วิตามินดี หลายท่านอาจจำได้ว่า วิตามินดีเกิดเมื่อผิวหนัง ถูกแสงแดด บางคนบอก ว่าประเทศไทยเป็นเมือง ร้อน แดดจัดไหม้ผิว ดังนั้นคนไทยจึงได้รับวิตามิน ดีเพียงพอแล้ว... จริงหรือ ดี กระดูก ครูวิทยาศาสตร์สอน ว่าวิตามินดีช่วยสร้างกระดูก แต่ข้อสอบครูแสนกระดูก จนเราได้ D รู้กันมาตั้งแต่ในปีค.ศ. ๑๙๑๙ ว่ารังสีอัลตร้าไวโอเลต จากแสงอาทิตย์สามารถรักษา โรคกระดูกผุได้ โดยแสง อาทิตย์เร่งการสร้างวิตามินดี และวิตามินดีช่วยสร้างกระดูก เมื่อรู้ดังนี้ คิดว่ารู้ หมดแล้ว นักวิทยาศาสตร์ ก็เลิกสนใจวิตามินดีกันไป หลายสิบปี แต่แล้วได้เกิดเรื่อง ตื่นเต้นในวงการเมื่อมีผู้ค้น พบบทบาทใหม่ของวิตามินดี เช่นการควบคุมการแบ่งตัว และการเปลี่ยนรูปของเซลล์ ซึ่งนำไปสู่การเกิดเซลล์มะเร็ง การเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค น่าสนใจมากครับ พลังแสงอาทิตย์สร้างวิตามิน ดี วิตามินดีสร้างภูมิคุ้มกัน โรค ช่วยอธิบายว่าทำไมคน เป็นโรคเรื้อรังในเมืองใหญ่ เมื่อได้ไปพักผ่อนในบรรยากาศ สดใส อาบแสงแดดอบอุ่น ในชนบทสัก ระยะหนึ่ง จึง หายป่วยจากโรคร้ายได้ และช่วยอธิบายความ เชื่อของคนบางกลุ่มที่ฝึกหัด การรับพลังจากดวงอาทิตย์ เหนืออื่นใด ตอนนี้ เรากำลังพบบทบาทการควบ คุมของเหลวในเซลล์โดยฤทธิ์ ของวิตามินดี ซึ่งจะมีผลต่อ ความชราและรอยเหี่ยวย่น บนผิวหนัง การค้นพบ นานกว่าหนึ่งศตวรรษ แล้วที่ทางการแพทย์ได้ค้น พบโรคกระดูกชนิดหนึ่ง เรียกว่าออสทีโอมาลาเซีย (Osteomalacia) ซึ่งเป็นโรค ที่ทำให้โครงสร้างกระดูกผิด ปรกติ กระดูกพรุน ในปีค.ศ.๑๙๑๘ นัก วิทยาศาสตร์ชื่อเมลแลน บี สามารถทำให้สุนัขมีอาการ ออสทีโอมาลาเซีย โดยให้ อาหารที่ไม่ครบตามหลัก โภชนาการ จากนั้นทำการ รักษาโดยใช้น้ำมันตับปลาซึ่ง อุดมวิตามินเอ เขาจึงสรุปว่า วิตามินเอช่วยรักษาโรคกระดูก ต่อมาในปีค.ศ.๑๙๒๒ แมคคัลลัมได้ทำการวิจัยโดย ทดลองใช้วิตามินเอจาก อาหารอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันตับปลา กลับพบว่าไม่สามารถรักษา โรคดังกล่าวได้ แสดงว่า ต้องเป็นวิตามินเอจากน้ำมัน ตับปลาเท่านั้นหรือ แมคคัลลัมทดลอง ต่อโดยอบน้ำมันตับปลาใน อุณหภูมิที่ร้อนจัดเพื่อทำลาย วิตามินเอให้หมดไป แล้ว เอาน้ำมันตับปลาที่ถูกทำลาย วิตามินเอแล้วป้อนให้สุนัข กิน พบว่ามันยังคงรักษาโรค กระดูกผุได้ แสดงว่ายังมีวิตามิน ชนิดอื่นในน้ำมันตับปลา ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นวิตามิน ดีนั่นเอง วิตามินดีถูกสังเคราะห์ ขึ้นสำเร็จในปีค.