โรคหัดเยอรมัน อาการโรคหัด สมุนไพรรักษาโรคหัด
โรคหัดเยอรมัน Rubella
โรคหัดเยอรมันคืออะไร
เป็นโรคติดเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้เกิดลักษณะทางคลินิกที่สำคัญคือ ไข้ ผื่นที่ผิวหนัง และต่อมน้ำเหลืองแถวคอโต ถ้าเป็นในเด็กกาการไม่รุนแรง แต่ถ้าเป็นในหญิง
มีครรภ์อ่อน จะทำให้เด็กที่เกิดมามีโอกาสพิการ
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัส RNA จัดอยู่ในกลุ่ม Paramyxovirus
การติดต่อ
ติดต่อจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งโดยการหายใจเอาเสมหะ หรือน้ำลายของผู้ป่วยซึ่งจามหรือไอออกมา ระยะติดต่อ 1 อาทิตย์ก่อนและหลังออกผื่น
อาการ
- ระยะฟักตัว หลังจากได้รับเชื้อ (หลังสัมผัสกับผู้ป่วย ) 14-24 วัน
- อาการนำ ในเด็กไม่ค่อยมีอาการอะไรก่อนออกผื่นโดยมีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เยื่อบุตาอักเสบจะมีไข้ 1-5วัน
- ระยะออกผื่น โดยเริ่มที่หน้าผากแถบไรผม กระจายมายังรอบปาก และใบหู แล้วลามลงมาที่คอ ลำตัว แขนขา ขณะที่ผื่นกระจายมาลำตัว ใบหน้าจะไม่ค่อยมีผื่น ผื่นอาจจะมีอาการคันหรือไม่ก็ได้ ผื่นมีลักษณะสีชมพูอ่อน แบนราบ และมักอยู่แยกจากกันผื่นเป็น 3 วันจะเริ่มจาง มีต่อมน้ำเหลืองหูโต คลำได้เป็นก้อน บางรายอาจมีปวดข้อ ถ้าหากเป็นในคนท้องระยะ 3 เดือนแรก เด็กที่เกิดมาอาจมีพิการแต่กำเนิด เช่น ปัญญาอ่อน หัวใจผิดปกติ ตาผิดปกติ
การป้องกัน
ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน MMR(หัด หัดเยอรมัน คางทูม ) ยังไม่มีรายงานว่าได้รับวัคซีนขณะตั้งครรภ์แล้วจะทำให้เกิดพิการแต่กำเนิด แต่แนะนำให้คุมกำเนิดหลังฉีดวัคซีน
การรักษา
โรคนี้หายได้เอง ให้วัดไข้วันละ 2 ครั้ง ควรพบแพทย์ถ้าไข้มากกว่า 38ํ ห้ามใช้ aspirin ในการลดไข้เนื่องจากอาจจะทำให้เกิด Reye's syndrome
โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ อาจพบสมองอักเสบ เกล็ดเลือดต่ำ ถ้าเกิดกับหญิงมีครรภ์ อาจทำให้ทารกเกิดมาพิการ เช่น ตาพิการ ต้อกระจก ต้อหิน หัวใจพิการ หูหนวก สมองเสื่อม
ภาวะแทรกซ้อน
- ข้ออักเสบ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุด มักเป็นข้อเล็กๆ เช่นข้อนิ้ว
- ภาวะแทรกซ้อนในระบบประสาทกลาง พบไม่บ่อย ที่พบคือสมองอักเสบ
ข้อมูล : siamhealth.net