การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง การตรวจการตั้งครรภ์โดยปัสสาวะ สงสัยว่าตัวเองตั้งครรภ์ จะตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองได้หรือเปล่า ในขณะที่มนุษย์ตั้งครรภ์ ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายอย่างเพื่อเตรียมตัว สำหรับอีกชีวิตหนึ่งที่จะเกิดมา ก็เหมือนเราเตรียมบ้านสำหรับคนมาใหม่ ต้องเก็บต้องจัดของให้เข้าที่เรียบร้อย การจะรู้ว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า ถ้าจะอาศัยอาการทางร่างกายคงเป็นเรื่องยาก และไม่แน่นอน ยิ่งในช่วงเริ่มต้น อย่างเรื่อง คลื่นไส้อาเจียนก็ไม่ได้เป็นอาการเฉพาะเจาะจงของคนท้องเสมอไป โรคอื่น สาเหตุอื่นก็ทำให้มีอาการอย่างนี้ได้ ดังนั้นจึงต้องอาศัยการตรวจ จึงจะบอกได้แน่ชัด ถ้าไปหาหมอ หมอก็อาจตรวจปัสสาวะพร้อมกับตรวจร่างกาย ถ้ายังไม่แน่ใจหมออาจตรวจเลือดหรือตรวจ Ultrasound เพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า * มีคนมากมายถามว่าแล้วถ้าไม่ไปหาหมอจะตรวจการตั้งครรภ์เองได้ไหม ? ตอบว่าได้เพราะทุกวันนี้มีชุดตรวจสำเร็จรูปสำหรับตรวจปัสสาวะด้วยตนเอง วางจำหน่ายมากมายหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา ร้านขายยาก็มีขาย ห้างสรรพสินค้าก็มีขาย สินค้าเหล่านี้มักวางขายใกล้ๆชั้นขายยาเม็ดคุมกำเนิดและถุงยางอนามัย ซื้อมาแล้วก็เอามาตรวจเองที่บ้าน * ชุดตรวจปัสสาวะเพื่อใช้ตรวจการตั้งครรภ์ ซื้อมาแล้วจะเก็บไว้ก่อนก็ได้ที่อุณหภูมิ 4 – 30 องศา (อุณหภูมิห้องก็ใช้ได้) และเมื่อฉีกซองออกมาแล้ว ต้องตรวจทันทีจึงจะได้ผลดี แต่ถ้าฉีกมาแล้วยังไม่ตรวจสามารถเก็บไว้ได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง มิฉะนั้นจะโดนความชื้น ทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้ ซึ่งอาจให้ผลตรวจผิดพลาดได้ * ปัสสาวะที่ใชตรวจการตั้งครรภ์ จะใช้ปัสสาวะตื่นนอนตอนเช้าก็ได้ ฮอร์โมนแยะดี แต่จะใช้ปัสสาวะเวลาอื่นก็ได้ผลเหมือนกัน สำคัญต้องเป็นปัสสาวะสดคือปัสสาวะมาใหม่ๆ * วิธีการตรวจ ตรวจอย่างไร ปกติในชุดจะมีอุปกรณ์ให้มาพร้อมเสร็จสรรพ ทั้งนี้ก็แล้วแต่บริษัท บางบริษัทก็เป็นแบบตลับ (Test pack) หรือแบบแถบจุ่ม (test strip) หรือแบบแผ่นหยด แบบตลับ (Test pack) ทางบริษัทจะเตรียมถ้วย และหลอดดูดปัสสาวะมาให้พร้อม อย่าหยดปัสสาวะมาก ปกติ 3-4 หยดก็พอ แบบแถบจุ่ม (Test strip) อาจมีภาชนะบรรจุปัสสาวะมาให้หรือไม่มีก็ได้ อย่าจุ่มเลยขีดที่กำหนด แบบแผ่นหยด ปกติจะต้องมีหลอดดูดพร้อมก้าน ละเลงปัสสาวะผสมน้ำยามาให้ด้วย อ่านคู่มือที่มีมาให้พร้อม * การอ่านผล