ศ.๑๙๓๕ และ นับจากนั้นมาก็มีการวิจัย ค้นพบสารจำพวกวิตามินดี ในรูปแบบต่างกันไปถึงยื่สิบ กว่าโครงสร้าง แต่มีเพียง สองตัวเท่านั้นที่นำมาใช้ประ โยชน์ นั่นคือ วิตามินดี หรือ เออร์โกคาลซิเฟอรอล (Ergocalciferol) วิตามินดี หรือโคเลคาลซิเฟอรอล (Cholecalciferol) ซึ่งหมายถึง กำเนิดจากโคเลสเตอรอล รางวัลจากแสงแดด วิตามินดีส่วนใหญ่ที่ ร่างกายต้องการถูกสร้างขึ้น จากแสงแดด โดยรังสีอัลตร้า ไวโอเลตเปลี่ยนไขมันจำพวก โคเลสเตอรอลในต่อมไขมัน ที่ผิวหนัง ให้เป็นวิตามินดี หลังจากนั้นวิตามินดี จะแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือด นำไปแจกจ่ายใช้งานทั่วร่างกายต่อไป มีการทดลองโดยเลี้ยง หนูด้วยอาหารพร่องวิตามินดี พบว่าสัตว์เหล่านี้จะมีอาการ ของโรค และสามารถทุเลา ลงได้เมื่อนำไปรับแสงแดด ปล่อยให้พวกมันเสียเนื้อตัว ตนเอง นักวิทยาศาสตรืบาง คนอธิบายว่า การที่สุนัข และแมวเสียหนังของพวกมัน หรือการที่นกไซ้ขน คือการ รับวิตามินดีโดยธรรมชาติ บทบาทหน้าที่ บทบาทหลักในร่างกาย คือช่วยเสริมสร้างกระดูก โดยการกระตุ้นให้ลำไส้เล็ก ตอนบนดูดซึมแคลเซียม ช่วยดึงแคลเซียมให้มารวม กันอยู่นอกแอ่งกระดูก และ ช่วยให้ฟอสฟอรัสดูดซึมเข้า ไปรวมตัวกับแคลเซียมง่ายขึ้น การขาดวิตามินดีจึง มีผลต่อการเจริญของกระดูก ทำให้กระดูกพรุน คุณกินแคลเซียมมาก เพียงใดก็ไร้ประโยชน์ หาก คุณอยู่ในภาวะขาดวิตามินดี ทั้งนี้เพราะวิตามินดีทำหน้า ที่ควบคุมเอนไซม์ที่ชื่อว่า ฟอสฟาเตส(Phosphatase) ซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้าง กระดูกและฟัน หากคุณขาดวิตามินดี คุณก็จะขาดเอนไซม์ฟอสฟา เตส ฟอสฟอรัสจะไม่แยก ตัวจากไขมันและน้ำตาลเพื่อ มารวมตัวกับแคลเซียม นอกจากหน้าที่หลักดัง กล่าว เรายังพบคุณประโยชน์ อื่นๆที่น่าสนใจดังนี้ ป้องกันมะเร็ง ความรู้เรื่องวิตามินดี กับมะเร็งเพิ่งเริ่มต้นในปีค.ศ. ๑๙๘๕ นี้เอง ยังต้องการ พิสูจน์อีกมาก ความสนใจวิตามินดี เกิดเมื่อนักระบาดวิทยา หรือ ผู้ที่สอบหาสาเหตุของโรค ได้ลองทำแผนที่เปรียบเทียบ อัตราตายด้วยโรคมะเร็งลำไส้ ใหญ่หรือมะเร็งเต้านม กับ ปริมาณแสงอาทิตย์ในเมือง ต่างๆทั่วสหรัฐอเมริกา พบว่าอัตราการได้รับ แสงแดดมีผลต่ออัตราตาย ด้วยโรคมะเร็งทั้งสองชนิด นักวิทยาศาสตร์พยายาม หาเหตุผลมาอธิบายปรากฏ การณ์ที่ค้นพบ เพราะเรารู้ ว่าวิตามินดีเกี่ยวพันกับการ ดูดซึมแคลเซียม และแคล เซียมก็สัมพันธ์กับมะเร็งลำไส้ ใหญ่ ในปีค.