https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ดุหนังซีนาอิสลาม การล่วงละเมิดทางเพศ(ซีนา)คืออะไร อิสลามมีบทลงโทษอย่างไร MUSLIMTHAIPOST

 

ดุหนังซีนาอิสลาม การล่วงละเมิดทางเพศ(ซีนา)คืออะไร อิสลามมีบทลงโทษอย่างไร


1,988 ผู้ชม


https://info.muslimthaipost.com/mnet/index.php?p=a&bNo=43&qNo=5362


การล่วงละเมิดทางเพศ(ซีนา)คืออะไร อิสลามมีบทลงโทษอย่างไร

(1/1)

ramma:
การซีนาคืออะไร มีกี่แบบ และมีบทลงโทษแต่ละอย่างเป็นอย่างไรบ้าง
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
ซิ นา ( الزِّنَا ) เป็นคำอาหรับ  มีคำกริยาว่า  ซฺะนา  ( زَنٰى )  มีรูปคำอาการนามว่า زِنًى    (ตามสำเนียงฮิญาซฺ)  และ زِنَاءً (ตามสำเนียงเผ่าตะมีม) หมายถึง فُجُورٌ  ซึ่งมีความหมายว่า  การเบี่ยงเบนจากความถูกต้อง,  การฝ่าฝืน,  ความเสียหาย,  การผิดประเวณี  ในที่นี้หมายถึง  การผิดประเวณีอันเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องตามหลักนิติธรรมอิส ลาม, ซินา มี  2  ลักษณะคือ
1. ซินาในเชิงนามธรรม  อาทิเช่น  การมองดูเพศตรงข้ามด้วยอารมณ์กำหนัด  การเกี้ยวพาราสี  การสัมผัสลูบคลำ  เป็นต้น  การกระทำข้างตนเข้าข่ายเป็นซินา กล่าวคือ เป็นสิ่งชักนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง  ถือเป็นสิ่งต้องห้าม (ฮะรอม) และผู้กระทำโดยเจตนามีบาป (อิซฺม์)  การซินาในลักษณะที่ 1 นี้ไม่มีบทลงโทษที่ถูกกำหนดไว้ตามกฎหมายอิสลามแต่ผู้กระทำการดังกล่าวจะถูก ปรามหรือถูกลงโทษสถานเบา  (ตะอฺซีรฺ)  ตามดุลยพินิจของฝ่ายปกครองหรือศาลอิสลาม เช่น เฆี่ยน, ด่าทอ, ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวด้วยหรือการเนรเทศ (มินฮาญุลมุสลิม 425)  แล้วแต่กรณี   
   2. ซินาในเชิงรูปธรรม  คือการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องตามหลักนิติธรรมอิสลาม  ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมที่มีบทลงโทษรุนแรงสถานหนักกำหนดเอาไว้ ( حُدُوْدٌ ) นักวิชาการระบุคำนิยามของซินาลักษณะนี้ว่า หมายถึง การร่วมเพศที่ต้องห้ามในทวารหน้าหรือทวารหลัง (มินฮาญุลมุสลิม  415)  โดยลักษณการร่วมเพศเป็นไปโดยการทำให้ส่วนปลายองค์ชาติ (ส่วนที่ถูกขลิบหนังหุ้มปลายออกไป) หายเข้าในอวัยวะเพศของหญิงที่ต้องห้ามมีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยอวัยวะเพศนั้นกระตุ้นอารมณ์กำหนัดตามภาวะปกติ  ทั้งนี้มิใช่การมีเพศสัมพันธ์ในกรณีการสมรสที่คลุมเครือ  (นิกะฮฺ ซุบฮะฮฺ)   ถึงแม้ว่าจะไม่มีการหลั่งก็ตาม  (ฟิกฮุซฺซุนนะฮฺ ; ซัยยิดซาบิก 2/553)  โดยกระทำไปทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นสิ่งต้องห้าม  (อิอานะตุตตอลิบีน,  อัดดุมยาฏีย์  4/162)  การมีเพศสัมพันธ์ตามลักษณะดังกล่าวถือเป็นซินาที่ผู้กระทำจำต้องได้รับบทลง โทษสถานหนักตามหลักนิติธรรมอิสลาม  เพราะถือเป็นคดีอาญาร้ายแรงรองจากการตกศาสนา  (ริดดะฮฺ)  และการฆ่า  (อิอานะตุดตอลิบีน  4/161)  และเป็นมหันตโทษ  (บาปใหญ่)      โดยหลักนิติธรรมอิสสลามกำหนดบทลงโทษเอาไว้  2 ลักษณะ  กล่าวคือ
1. ผู้ทำซินาเป็นบุคคลที่ไม่เคยผ่านการสมรสที่ถูกต้องตามหลักศาสนามาก่อน  ( غَيْرُمُحْصَن )  มีบทลงโทษ ด้วยการถูกเฆี่ยน 100 ที  ตามวิธีการที่ถูกกำหนดไว้ถูกเนรเทศออกจากบ้านเมืองในระยะทางที่อนุญาตให้ ละหมาดย่อหรือมากกว่านั้นเป็นเวลา 1 ปี  (มินฮาญุลมุสลิม)  415, อิอานะฮฺ 162)
2. ผู้ทำซินาเป็นบุคคลที่ผ่านการสมรสที่ถูกต้องตามหลักศาสนามาก่อนแล้ว ( مُحْصَن )  มีบทลงโทษด้วยการถูกขว้างด้วยก้อนหินจนตาย  (มินฮาญุลมุสลิม  415)  ทั้งนี้คำนึงถึงเงื่อนไขของผู้ทำซินา  ซึ่งถูกลงโทษทั้ง  2  ลักษณะว่า  เป็นมุสลิม  มีสติสัมชัญญะบรรลุศาสนภาวะ,  สมัครใจมิได้ถูกบังคับ  และผู้ทำซินานั้นยอมรับสารภาพด้วยตัวเองในสภาพปกติ  หรือมีพยานยืนยันที่เป็นชายที่เชื่อถือได้จำนวน 4 คน  และผู้ทำซินานั้นไม่กลับคำให้การก่อนคำเนินการลงโทษ  (อ้างแล้ว  หน้า 416)  และลักษณะวิธีการในการเฆี่ยนนั้น  ให้จำเลยนั่งลงกับพื้น  และเจ้าหน้าที่เฆี่ยนที่หลังของจำเลยด้วยแส้ขนาดปานปลางและเฆี่ยนในระดับ ปานกลางจำนวน 100 ที  ผู้หญิงก็เช่นเดียวกับผู้ชาย  ยกเว้นให้นางปกปิดร่างกายด้วยผ้าบางๆ  และการลงโทษต้องคำนึงถึงสภาพอากาศและสุขภาพของจำเลยด้วย  ส่วนการขว้างนั้น  ให้ขุดหลุมลึกถึงหน้าอกของจำเลยแล้วขว้างด้วยก้อนหินจนตายต่อหน้าผู้ปกครอง หรือตัวแทนและพยานตลอดจนชาวมุสลิมที่ร่วมรับรู้การลงโทษนั้นไม่น้อยกว่า 4  คน  (อ้างแล้ว  หน้า  414, 417) 
ที่กล่าวมานี้ในกรณีที่มีการ สารภาพหรือมีคำร้องถึงศาลอิสลามตามกระบวนวิธีพิจารณาคดีอาญา  ส่วนถ้าไม่มีศาลอิสลามก็ให้ผู้กระทำผิดสำนึกผิด  (เตาบะฮฺ)  ตามเงื่อนไขที่ศาสนากำหนดไว้
والله أعلم بالصواب
cradit
อ.อาลี เสือสมิง

