สามารถทำได้หลายวิธี แต่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ การลดน้ำหนักแบบชั่วคราว และการลดน้ำหนักแบบถาวร หลายคนคงเคยเห็น การชั่งน้ำหนักของนักมวย ก่อนขึ้นชก ถ้าน้ำหนักเกินพิกัด นักมวยเหล่านั้น ก็จะพยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีชั่วคราว เพื่อให้น้ำหนักอยู่ในพิกัด จึงจะสามารถขึ้นชกได้ การลดน้ำหนักแบบชั่วคราว ที่ให้ผลเร็วที่สุดก็คือ การนำ 'น้ำ' ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกายที่ทำให้เกิดน้ำหนัก ออกจากร่างกาย นักมวยเหล่านั้น อาจทำการกระโดดเชือก อบไอน้ำ ใส่เสื้อผ้า เพื่อห่อหุ้มร่างกาย เพื่อให้เหงื่อออกมากที่สุด แล้วจึงขึ้นชั่งน้ำหนักใหม่ และเมื่อชั่งน้ำหนักผ่านแล้ว มาดื่มน้ำสักแก้วสองแก้ว น้ำหนักก็จะกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นการลดน้ำหนักวิธีนี้ จึงเป็นเพียงวิธีลดน้ำหนักเพียงชั่วคราว ไม่เกิดผลดีใดๆกับสุขภาพ แต่อาจมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อย เมื่อยล้า จากการเสียเกลือแร่ควบคู่ไปกับเหงื่อด้วยเท่านั้น จุดประสงค์ของการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ มุ่งหวังที่จะไปลดปริมาณไขมันเป็นสำคัญ มิใช่ไปลดกล้ามเนื้อ หรือปริมาณน้ำในร่างกาย การลดน้ำหนัก ด้วยวิธีอดอาหาร แม้ว่าผู้ที่ตั้งใจจะลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ อยากให้น้ำหนักลดในระยะยาว แต่ผลที่ได้กลับเป็นตรงกันข้าม ธรรมชาติของมนุษย์ ต้องการอาหาร เพื่อนำไปใช้ในการสร้างพลังงานเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ร่างกายจึงมีสัญญาณเตือน เมื่อพลังงานเริ่มลดน้อยลงด้วยอาการอยากอาหาร ในช่วงอดอาหาร จะมีน้ำหนักลดลง เนื่องจากร่างกาย นำพลังงานที่เก็บไว้ในร่างกายในรูปไขมัน ออกมาใช้เผลาผลาญเป็นพลังงานเพื่อการดำรงชีวิตช่วงนั้น ร่างกายจะเกิดการปรับตัวให้ใช้พลังงานน้อยลงไปด้วย เรียกว่า ในช่วงมีน้อยก็ใช้น้อย คุณคงยอมรับว่า ไม่มีใครที่สามารถอดอาหารได้ไปตลอดชีวิต ดังนั้น เมื่อถึงจุดที่ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร ไม่สามารถทนการอดอาหารได้อีกต่อไป หรืออดอาหารจนได้น้ำหนักตัวที่พอใจแล้ว กลับมากินอาหารใหม่ มักจะกลับมากินอาหารในปริมาณที่มากกว่าเดิม หรือแม้จะกลับมากินอาหารในปริมาณเดิม แต่ความต้องการใช้พลังงานได้ถูกปรับลงไปแล้ว อาหารที่กินเข้าไป จึงเหลือและถูกร่างกายนำไปเก็บสะสมไว้อีก ดังนั้น ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร เมื่อกลับมากินอาหารใหม่ มักจะกลับมาอ้วนอย่างรวดเร็ว และจากสถิติพบว่า ส่วนใหญ่ จะกลับมามีน้ำหนักมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์เช่นนี้ เรียกว่า โย-โย่ เอฟเฟ็กค์ (Yoyo effect) ซึ่งมีผลเสียทั้งต่อสุขภาพทางกาย และสุขภาพทางใจ แม้ว่า ความอ้วนจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพ แต่การมีน้ำหนักเปลี่ยนแปลงทีละมากๆ ตลอดเวลา กลับมีผลเสียมกกว่า โดยพบว่า อัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดและเสียชีวิต เพิ่มสูงขึ้น ส่วนผลทางด้านจิตใจนั้น การที่ลดน้ำหนักแล้วกลับมามีน้ำหนักมากอีกครั้ง จะบั่นทอนความเชื่อมั่นในตัวเองของคุณ และทำให้กำลังใจของคุณลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ และเมื่อเหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นหลายๆ ครั้งเข้า คุณก็อาจหมดกำลังใจ และเลิกคิดที่จะลดน้ำหนัก ในที่สุดกลายเป็น คนอ้วน แบบถาวรไปเลย การลดน้ำหนักด้วยการใช้ยา ก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน คุณต้องยอมรับความจริงที่ว่า คุณไม่สามารถกินยาลดความอ้วนไปตลอดชีวิต ดังนั้น เมื่อใดที่คุณหยุดกินยา คุณก็จะกลับมาอ้วนใหม่ นอกจากนี้ ผลของยาลดความอ้วนส่วนใหญ่ มักได้ผลในประมาณร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักตัวเท่านั้น แพทย์มักจะให้ยาเหล่านี้ กับผู้ป่วยในช่วงแรก เพื่อเป็นการช่วยผู้ป่วยในระยะแรกๆ เพื่อให้มีกำลังใจในการลดน้ำหนัก แต่ในระยะยาวแล้ว ยาเหล่านี้จะมีผลน้อยมาก และบางชนิด อาจมีผลเสีย จากการใช้ยาเหล่านี้ในระยะยาวได้ การลดน้ำหนักให้ได้ผลแบบถาวร จำเป็นที่จะต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ในเวลาที่เหมาะสม และเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอาหารและกิจกรรมในชีวิตอย่างถาวร ดังนั้น สิ่งที่คุณควรทำ ก็คือ ทำการศึกษาหาข้อมูลการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง วางแผนการลดน้ำหนักของคุณเองโดยกำหนดเป้าหมายที่เป็นจริงปฏิบัติได้จริง เลือกช่วงเวลาในชีวิตของคุณที่เหมาะสมกับการเริ่มลดน้ำ หนัก เข้าใจถึงจุดประสงค์ของการลดน้ำหนักโดยเน้นเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ เพื่อที่คุณจะไม่เลือกวิธีใดๆ ก็ตามที่บั่นทอนสุขภาพ เช่นวิธีอดอาหาร ดังที่ได้อธิบายมาแล้ว และสุดท้ายที่สำคัญมากก็คือ คุณจะต้องมีความสุขในช่วงระยะเวลาที่คุณลดน้ำหนักตัว สิ่งเหล่านั้น จะถูกนำมากล่าวโดยละเอียดในตอนต่อไป |
ที่มา https://deepmarinewhey.exteen.com/ |