ศ.๑๙๘๕ นัก วิจัยในมหาวิทยาลัยแคลิ ฟอร์เนียได้ตีพิมพ์ผลงานการ วิจัยที่ทำให้วงการวิทยาศาสตร์ ตะลึง เพราะเป็นการวิจัยที่ ยาวนานกว่า ๒๐ ปี ชนิด ว่าคนทำวิจัยเองก็แก่หง่อมกัน เลย งานนี้ชื่อว่า 'Western Electric Health Study' งานเวสเทิร์นอิเล็กตริก เฮลท์ เริ่มต้นเมื่อปีค.ศ.๑๙๕๗ โดยคัดเลือกชายจำนวน ๒,๐๐๐ คนที่ทำงานอยู่ในบริษัท เวสเทิร์น อิเล็กตริกในชิคาโก คนทั้งหมดถูกซักถามเก็บ ประวัติละเอียดยิบ ๒๘ วัน เกี่ยวกับอาหารการกิน และสุขนิสัยทั้งหมด และติดตามคนทั้ง ๒,๐๐๐ ไปเรื่อยๆเป็นเวลานาน ถึง ๑๙ ปี ใครที่ป่วยด้วย มะเร็งลำไส้ใหญ่จะถูกวินิจฉัย โดยละเอียด นำประวัติอาหาร การกินมาจำแนกความแตกต่าง และก็ได้พบว่าคนที่ ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ คือ คนที่กินอาหารวิตามินดีน้อย มาก ขณะเดียวกันจากการ ทำแผนที่ทางภูมิศาสตร์กับ อัตราตายด้วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเต้านม ก็พบเช่น กันว่าพื้นที่ที่มีแสงแดดน้อย จะตายเพราะมะเร็งสองชนิด มาก งานวืจัยสองชิ้นนี้ หนักแน่นพอที่จะให้สถาบัน ทางการแพทย์หลายแห่งหัน มามองวิตามินดีอีกครั้งหนึ่ง และก็พบว่า ความจริง ข้อนี้มิได้เกิดเฉพาะในอเมริกา แต่เป็นไปทั่วโลก ยกเว้น ประเทศที่ประชาชนบริโภค ปลาเป็นอาหารหลัก เช่น ญี่ปุ่น แม้จะได้แสงแดดน้อย แต่ก็ได้วิตามินดีจากน้ำมัน ปลาช่วยเสริม ทำให้อัตรา ป่วยและตายด้วยมะเร็งทั้ง สองชนิดมีน้อย ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ ค้นพบแล้วว่าวิตามินดีในรูป แคลซิเฟอรอล สามารถออก ฤทธิ์ต้านมะเร็งได้(โดยเฉพาะ มะเร็งลำไส้ใหญ่) โดยการ ยับยั้งการแบ่งเซลล์ในหลอด ทดลอง มันยับยั้งเนื้องอกบาง ชนิด ยับยั้งการเจริญเติบโต ของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคีเมีย มะเร็งเต้านม และอื่นๆ โรค Retinoblastoma เป็นโรคเนื้องอกในดวงตาของ เด็ก ในปี ๑๙๖๖ มีการ ค้นพบว่าวิตามินดีช่วยยับยั้งได้ การทดลองมากมาย สนับสนุนบทบาทของวิตามิน ดีกับการป้องกันมะเร็ง ทุก วันนี้งานวิจัยความสัมพันธ์ ระหว่างมะเร็งลำไส้ใหญ่กับ แคลเซียม และวิตามินดี ยัง คงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น มีการเสริมแคลเซียมขนาด ๑,๒๕๐ มิลลิกรัม ให้แก่คน ที่เสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ เช่นคนที่มีญาติพี่น้องเป็น มะเร็ง พบว่าหลังรับแคลเซียม ระยะหนึ่ง การแบ่งเซลล์ผิด ปรกติลดความเร็วลง แม้การทดลองในมนุษย์ ยังไม่เสร็จสิ้น แต่ก็ไม่เสีย หายที่เราจะรับพลังจากแสง แดดให้มากขึ้นสักนิด การกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลายปีมาแล้ว ก่อน การค้นพบยาปฏิชีวนะ แพทย์ สมัยโบราณจะแนะนำให้ผู้ป่วย วัณโรคออกไปอยู่ในชนบท ที่ซึ่งปราศจากมลภาวะ อากาศ ดี และมีแสงแดดอบอุ่น ส่องถึงสม่ำเสมอ การทำงาน กลางแจ้งทำให้ผู้ป่วยแข็งแรง และหายป่วยอย่างอ้ศจรรย์ ถึงวันนี้ เราเห็นความ สัมพันธ์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ระหว่างวิตามินดีกับภูมิคุ้มกัน โรคแล้ว ที่แท้แสงแดดกระตุ้น การสร้างวิตามินดี และวิตามิน ดีมีบทบาทอย่างยิ่งต่อการ สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย มนุษย์ โดยวิตามินดีตัวที่ ชื่อแคลซิเฟอรอลจะกระตุ้น เซลล์เม็ดเลือดขาวตัวสำคัญ คือ Macrophage ให้ทำหน้า ที่จับเชื้อโรคได้อย่างมีประ สิทธิภาพมากขึ้น นักวิทยา ศาสตร์เพิ่งถึงบางอ้อ และ จัดวิตามินดีให้เป็นสารที่เรียก Immunomodulator วิตามินดีกับโรคเรื้อนกวาง โรคเรื่อนกวางเป็น อาการผิดปรกติทางผิวหนัง เกิดจากการเจริญเติบโตเกิน ปรกติของชั้นผิวหนังทำให้ มีผื่นแดง หนังเป็นชั้นหนา ตามร่างกายหลายแห่ง เมื่อไม่นานมานี้คณะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย บอสตันได้รายงานผลการใช้ วิตามินดีในการช่วยรักษา โรคเรื้อนกวางได้ดีระดับน่า พอใจในคนไข้บางราย การขาดวิตามินดี หลังช่วงสงครามโลก ครั้งที่สอง ซึ่งเป็นภาวะข้าว ยากหมากแพง เด็กในเยอรมนี และออสเตรียส่วนใหญ่ มี อาการกระดูกสันหลังโค้งงอ ขาโก่ง เข่าปูดโปน โดยมี สาเหตุจากการกินอาหารขาด วิตามินดี และไม่ค่อยได้รับ แสงแดด กว่าจะรู้ถึงสาเหตุ เหล่านี้ก็ถึงปีค.ศ.