อาหารประจําชาติในกลุ่มประเทศอาเซียน อาหารยอดนิยมของกลุ่มประเทศอาเซียน อาหารประจําชาติของกลุ่มประเทศอาเซียน อาหารสำคัญของกลุ่มประเทศอาเซียน น่าทานมาก

อาหารกลุ่มประเทศอาเซียน

อาหารกลุ่มประเทศอาเซียน อาหารประจำชาติกลุ่มประเทศอาเซียน อาหาร กลุ่มประเทศอาเซียน อาหารประจำชาติของกลุ่มประเทศอาเซียน อาหารยอดนิยมของกลุ่มประเทศอาเซียน อาหารประจําชาติของกลุ่มประเทศอาเซียน อาหารสำคัญของกลุ่มประเทศอาเซียน อาหารประจำชาติ ในกลุ่มประเทศอาเซียน อาหารประจําชาติกลุ่มประเทศอาเซียน

https://photopeach.com/album/l0pxss

เมื่อวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2544 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ ได้จัดงานเทศกาลอาหารอาเซียน (ASEAN Cuisine Festival) ที่ร้านอาหาร "คุ้มไทย" ซึ่งการจัดงานดังกล่าวเป็นกิจกรรมระหว่างสถานเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิก อาเซียนในประเทศแอฟริกาใต้ 7 แห่ง คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม
อาหารไทยในงานมีอาทิ ทอดมันปลา ผัดไทย ตะโก้ และข้าวเหนียวดำเปียก ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้ สะเต๊ะเนื้อของอินโดนีเซีย
ปอเปี๊ยะทอดของเวียดนาม
และปลาเผาสอดไส้ของฟิลิปปินส์ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน
https://www.ryt9.com/s/ryt9/264476
อาหารมาเลเซีย
   * สะเต๊ะ
   * แกงกะหรี่
   * แกงมัสมั่น
อาหารลาว
   * ลาบ
อาหารพม่า
      แกงฮังเล
อาหารกัมพูชา
      ต้มโคล้งปลากรอบ
ต้มโคล้งต่างจากต้มยำ ตรงที่นำสมุนไพร พริก หัวหอม ข่า ตะไคร้ ไปเผาก่อนต้ม

ห้องอาหารปาร์ควิว โรงเรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22 มีการจัดงาน "เทศกาลอาหารอาเซียน 2010" มีการนำอาหารประจำชาติต่างๆของประเทศอาเซียน ที่ขึ้นชื่อและโด่งดังมาออกร้านเปิดให้ผู้ที่สนใจร่วมชิมและรับประทานกันอย่างจุใจไม่ต้องบินไปกินไกลถึงต่างประเทศ ซึ่งงานมีตั้งแต่วันที่ 12-14 พ.ย. นี้ เวลาเปิด 10.00 - 21.00 น.

บรรยากาศภายในงานมีการจัดวางซุ้มอาหารของประเทศต่างๆโดยนำพ่อครัวแม่ครัวสัญชาตินั้นๆมาปรุงมาเสิร์ฟและประดับตกแต่งบู๊ธของตัวเองเองโดยมีธงชาติแต่ละประเทศเป็นสัญลักษณ์ ยกตัวอย่างประเทศประเทศเวียดนาม จัดเมนูข้าวนึ่งเป็นเซ็ทเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ อาทิ หมูยอ ปอเปี๊ยะทอด และผักชนิดต่างๆ สำหรับคนที่ชอบรับประทานผักและอาหารญวณต้องลองแวะมาชิมเพราะวัตถุดิบนำเข้ามาจากต่างประเทศล้วนๆ เพื่อคงรสชาติดั้งเดิมของพื้นเมืองไว้ได้เป็นอย่างดี 

สำหรับซุ้มของประเทศอินเดียแนะนำให้ไปชิม "SAMOSA" แป้งปั้นคล้ายกะหรี่ปั๊บเมืองไทยเพียงแค่เครื่องเทศและวัตถุดิบภายในแตกต่างกัน โดยมีไส้มันและถั่วลันเตาให้เลือกชิม ถัดไปเป็นซุ้มอาหารจากแดนกิมจิ นำพิซซ่าเกาหลี (pajeon) เมนูยอดฮิตมาทอดสดใหม่รับรองความหอม นุ่ม อร่อย เคี้ยวเพลินแถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพเพราะมีผักเป็นส่วนประกอบสำคัญ

ทางไต้หวันไม่น้อยหน้านำเมนู "บัวลอยไต้หวัน" รสเค็มลูกกลมโตห่อด้วยไส้หมูสับกับเห็ดหอมลอยอยู่บนถ้วยน้ำซุปหอมรสชาติกลมกล่อม ส่วนสิงคโปร์นำ"ข้าวมันไก่" ชื่อดังที่ใครไปเยือนต้องได้ชิมข้าวมันไก่สูตรเด็ดของเกาะแห่งนี้ที่ขนมาไว้ที่ห้องอาหารปาร์ควิว เนื้อไก่ที่หวานนุ่ม น้ำจิ้มรสเด็ดและซ้ำซุปแสนพิเศษ และอย่าลืมแวะไปชิมส้มตำสิงคโปร์ขนาดส้มตำป่าของบ้านเมืองเรายังต้องถอยเพราะครกนี้เขากวาดเอาผลไม้ทั้งสวนพืชทั้งไร่โรยลงไปในครกก่อนจะคลุกเคล้าด้วยน้ำปรุงรส เปรี้ยว หวาน ผสมผสานกับรสชาติของผลไม้ได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ยังมีอาหารอินโดนีเซีย นำ"LAM PER" คล้ายกับข้าวต้มมัดเมืองไทยเพียงแต่เป็นของคาวห่อด้วยใบตองเหมือนกันเพียงแต่เป็นไส้ไก่ที่หุ้มด้วยข้าวเหนียวผสมกับน้ำมันมะพร้าว รวมทั้งประเทศ ชิลี และอาหารชาวมุสลิมอีกหลายเมนูให้เลือกชิมโดยไม่ลืม"ชาชัก" ไฮไลท์ที่เด็กๆ ยืนเข้าแถวรอซื้อเรียกว่าชักได้ตามใจไม่เฉพาะเจาะจงไปที่ชาชักเท่านั้น แต่ยังมีโกโก้ชักแล้วแต่จะเลือกชักได้ตามใจ สำหรับราคาคิดว่าเจ้าของพื้นที่คงไม่ได้คิดค่าบริการราคาอาหารชาวบ้านซื้อกินได้ ส่วนเกาะฮ่องกงขน "เป็ดย่าง" มาหั่นขายรสชาติต้นตำรับโดยแท้ไม่ต้องเสียเงินค่าตั๋วเครื่องบิน

งาน "เทศกาลอาหารอาเซียน 2010"  โรงเรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค ร่วมกับร่วมกับหอการค้าเกาหลี-ไทย,มาเลเซีย-ไทย,อินเดีย-ไทย,สิงคโปร์-ไทย , สโมสรเมลาติ อินโดนีเซีย , สมาคมการค้าไทย-ฮ่องกง, สมาคมธุรกิจไทย-ไต้หวันและสถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย