อัตราดอกเบี้ย 1. อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมีกี่ประเภท ปัจจุบันธนาคารส่วนใหญ่มีข้อเสนออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ 1) อัตราดอกเบี้ยช่วง Teaser หมายถึง อัตราดอกเบี้ยพิเศษที่เสนอให้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งประมาณ 1-3 ปี ซึ่งอาจจะเสนอในรูปของอัตราดอกเบี้ยคงที่ หรือ อัตราดอกเบี้ยที่อิงอัตราลอย ตัว 2) อัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วง Teaser โดยปกติธนาคารส่วนใหญ่จะกำหนดตามอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเท่ากับอัตราดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าชั้นดีหรือ MLR (Minimum Loan Rate) ซึ่งแต่ละธนาคารอาจจะกำหนดไว้แตกต่างกัน อัตราดอกเบี้ยลอยตัวนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมทาง การเงิน เช่น สภาพคล่องในระบบการเงิน ต้นทุนทางการเงินของแต่ละธนาคาร และภาวะการแข่งขันในตลาด ปัจจุบันทางเลือกอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร แบ่งตามระดับวงเงินกู้อนุมัติเป็น 4 ระดับคือ
วงเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป | ปีที่ 1 | ปีที่ 2 | ปีที่ 3 | หลังจากนั้น | ทางเลือกที่ 1 | 2.75% | MLR-0.25% | ทางเลือกที่ 2 | 4.75% | MLR-0.25% | ทางเลือกที่ 3 | MLR-3.5% | MLR-2% | MLR-1% | MLR-0.5% | วงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท | ปีที่ 1 | ปีที่ 2 | ปีที่ 3 | หลังจากนั้น | ทางเลือกที่ 1 | 3.25% | MLR-0.25% | ทางเลือกที่ 2 | 5.25% | MLR-0.25% | ทางเลือกที่ 3 | MLR-3% | MLR-2% | MLR-1% | MLR-0.5% | วงเงินตั้งแต่ 5 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท | ปีที่ 1 | ปีที่ 2 | ปีที่ 3 | หลังจากนั้น | ทางเลือกที่ 1 | 3.75% | MLR | วงเงินต่ำกว่า 5 แสนบาท | ปีที่ 1 | ปีที่ 2 | ปีที่ 3 | หลังจากนั้น | ทางเลือกที่ 1 | MLR | (กรณีที่ดินเปล่า คิดอัตรา MLR+1% ตลอดอายุสัญญา) **สำหรับลูกค้าที่สมัครทำประกันคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์เต็มวงเงินและ ระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปีหรือเท่ากับระยะเวลาในสัญญากู้ จะได้รับสิทธิพิเศษ อัตราดอกเบี้ยปีแรกลดลงอีก 0.25% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยปกติ *อัตราดอกเบี้ยนี้สำหรับผู้ที่ยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารครบถ้วนภายใน วันที่ 4 มกราคม 2555 จนถึง (ก) วันที่ 31 มีนาคม 2555 หรือ (ข) วันที่ธนาคารประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารประกาศใช้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน ทั้งนี้ ผู้กู้จะต้องลงนามในสัญญากู้เงินกับธนาคารภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่มีการอนุมัติสินเชื่อ และจดทะเบียนจำนองพร้อมเบิกเงินกู้งวดแรก หรือทั้งหมด ภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่ลงนามในสัญญา 2. การเลือกอัตราดอกเบี้ย ควรพิจารณาเลือกอย่างไร อัตรา ดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดอาจจะไม่ใช่ทางเลือกดีที่สุดเสมอไป เพราะหลังสิ้นสุดช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ อัตราดอกเบี้ยจะปรับเป็นอิงตามอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MLR ซึ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ย MLR ปรับขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ท่านจะสามารถเปรียบเทียบได้ชัดระหว่างอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันกับหลังสิ้นสุด ช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ หากอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาการกู้ ก็จะไม่มีความแตกต่างอะไร แต่หากท่านเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้น ท่านควรเลือกทางเลือกที่เสนอช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่ยาวนานกว่า ซึ่งถึงแม้อัตราดอกเบี้ยอาจจะปรับสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย ทางเลือกนี้ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ในทางตรงกันข้าม หากท่านเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงในระยะเวลาอันใกล้ ท่านควรเลือกทางเลือกที่เสนอช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่สั้นกว่า การชำระเงินกู้ 1. อยากทราบว่าจะสามารถชำระเงินค่างวดรายเดือนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารได้กี่วิธี ลูกค้า สามารถชำระเงินกู้ได้หลายวิธี โดยวิธีที่สะดวกที่สุดคือการชำระสินเชื่อโดยการหักจากบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ Auto Debit โดยที่ลูกค้าสามารถกำหนดวันชำระเงินได้เอง นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถชำระ สินเชื่อรายเดือนได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขารวมทั้งสาขาไมโคร
