ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวเวิร์คกิ้งวูแมน ก็ย่อมต้องการให้ทุกคนยอมรับในความสามารถ จนบางครั้งทำงานไม่ได้หยุดหย่อน ลืมเวลาไปว่า 5 ทุ่มแล้วยังไม่ถึงบ้าน (เพราะทำงานอยู่) ด้วยซ้ำ แถมนัดเจอกับหวานใจก็เจอโรคเลื่อนครั้งแล้วครั้งเล่า
วัดระดับ ความบ้างาน
ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวเวิร์คกิ้งวูแมน ก็ย่อมต้องการให้ทุกคนยอมรับในความสามารถ จนบางครั้งทำงานไม่ได้หยุดหย่อน ลืมเวลาไปว่า 5 ทุ่มแล้วยังไม่ถึงบ้าน (เพราะทำงานอยู่) ด้วยซ้ำ แถมนัดเจอกับหวานใจก็เจอโรคเลื่อนครั้งแล้วครั้งเล่า
เห็นอาการอย่างนี้ควรเริ่มสงสัยแล้วว่าคุณกำลังเข้าข่ายสาวบ้างานหรือที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า “เวิร์คอะฮอลิค” (Workaholic) หรือเปล่าเพื่อให้เกิดความชัวร์ ลองมาตอบคำถามที่ลิสต์มานี้สักหน่อย
จุดวัดระดับความบ้างาน
* คุณรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ทำงาน มากกว่าตอนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับสมาชิกในครอบครัวซะอีก
* คุณเอางานกลับไปที่บ้าน ทั้งเวลานอน หรือแม้ตอนวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันลาพักร้อน
* พอได้คุยเรื่องงานทีไร คุณเองจะรู้สึกว่าเป็นประเด็นฮ็อตมากกว่าเรื่องใดๆ ในโลกหล้า
* กิจกรรมเกี่ยวกับงานเป็นสิ่งที่คุณโปรดปรานมากที่สุด
* ในหนึ่งสัปดาห์คุณให้เวลากับการทำงานมากกว่า 40 ชั่วโมง
* งานอดิเรกของคุณต้องเป็นสิ่งที่ทำเงินให้กับคุณด้วยนะ
* ไม่ว่าผลของการทำงานจะเป็นอย่างไร คุณจะอ้าแขนรับในทุกกรณี แม้จะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายก็แอ่นอกรับแต่เพียงผู้เดียว
* คนที่บ้าน แฟน กลุ่มเพื่อน เลิกคาดหมายว่าคุณจะมาตรงตามเวลานัดหมาย เพราะคุณ อ้างแต่เรื่องติดงานทุกที
* งานไม่เสร็จ คุณจะรู้สึกกังวลและจะต้องยืดเวลาการทำงานของตัวเองออกไป จนต้องทำงานนอกเวลาอยู่บ่อยๆ
* คุณคิดว่าถ้าได้ทำงานที่รัก จะเสียสละเวลามากหรือนานเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ใช่ปัญหา
* เวลาเห็นเพื่อนร่วมงานไม่สนใจงานของตัวเองเป็นสิ่งแรก คุณจะรู้สึกผิดหวังกับเพื่อนๆเหล่านั้นในทันที
* คุณกลัวว่าถ้าไม่ขยันและไม่ทำงานให้เสร็จตามเป้าหมาย ก็อาจได้ชื่อว่าเป็นคนล้มเหลวและอาจตกงานได้
* แม้ว่างานการทุกอย่างที่ทำมาจะมีวี่แววแจ่มใสดีแล้ว คุณก็ยังคิดว่ายังวิตกกับเรื่องในอนาคตอยู่ดี
* เวลาจะทำอะไรก็ตาม แม้แต่การเล่นเกม คุณจะเอาจริงเอาจริงจนเกินเหตุ จนบางครั้งลืมเอนเตอร์เทนไปเลย
* คุณจะเริ่มมีอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาทันที ถ้าใครมาบอกให้คุณหยุดพักการทำงานไว้ชั่วครู่แล้วค่อยมาทำต่อ
* เคยคิดไหมว่าการทำงานนานๆ หลายชั่วโมงจะทำลายสัมพันธภาพของคุณกับคนในครอบครัวหรือกับเพื่อนๆ หรือกับความสัมพันธ์รูปแบบอื่นๆ กับคนรอบข้าง และแม้แต่สุขภาพของตัวเอง
* ขับรถอยู่ก็คุยเรื่องงาน นอนหลับก็ฝันถึงเรื่องงาน หรือตอนทำกิจกรรมอื่นๆ ก็มีเรื่องงาน..งานมาอยู่ในความสนใจไปซะทุกที
* คุณเชื่อว่าทำงานให้ได้เงินเยอะๆ จะช่วยแก้ปัญหาอีกหลายปัญหาในชีวิต
สรุปว่าคุณบ้างานหรือไม่
ถ้าตอบคำถามข้างต้นว่า “ใช่” ทุกข้อหรือแทบทุกข้อก็เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่าคุณเข้าข่ายบ้างานแล้วละ ทั้งนี้ ดร. เอริค ดารร์ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย Harrisburg of Science and Technology แถลงว่าอาการของ “คนบ้างาน” กับ ”คนเอาการเอางาน” นั่นไม่เหมือนกัน
คนที่เข้าข่ายบ้างานก็อย่างเช่น ใน 1 สัปดาห์ทำงานมากกว่า 40 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังรวมถึงประเภทหอบงานเอาไปทำหรือเอาไปคิดต่อที่บ้าน และเลวร้ายไปถึงการทำงานแต่งานจนยอมให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนที่คุณรักต้องถูกบั่นทอนไปอย่างน่าเสียดาย
ดร.เอริคย้ำกันตรงนี้ว่า “คนบ้างานก็คือคนที่ไม่รู้จักจัดสมดุลในเรื่องงานกับเรื่องชีวิตส่วนตัว ทางออกก็คือต้องรู้จักแยะแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เพราะชีวิตคนเราไม่ได้มีเรื่องงานเพียงอย่างเดียว เวลาพักผ่อนหรือลาพักร้อนก็ต้องรู้จักให้เวลากับชีวิตส่วนตัวอย่างเต็มที่ ที่สำคัญต้องให้เวลากับครอบครัว รู้จักคบหาสมาคมกับเพื่อนฝูงและผูกมิตรกับคนในวงสังคมเพื่อเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้นด้วย”
ที่มา : women.sanook.com