ในฐานะของการเป็นบ่าวผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ย่อมหมายถึงการเป็นผุ้ที่อ่อนแอ ย่อมต้องได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์ จึงจะมีขีวิตอยู่ได้ ดังนั้น
***ชีวิตกับดุอาอฺ***
ในฐานะของการเป็นบ่าวผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ย่อมหมายถึงการเป็นผุ้ที่อ่อนแอ ย่อมต้องได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์ จึงจะมีขีวิตอยู่ได้ ดังนั้น การวิงวอนต่อพระองค์จึงเป็นเรื่องที่เราจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ การขอความคุ้มครอง การขอความช่วยเหลือ และในทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการ เราจะต้องวิงวอนขอต่อพระองค์อย่างเนืองนิตย์ ด้วยหัวใจที่ยอมจำนน ยึดมั่นต่อพระองค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจอยางแท้จริง และด้วยความเชื่อมั่น หวังในการตอบแทนจากพระองค์ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรับรู้ด้วยว่า การตอบรับดุอาออฺของอัลลอฮฮฺนั้นขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของพระองค์ดังนี้
1. ขอแล้วได้เลย
2. ขอแล้วได้ในภายหลัง
3. ขออย่างหนึ่งได้อีกอย่างหนึ่ง
4. ขอแล้วไม่ได้ แต่อัลลอฮฺเบี่ยงเบนบะลาอฺ
5. ขอแล้วได้หลังตาย
ไม่ว่าเราจะได้รับอะไร อย่างไร ก็ขอให้เราพึงพอใจในพระประสงค์ของอัลลออฺ ได้รับความดีงาม เป็นความจำเริญก็ให้กล่าว อัลหัมดูลิลลาฮฺ แต่ถ้ามันเป็ฯความทุกยากก็ให้อดทน ยอมจำนน จึงจะได้ชื่อว่าเป็นบ่าวผู้ศรัทธาต่อพระองค์อย่างแท้จริง โรคเครียดที่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาหาทางออกไม่เจอต้องฆ่าตัวตายก็จะไม่เกิดขึ้นกับมุสลิม แต่กลับจะเป็นผลดี เป็นความสุข ดังที่ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺูอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
"สามประการซึ่งบ่าวจะประสบกับความสุขทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ เพราะมัน นั่นคือความอดทนในข้อทดสอบ ความยินดีในข้อกำหนดของอัลลอฮฺและขอพร ในช่วงที่มีความสุขสบาย" (รายงานโดยอะบุชชัยค์ จากอิมรอน บินหุซอยนฺ์)
ข้อปฏิบัตินี้ถือเป็นความสำเร็จของชีวิตของบ่าวที่ภักดีต่อพระองค์ มันเป้นเรื่องยากที่จะปฏิบัติ แต่ก็เป็นเรื่องที่มีคุณค่า ถ้าใครปฏิบัติก็เป็นความสุขแก่ชีวิตของเขา ต่างกับคนที่เมื่อเกิดทุกข์ เศร้าโศกเสียงจก็เกิดความท้อแท้หมดหวัง โดยลืมการมอบหมายและการสำรวจตรวจสอบตัวเองว่า เพราะอะไร ทำไมความยากลำบากจึงเกิดขึ้นกับตนเอง ขอให้เราทุกคนลองสำรวจตัวเองจากข้อความนี้ อาจจะพบได้ว่า ทำไมอัลลอฮฺไม่รับดุอาอฺ
วันหนึ่งท่านอิบรอฮีม บิน อัดฮัม ได้เดินผ่านตลาดเมืองบัศเราะฮฺ เมื่อประชาชนเห็นท่านก็ได้มาห้อมล้อมท่าน และถามปัญหาต่าง ๆ นานา มีอยู่คนหนึ่งถามท่านว่า ทำไมเราขอดุอาอฺแล้ว อัลลอฮฺไม่ทรงตอบรับ
ท่านตอบว่า หัวใจของท่านบอดไปแล้ว 10 ประการ คือ
1. ท่านรู้จักอัลลอฮฺ แต่ท่านมิได้ใช้สิทธิของท่านต่อพระองค์
2. ท่านอ้างว่ารักรสูลแห่งอัลลอฮฺ แต่ท่านไม่ปฏิบัติตามแบบอย่างของท่าน
3. ท่านอ่านอัลกุรอาน แต่ท่านไม่ปฏิบัติตามนั้น
4. ท่านบริโภคสิ่งของที่อัลลอฮฺประทานมา แต่ท่านไม่ขอบคุณพระองค์
5. ท่านกล่าวว่าชัยฏอนเป็นศัครูของท่าน แต่ท่านกลับเห็นด้วยกับมัน
6. ท่านกล่าวว่าสวรรค์เป็นของมีจริง แต่ท่านมิได้ปฏิบัติเพื่อที่จะไปที่นั่น
7. ท่านกล่าวว่านรกเป็นของมีจริง แต่ท่านกลับไม่ยอมหนีไปให้พ้นจากมัน
8. ท่านตื่นนอนแล้วไปยุ่งเกี่ยวกับความอับอายของเพื่อนมนุษย์ ไม่พิจารณาถึงความอับอายของตนเอง
9. ท่านกล่าวว่าความตายนั้นเป็นสัตย์จริง แต่ท่านก็มิได้เตรียมตัว เพื่อความตาย
10. ท่านไปฝังศพที่สุสาน แต่ท่านมิได้พิจารณาจากบทเรียนของพวกเขา
ถ้าพี่น้องจะสังเกตคำตอบทั้ง 10 ข้อนี้ พี่น้องจะเห็ฯว่าเป็นคำตอบที่ใช้สำนวนไพเราะมาก แต่ดวยเนื้อหาแล้ว มันมิใช่บทกลอนที่สร้างความเพลิดเพลินให้เลยแม้แต่น้อย แต่มันกลับเป็นเรื่องที่สร้างความสะพรึงกลัวให้กับผู้ที่ยังหลงระเริงอยู่กับดุนยาที่มันไร้ค่าเท่ากับเพียงปีกยุง หรือน้ำที่มันติดนิ่วขึ้นมาเมื่อเราจุ่มลงไปในทะเล มันน้อยแค่ไหนพวกเราทุกคนคงนึงภาพได้ แต่ ทำไมเราจึงหลงอยู่กับมัน ขอให้ทุกคนทบทวนใคร่ครวญกับตนเอง และขอให้พบกับความำสเร็จเป็นหนึ่งในชาวสวรรค์ที่จะได้รับการพิพากษาด้วยความเมตตาจากพระองค์ มีชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายและดำรงไว้...ด้วยใจภักดี
วะศ็อลลัลลอฮุ อะลา ลัยยิตินา วะอะลาอาลีฮี วะเศาะหฺบิฮี วะสัลลัม
บรรดาการสรรเสริญนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
***********
(จากหนังสือ..ด้วยใจที่ภักดี เขียนโดย อ.ศอดีกีน อับดุลบารีย์)