๑๙๓๐ โรคกระดูกจากการขาด วิตามินดีเคยระบาดในประเทศ ตะวันตกที่มแสงแดดน้อย ประชาชนต้องรับวิตามินดี จากอาหารซึ่งมีอยู่ไม่กี่ชนิด อันได้แก่ ไขมันปล่ ตับ ไข่แดง และนมเนย แม้ฝรั่งจะกินนมเหมือนกินน้ำ แต่ก็ยังได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ เพราะในนมวัวมีวิตามินดีต่ำมาก ทำให้สหรัฐอเมริกาและแคนาดามีการ เติมวิตามินดีลงในน้ำนมวัว แต่ข้อปฏิบัติไม่ใช้ทั่วไปในยุโรป เพียงแต่มีการเติมวิตามินดีลงในเนยเทียมเท่านั้น นั่นเป็นเรื่องของฝรั่ง คนไทยล่ะ วิตามินดีสังเคราะห์ได้ที่ผิวหนัง เมื่อเราสัมผัสแสงแดด คนไทยไม่น่าจะขาดวิตามินดี อย่าประมาทครับ เมฆหมอกและควัน โรงงานมีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งสามารถดูดซับรังสีอัลตร้า ไวโอเลตไม่ให้ส่องลงมาพื้นโลกได้ เรื่องนี้เคยมีประวัติศาสตร์ครับ เมื่อประมาณสองร้อยปีมาแล้ว ควันโรงงานอุตสาหกรรมในเมือง นิวคาสเซิล ซึ่งเกิดจากการเผาถ่านหิน ได้ครอบคลุมเหนืออาณาบริเวณนั้น ติดต่อกันหลายปี ทำให้ประชาชนขาด แสงแดดอัตราป่วยด้วยโรคกระดูกพรุน เพิ่มสูงเห็นชัด บรรยากาศเหนือเมืองหลวงประเทศไทย ก็คล้ายคลึงกัน มลภาวะทางอากาศ กระจายครอบคลุมไปทั่วจน คนในเมืองหลวงแทบจะมอง ไม่เห็นดวงดาวในคืนเดือนแรม เซดริก กาณ์แลนด์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องฝนกรดเชื่อว่า คนในเมืองใหญ่อาจกำลังขาดวิตามินดีโดยไม่รู้ตัว มีนักวิจัยเริ่มสงสัยว่า มะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ใหญ่คือ ผลิตผลของการขาดวิตามินดีในโลกยุคใหม่หรือเปล่า นอกจากนี้ คนเรายังอาจขาดวิตามินดีได้จาก สาเหตุอื่นๆอีก เช่น - ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในเมืองใหญ่ที่เปลี่่ยนไป คนบางคนนั่งรถติดฟิล์มกรองแสงออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้า อยู่ในออฟฟิศจนค่ำจึงกลับบ้าน เสาร์-อาทิตย์เดินห้าง คนบางคนตั้งใจจะเลี่ยงหลบแสงอาทิตย์เพราะห่วงความงาม จนมีปัญหาขาดวิตามินดี - ชาวมังสวิรัติและชาวเจมักขาดวิตามินดี เพราะแหล่งวิตามินดีในอาหารล้วนมาจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไขมันปล่ ตับ ไข่แดง และนมเนย (บางชนิด) - คนสูงวัยในเมืองหลวงมักขาดวิตามินดี ด้วยสสาเหตุหลายประการ เช่น ไม่ออกกำลังกายกลางแจ้ง รับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง รับประทานยารักษาโรคประจำตัวบางอย่างที่อาจส่งผลต่อการ ดูดซึมหรือการใช้ประโยชน์วิตามินดี เช่น ยาถ่ายยาระบาย ยาโคเลสทายรามีนที่ใช้ลดโคเลสเตอรอล ยากันชัก ชื่อไดฟีนิล ไฮแดนโทอิน เป็นต้น -คนที่ดื่มสุราจัดหรือมีปัญหาเรื่องการดูดซึมมของทางเดืนอาหาร ฯลฯ พิษของวิตามินดี เหรียญมีสองด้าน