โรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้อากาศ มีวิธีกัน แก้ อย่างเห็นผล !!


1,218 ผู้ชม


ภูมิแพ้...กัน-แก้อย่างไร

โรคภูมิแพ้ \ โรคภูมิแพ้อากาศ มีวิธีกัน แก้ อย่างเห็นผล !!
เดี๋ยวนี้คนเราเป็นโรคภูมิแพ้กันมากขึ้น ในช่วงสงกรานต์นี่นอกจากอากาศจะร้อนมากแล้วมักจะมีฝนตกด้วย ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงนี่อาจทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบได้ ซึ่งคลินิกหู คอ จมูก โรงพยาบาลเวชธานี ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ
โรคภูมิแพ้เกิดจากกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม โดยคนที่เป็นภูมิแพ้จะมีปฏิกิริยา ตอบสนองไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ เมื่อมีสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย สารภูมิคุ้มกันชนิดอีจะเข้าทำปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ เป็นผลให้เซลล์บางชนิดแตกตัวและหลั่งสารเคมีออกมาทำให้เกิดอาการต่าง ๆ
สารก่อภูมิแพ้ในอากาศแบ่งเป็น 2 ประเภท คือสารก่อภูมิแพ้ที่พบในบ้าน เช่น ไรฝุ่น สปอร์ของเชื้อรา ซากแมลงสาบ สัตว์เลี้ยงในบ้าน และสารก่อภูมิแพ้ที่พบนอกบ้าน ได้แก่ ละอองเกสรหญ้า เชื้อรา วัชพืช ต้นไม้ เป็นต้น
เมื่อผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้ได้รับสารเหล่านี้เข้าไปในปริมาณที่มากพอจะ กระตุ้นทำให้อาการของโรคภูมิแพ้กำเริบได้ เช่น น้ำมูกไหล ไอ จาม คันตา คันจมูก เป็นต้น
หากแพ้ไรฝุ่นจะทำยังไง ?
ตัวไรฝุ่นเป็นแมลงที่มีขนาดเล็กมาก 10-30 ไมครอน มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า มี 8 ขา ลักษณะคล้ายแมงมุม เห็บ หมัด ชอบอยู่ในที่อุ่นชื้น โดยเฉพาะอุปกรณ์เครื่องนอน เช่น หมอนหนุน ที่นอน พรม เฟอร์นิเจอร์ และตุ๊กตาของเล่นที่ทำจากผ้า ซึ่งสารก่อภูมิแพ้สำคัญเป็นโปรตีนจากตัวไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น
วิธีการรับมือก็ต้องคลุมที่นอน หมอน ด้วยผ้าที่มีช่องระหว่างเส้นใยเล็กมากจนตัวไรฝุ่นและมูลของมันไม่สามารถผ่าน เข้าไปได้ ซักผ้าปูที่นอนและผ้าห่มทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ ในน้ำร้อนที่อุณหภูมิมากกว่า 55 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที
เช็ดทำความสะอาดบานเกล็ด ม่าน เครื่องนอน และถูพื้นด้วยผ้าเปียก ทุก ๆ สัปดาห์เพื่อขจัดฝุ่นละออง โดยควรนำของเล่น สมุดหนังสือ พรมและตุ๊กตา ออกไปไว้นอกห้องนอน หรือหาตู้เก็บอย่างมิดชิด
สำหรับเครื่องกรองอากาศหรือฟอกอากาศ อาจมีผลช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นได้บ้าง แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันแน่ชัดว่าสามารถช่วยให้อาการของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ทุเลาลง
หากแพ้ซากแมลงสาบก็ต้องดูแลรักษาบ้านเรือนให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อ มิให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงสาบ ภาชนะเก็บเศษอาหารควรมีฝาปิดให้มิดชิด ควรกำจัดขยะและเศษอาหารภายในบ้านทุกวัน อาจพิจารณาใช้ ยาฆ่าแมลง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาฉีดยาขจัดแมลงในบ้านเป็นระยะ
ในสัตว์เลี้ยงจากแมวพบได้จากรังแค ขน น้ำลาย ซีรั่ม และปัสสาวะ ส่วนสุนัขพบได้จากรังแค ขน และน้ำลาย ซึ่งอนุภาค ของสารก่อภูมิแพ้ชนิดนี้มีขนาดเล็กล่องลอยในอากาศ และสามารถคงอยู่ได้นานถึง 6 เดือน แม้ว่าจะมีการนำสัตว์เลี้ยงออกไปแล้วก็ตาม
วิธีการรับมือที่ดีที่สุดคืองดเลี้ยงสัตว์ หรือถ้ายังเลี้ยงอยู่ก็ควร มีการแยกออกไปจากห้องนอน หรือบริเวณที่พักผ่อนเป็นประจำ ไม่ควรเล่นคลุกคลีใกล้ชิด และควรอาบน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงเป็นประจำทุกสัปดาห์ ส่วนการติดตั้งเครื่องกรองอากาศประเภทที่มีประสิทธิภาพการกรองสูง มีประโยชน์ในแง่ของการลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ
นอกจากนี้ยังมีคนที่แพ้สปอร์ของเชื้อรา ซึ่งมักเกิดตามที่อับชื้น เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณที่มีใบไม้แห้งร่วงทับถมกัน
วิธีการรับมือ หลีกเลี่ยงการปลูกต้นไม้ใส่กระถางไว้ในตัวบ้าน หมั่นดูแลและกำจัดใบไม้ที่ร่วงทับถมอยู่บนพื้น หรือเศษหญ้าที่ชื้นแฉะ ทำความสะอาดห้องน้ำบ่อย ๆ โดยเฉพาะกระเบื้องปูพื้นและผนัง ม่านพลาสติก ใต้อ่างล้างมือ โถส้วมและตามซอกมุม ซึ่งมักพบมีราดำเกิดขึ้น ทำความสะอาดห้องครัว ตู้เก็บอาหาร ตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ มิให้เกิดแหล่งน้ำท่วมขัง และเปิดห้องให้มีอากาศถ่ายเท เพื่อลดความอับชื้น
ส่วนใครที่แพ้ละอองเกสรหญ้าและวัชพืช ก็ควรตัดหญ้าและวัชพืชในสนามบ่อย ๆ ปิดประตูหน้าต่างเพื่อป้องกันละอองเกสรจากภายนอก หรืออาจติดตั้งเครื่องกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพการกรองสูง
นอกจากหลีกเลี่ยงในสิ่งที่แพ้แล้ว การออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนอย่างเต็มที่ สามารถควบคุมอาการโรคภูมิแพ้ได้
ที่มา  www.healthcorners.com

อัพเดทล่าสุด