-------

มาดูฮูก่ม ของการดูหนังลามก จกกระเปรดกันนะครั
หะดีษของท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวไว้ว่า " ไม่อนุญาตให้ผุ้ชายมองเอาเราะฮฺ (สิ่งพึงสงวน) ของผู้ชาย และไม่อนุญาตให้ผู้หญิงมองเอาเราะฮฺของผู้หญิง " (บันทึกโดยอบูดาวูด) , 
หะดีษของท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า " การมองสตรีโดยมิได้ตั้งใจถือว่าไม่มีความผิด แต่หากมองซ้ำอีก (เป็นครั้งที่สอง) ถือว่ามีความผิด " (บันทึกโดยติรมิซีย์) 
อีกหะดีษบทหนึ่งท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า " การทำซินา (การละเมิดประเวณี) ทางสายตา คือการมอง(สิ่งหะรอม) " (บันทึกโดยติรมิซีย์)
 จากหะดีษทั้งสามข้างต้นเป็นการบ่งชี้ว่า ศาสนาไม่อนุญาตมองเพศตรงข้าม อย่าว่าแต่มองเอาเราะฮฺของเพศตรงข้ามเลยครับ แม้กระทั่งการมองหน้าเพศหญิงศาสนายังอนุญาตให้มองเพียงครั้งแรกเท่านั้น หากมองซ้ำอีกเป็นครั้งที่สองก็ถือว่ามีความผิด
 (นักวิชาการลงความเห็นว่า หากมองครั้งแรกแต่มองนาน เช่นนี้ก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน)
 ฉะนั้นการชมภาพยนต์โป๊ศาสนาจึงไม่อนุญาตให้ชมโดยเด็ดขาด เพราะนั่นเป็นการมองเอาเราะฮฺของคนอื่น
 ประการที่สอง เป็นการทำซินาทางสายตา 
ประการที่สาม การชมภาพยนต์โป๊เป็นการยั่วยุ และกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ 
และประการสุดท้าย การชมภาพยนต์โป๊เป็นสื่อกระตุ้นให้เกิดทำซินา เมื่อสิ่งใดเป็นสื่อไปสู่การทำซินาก็ถือว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามด้วย
 ดั่งหลักฐานในอัลกุรอานที่กล่าวว่า " อย่าเข้าใกล้การทำซินา แท้จริงการทำซินาเป็นสิ่งลามก และหนทางที่ชั่วร้าย " (สุเราะฮฺอัลอิสรออ์ : 17) เมื่อทราบแล้วว่าไม่อนุญาตให้ดูหนังโป๊ครับ
วัลลอฮฮุอะลัม

อัพเดทล่าสุด