วิตามินมีทั้งประโยชน์และโทษ ขนาดของวิตามินดีที่ร่างกายต้องการ กับขนาดที่ทำให้เกิดพิษ ห่างกันไม่มากนัก ร่างกายต้องการวิตามินดีวันละ ๔๐๐ หน่วยสากล แต่ถ้าได้รับสูงเกิน ๑,๐๐๐ หน่วยสากล อาจเกิดพิษได้ในคนบางคน ผู้รู้หลายๆคนจึงไม่แนะนำให้คุณขวนขวายหา วิตามินดีมารับประทานเล่นตามใจ ถ้าคุณรับประทานมากเกินไป ทั้งในเด็กทารกและผู้ใหญ่ จะแสดงอาการความเป็นพิษขึ้นมาทันที อาากรสำคัญเริ่มต้นคือเบื่ออาหาร ตามมาด้วยอาการเวียนศีรษะคลื่นไส้และอาเจียน กรณีที่พิษรุนแรงจะเกิดกระหายน้ำทั้งที่ดื่มน้ำแล้วเป็นจำนวนมาก ท้องผูกสลับกับท้องเสีย อันเป็นลักษณะความแปรปรวนในระบบทางเดินอาหาร ปวดศีรษะ ปวดข้อ ในเด็กจะผอมลงเรื่อยๆ กระสับกระส่าย สลับกับเซื่องซึม ในที่สุดอาการจะทรุดลงจนถึงขั้นหมดสติ บางรายอาจเสียชีวิต แหล่งของวิตามินดี แสงแดดและอาหาร จากการทดลองพบว่า หนูซึ่งได้อาหารขาดวิตามินดี แล้วมีอาการของโรคกระดูกผุ มีความต้องการแสงแดดถึงวันละเกือบสามชั่วโมงในฤดูหนาว เพื่อช่วยกระตุ้น อาการโรคให้ดีขึ้น ในขณะที่ฤดูร้อนต้องการแสงแดดแค่วันละห้านาทีเท่านั้น กระจกสีชาหรือฟิล์มกรองแสงกรองรังสีอัลตร้าไวโอเลตได้ จึงยับยั้งไม่ให้เกิดการสังเคราะห์วิตามินดีด้วย คนผิวคล้ำจะดูซับแสงเพื่อสร้งวิตามินดีได้น้อยกว่าคนผิวขาว และบุคคลที่ทาครีมกันแดดหนาๆ แทบไม่สามารถสร้างวิตามินดีได้ อาหารเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่มีวิตามินดี เช่น น้ำมันปลา ไข่แดง ตับ แต่อย่าลืมว่าทั้งไข่แดงและตับ มีโคเลสเตอรอลสูงน่ากลัว แหล่งที่มีมากที่สุดก็คือ น้ำมันตับปลาจากปลาทะเล ซึ่งได้วิตามินนี้มาจากอาหาร ของมันคือ "แพลงตอน" แพลงตอนพืชสร้างวิตามินดีจากแสง เมื่อปลากินแพลงตอนเข้าไป มันจะสะสมวิตามินดีไว้ในไขมันในตับ อาหารประเภทเนื้อที่มีวิตามินดี มีเพียงอย่างเดียวคือตับ นมแม่มีปริมาณวิตามินดีมากพอที่จะป้องกันไม่ให้ เกิดภาวะพร่องในเด็กทารกได้ แต่นมวัวจะมีปริมาณวิตามินดีต่ำกว่านั้นมาก ในหลายประเทศจึงมีการเติมวิตามินดีในนมวัวที่นำมาเลี้ยงทารก ในเมืองไทย ผมเห็นนมเนยบางยี่ห้อแสดงปริมาณ วิตามินดีได้บนฉลาก คำแนะนำสำหรับคุณผู้บริโภคที่ดีที่สุดคือ อ่านฉลากเปรียบเทียบหลายๆยี่ห้อ แต่ผมเชื่อว่าอะไรๆก็คงแพ้พลังอันวิเศษของดวงอาทิตย์ เรามาออกกำลังกายกลางแจ้ง รับแสงแดดยามเย็นสักครึ่งชั่วโมง ดีไหมครับ |