที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพื่อใช้ในพัฒนาการของเด็กในครรภ์ ป้องกันความผิดปกติและความเสี่ยงพิการของเด็กทารก อีกทั้งยังช่วยในด้านการบำรุงสุขภาพและผิวพรรณ แต่หากรับวิตามินบี 9 เกินปริมาณที่แนะนำต่อวัน อาจส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจางได้
แหล่งอาหาร : ปวยเล้ง คะน้า ผักบุ้ง ฟักทอง อะโวคาโด ส้ม สับปะรด ฝรั่ง ข้าวกล้อง

วิตามินบี 12 (โคบาลามิน) vitamin B12
เป็นวิตามินที่ช่วยเร่งพลังงานของร่างกาย โดยดึงไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตไปใช้ ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด บำรุงประสาท เพิ่มความเจริญอาหาร เพิ่มสมาธิและความทรงจำ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าและนอนหลับได้ดีขึ้น การขาดวิตามินบี 12 อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้
แหล่งอาหาร : เนื้อ ปลา ไข่ ผลิตภัณฑ์นม เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ

จะเห็นได้ว่า วิตามินบีเป็นวิตามินพื้นฐานที่ขาดไม่ได้เลย เพราะใช้ในการทำงานของร่างกายแทบทุกระบบ ดังนั้นเราควรหันมาเพิ่มวิตามินบีให้กับร่างกายกันนะคะ เพื่อจะให้ร่างกายทำงานต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพกันค่ะ

credit: อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ

อัพเดทล่าสุด