2. ในกรณีทำข้อตกลงให้หักบัญชีจากธนาคาร Auto Debit เมื่อถึงวันครบกำหนดชำระ หากลืมนำเงินเข้าบัญชีก่อนครบกำหนด จะแก้ไขอย่างไรได้บ้างเพื่อไม่ให้เป็นการชำระผิดนัด ควรนำเงินเข้าบัญชีในวันถัดไป และควรโทรแจ้งสาขาที่ท่านใช้บริการสินเชื่ออยู่ 3. หากจะขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆในสัญญาเงินกู้ เช่นการขอขยายเวลาการผ่อนชำระสินเชื่อหรือการเปลี่ยนแปลงผู้ขอกู้ จะต้องดำเนินการอย่างไร กรณีขอขยายเวลาการผ่อนชำระขึ้นอยู่กับ การพิจารณาของธนาคารตามสถานะของลูกหนี้แต่ละรายในกรณีที่ได้ทำนิติกรรมสัญญา กู้ยืมและจำนองเป็นการค้ำประกันสินเชื่อแล้ว ผู้กู้สามารถขยายระยะเวลาการผ่อนชำระได้ โดยติดต่อสาขาเพื่อยื่นคำร้องในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงผู้กู้ จะต้องดำเนินการดังนี้ - กรอกคำขอสินเชื่อใหม่ พร้อมยื่นเอกสารประกอบการขอกู้
- ต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่น ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ (กรณีหลักทรัพย์เดิมประเมินไว้เกิน 1 ปี) เนื่องจากต้องเซ็นสัญญาและจดจำนองใหม่
รีไฟแนนซ์ 1. จะขอกู้เพื่อรีไฟแนนซ์เพื่อไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่นได้หรือไม่ ขอ กู้เพื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่นได้ ตามปกติธนาคารจะให้กู้เท่ากับยอดเงินกู้คงเหลือตามสัญญากู้เดิมของลูกค้ากับ สถาบันการเงินอื่น ทั้งนี้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ 2. กรณีการไถ่ถอนจำนองมาจากสถาบันการเงินอื่น (Refinance) ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือไม่ จำนวนเท่าใด ลูกค้า ไถ่ถอนจำนองมาจากสถาบันการเงินอื่นมายื่นกู้กับธนาคารกรุงเทพ จะเสียค่าธรรมเนียมตามปกติของธนาคาร เช่น ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ 3. ในกรณีไถ่ถอนจำนองมาจากสถาบันการเงินอื่น จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ลูกค้าต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม คือ สัญญาเงินกู้ของสถาบันการเงินเดิม ใบเสร็จรับเงินย้อนหลัง 6 เดือนและสัญญาจำนอง กรณีซื้อทรัพย์สินธนาคาร 1. ถ้าต้องการซื้อทรัพย์สินธนาคารและขอสินเชื่อด้วย ธนาคารมีโปรโมชั่นพิเศษหรือไม่ กรณีซื้อทรัพย์สินธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารจะให้วงเงินสินเชื่อร้อยละ 90 ของราคาซื้อขาย อัตราดอกเบี้ยสำหรับการซื้อทรัพย์สินรอการขายของธนาคารเพื่อการอยู่อาศัย มี 3 ทางเลือกดังนี้
ทางเลือก | ปีที่ 1 | ปีที่ 2 | ปีที่ 3 | หลังจากนั้น | ทางเลือกที่ 1 | 2.75% | MLR-1% | ทางเลือกที่ 2 | 4.75% | MLR-1% | ทางเลือกที่ 3 | MLR-3.5% | MLR-2% | MLR-1% | นอกจากนั้น ธนาคารยังยกเว้นค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ (ปกติคิด 2,500 บาท) และค่าธรรมเนียมการจัดการ สินเชื่อให้อีกด้วย **สำหรับลูกค้าที่สมัครทำประกันคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์เต็มวงเงินและ ระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปีหรือเท่ากับระยะเวลาในสัญญากู้ จะได้รับสิทธิพิเศษ อัตราดอกเบี้ยปีแรกลดลงอีก 0.25% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยปกติ *อัตราดอกเบี้ยนี้สำหรับผู้ที่ยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารครบถ้วนภายใน วันที่ 4 มกราคม 2555 จนถึง (ก) วันที่ 31 มีนาคม 2555 หรือ (ข) วันที่ธนาคารประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารประกาศใช้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน ทั้งนี้ ผู้กู้จะต้องลงนามในสัญญากู้เงินกับธนาคารภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่มีการอนุมัติสินเชื่อ และจดทะเบียนจำนองพร้อมเบิกเงินกู้งวดแรก หรือทั้งหมด ภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่ลงนามในสัญญา |