ส่วนมากในกล่องของชุดตรวจที่ซื้อมาจะบอกวิธีการอ่านไว้แล้วพร้อมมีรูบภาพ ตัวอย่างด้วย โดยส่วนมากการอ่านผลที่ถูกต้องต้องอ่านภายใน 5 นาที ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้ ที่เคยขึ้นขีดเดียวของบางบริษัท อาจมีอีกขีดโผล่มาได้ ซึ่งไม่ใช่การตั้งครรภ์ และเชื่อถือไม่ได้แล้ว 1. ถ้าขึ้น 2 ขีด แปลว่าให้ผลบวก 2. ถ้าขึ้นขีดเดียว แปลว่าให้ผลลบ (ต้องขึ้นที่ขีด C นะครับ) 3. ถ้าไม่ขึ้นสักขีด แปลว่า อ่านผลไม่ได้ หรือแถบเสีย 4. ถ้าขีด T ขึ้นจางๆ แปลว่า ยังไม่แน่ * การแปลผล ส่วนมากในกล่องของชุดตรวจที่ซื้อมาจะบอกวิธีการอ่านไว้แล้วพร้อมมีรูบภาพตัวอย่างด้วย โดยส่วนมากจะแปลผลดังนี้ 1. ถ้าให้ผลบวกแปลว่าตั้งครรภ์ 2. ถ้าให้ผลลบ แปลว่า ไม่ตั้งครรภ์ หรืออาจตั้งครรภ์แต่ยังตรวจไม่เจอก็เป็นได้ 3. ถ้าไม่ขึ้นสักขีด แปลว่าชุดตรวจนั้นเสีย อาจเสียจากการผลิต หรือเสียจากการเก็บไม่ถูกวิธี หรือหมดอายุ หรือใช้ปัสสาวะเก่าทิ้งไว้นาน การตรวจในครั้งนั้นใช้ไม่ได้ ต้องเอาอันใหม่มาตรวจ 4. ถ้าขีด T ขึ้นจางๆ แนะนำรออีกสองสามวันตรวจใหม่ (คนละยี่ห้อก็ดี) 5. การตรวจนี้ถ้าให้ผลเป็นบวก บอกได้แค่ว่ามีการตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่ได้บอกว่าตั้งครรถ์ในมดลูกหรือนอกมดลูก * ระยะเวลาในการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ การตรวจปัสสาวะปกติก็ควรรอให้ให้รอบเดือนขาดเสียก่อนจึงค่อยตรวจ ในหลายๆครั้งความเครียด วิตกกังวลก็อาจทำให้รอบเดือนมาช้าได้ (โดยเฉพาะในรายที่ยังไม่พร้อม) ดังนั้นเมื่อถึงวันนัดแล้ว รอบเดือนยังไม่มาตามนัด คุณก็สามารถรอได้ รอ 7 วันแล้วค่อยตรวจก็ยังไม่สาย ตรวจแล้วถ้าให้ผลบวก ก็แปลว่าตั้งครรภ์ แต่ถ้าให้ผลลบ ก็รออีก 7 วันค่อยตรวจซ้ำ ตรวจแล้วยังให้ผลลบ ก็รออีก 7 วันตรวจใหม่อีกที ถ้าครั้งนี้ยังให้ผลลบก็เย็นใจได้แล้ว ไม่น่าท้อง (ไม่ได้บอกว่าไม่ท้องแน่ๆ)รออีก 7 วันคราวนี้ถ้าให้ผลลบอีก และกังวลว่าจะตั้งครรภ์(แต่ไม่พร้อม) ก็คงต้องไปหาหมอตรวจแล้วครับ * การตรวจการตั้งครรภ์จะตรวจก่อนรอบเดือนขาดได้ไหม ในกรณีที่มีการผสมเทียมหรือการทำเด็กหลอดแก้ว แพทย์อาจตรวจเลือดหลังจากทำไป 1 – 2 สัปดาห์ เพื่อดูว่าการทำนั้นสำเร็จหรือไม่ ซึ่งการตรวจเลือดปกติก็ตรวจได้ตั้งแต่ 7 - 9 วันหลังไข่ตก แต่ถ้าเป็นการตรวจปัสสาวะอาจตรวจได้ 14 วันหลังไข่ตก นั่นก็คือตั้งแต่วันที่รอบเดือนควรจะมา แต่ชุดการตรวจที่รู้ไวแบบนั้นก็อาจผิดพลาดให้ผลบวกปลอมได้เช่นกัน แต่ในกรณีการตั้งครรภ์ปกติทั่วไปก็ไม่จำเป็นต้องไปรู้ก่อนรอบเดือนขาด ถึงคุณไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ การรู้ก่อนรอบเดือนขาด หรือรู้หลังรอบเดือนขาด 1 – 2 สัปดาห์ก็ไม่มีอะไรต่างกัน * ความน่าเชื่อถือ ตรวจปัสสาวะแล้วให้ผลบวกแปลว่าท้องแน่นอนใช่ไหม ..... ก็ควรจะเป็นอย่างนั้น… แต่เท่าที่เคยเจอก็ไม่แน่เสมอไป ตรวจคราวก่อนให้ผลบวก สองวันต่อมารอบเดือนกลับมาหน้าตาเฉยก็มี แล้วทำไมจึงเป็นอย่างนั้น..... ในบางครั้ง บางบริษัทไวมากฮอร์โมนอื่นที่ไม่ใช่ hCG ก็ให้ผลบวกปลอมก็มีเช่นฮอร์โมน LH แต่ก็พบไม่บ่อยนักผิดพลาดได้ 1- 2 % * อาหารและยาที่กินเข้าไปมีผลให้การตรวจการตั้งครรภ์ผิดพลาดไหม โดยปกติอาหารก็ไม่มีผลอะไร แต่ก็มียาบางอย่าง (เช่นยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้บางตัว เช่นยา promethazine) อาจทำให้ผลตรวจผิดพลาด จากที่ควรบวก แต่ทำให้ผลเป็นลบได้ ยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมน hCG หรือมีส่วนประกอบของฮอร์โมน hCG อาจทำให้มีผลบวกปลอมได้ * ขีดที่สองขึ้นจางๆ แปลว่าอะไร บางครั้งตรวจไปแล้วขีดที่ 2 ทำท่าขึ้นมาแต่ก็จางๆ จะอ่านว่าบวกหรือเปล่า ….ผลที่ได้ถือว่ายังไม่แน่นอนนะครับ ให้รออีก 7 วันค่อยตรวจใหม่ซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ * ซื้อได้ที่ไหน หาซื้อได้ร้านขายยาทั่วไป หรือร้านขายยาในห้าง * ราคาเท่าไหร่ ชุดตรวจการตั้งครรภ์ที่มีจำหน่ายมีหลากหลายยี่ห้อ ราคาตั้งแต่ 50 บาทไปถึงร้อยกว่าๆ * กรณีท้องนอกมดลูกบอกได้หรือเปล่า ลำพังแค่ตรวจปัสสาวะบอกไม่ได้ครับว่าท้องในมดลูกหรือนอกมดลูก การวินิจฉัยว่าท้องนอกมดลูก ต้องอาศัยการตรวจร่างกาย การตรวจอย่างอื่นร่วมด้วย รวมทั้งประวัติอาการต่างๆ แต่ท้องนอกมดลูกก็เจอน้อย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ปล่อยเป็นหน้าที่หมอที่จะวินิจฉัยเอง * คลอดเด็กไปแล้วยังตรวจเจอไหม หลังจากคลอดไม่ว่าคลอดปกติหรือผ่าคลอด หลังจากแท้งไปแล้วไม่ว่าแท้งเองหรือไปทำแท้งมา ฮอร์โมนในเลือดไม่หมดไปทันที แต่จะค่อยๆลดลง 1 – 2 สัปดาห์ยังอาจตรวจปัสสาวะให้ผลบวกได้ แต่อย่างไรก็ตามหลัง 4 สัปดาห์แล้วก็จะให้ผลลบทุกราย * ตกขาวกับการตั้งครรภ์ คนท้องอาจมีตกขาวได้ คนทั่วไปก็มีตกขาวได้ ตกขาวทั้งสองอย่างไม่สามารถแยกกันได้ ไม่ควรใช้เรื่องตกขาวมาเป็นตัวสงสัยว่าท้องหรือเปล่า ถ้าสงสัยว่าจะท้องหรือเปล่า ลองตรวจปัสสาวะด้วยตนเองก่อนดีที่สุด ยังไงก็ดีถ้าตรวจหรือตรวจซ้ำแล้วผลออกมาว่าตั้งครรภ์ก็ให้ไปตรวจครรภ์โดยแพทย์หรือที่โรงพยาบาลอีกครั้งจะดีที่สุดนะครับ :P ตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง Pregnancy test ชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง |
ที่มา www.mitthai.com |