อาการของโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง น้ำสมุนไพรกับโรคภูมิแพ้


1,404 ผู้ชม


อาการของโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง น้ำสมุนไพรกับโรคภูมิแพ้      

โรคภูมิแพ้ รักษาได้ด้วยธรรมชาติบำบัด

โรคภูมิแพ้ คือ โรคที่เกิดจากภูมิต้านทานในร่างกายไวต่อสิ่งเร้า หรือสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งในคนปกติจะไม่มีปฏิกิริยานี้เกิดขึ้น แต่คนที่เป็น โรคภูมิแพ้ จะมีปฏิกิริยาไวเกินต่อ สารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ อาหาร ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เป็นต้น
โรคภูมิแพ้ สามารถแบ่งได้เป็น 4 โรค ตามอวัยวะที่เกิด เช่น
  • โรคแพ้อากาศ หรือ โรคโพรงจมูกอักเสบ
  • โรคตาอักเสบจากภูมิแพ้ หรือ โรคคันตา
  • โรคหอบหืด
  • โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
ผู้ที่ป่วยเป็น โรคภูมิแพ้ อาจมีอาการเดียว หรือ หลายอาการ หลายอวัยวะที่เกิด โรคภูมิแพ้ ก็ได้
อาการของโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง น้ำสมุนไพรกับโรคภูมิแพ้
อาการของ โรคภูมิแพ้ ได้แก่ คัดจมูก จาม น้ำมูกใส ผื่นคัน บวม แดง เกิดอาการเมื่อได้สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งอาการต่าง ๆ จะแตกต่างกัน ตามอวัยวะ เช่น
  • โรคแพ้อากาศ หรือ โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ผู้ป่วยมักมีอาการคันจมูก คันตา คันคอ จามติด ๆ กัน น้ำมูกใส มีเสมหะ ไอตอนกลางคืน เป็นต้น
  • โรคหอบหืด มีอาการหอบ หายใจลำบาก หายใจเสียงดัง วี๊ด ๆ ไอมากตอนกลางคืน หรือเวลาโดนอากาศเย็น
  • โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ มีอาการคันตา ตาแดง มีเมือกขาว ๆ ที่ตา
  • โรคผื่นแพ้ทางผิวหนัง เป็นผื่นคัน อักเสบ บวม เมื่อสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เป็นต้น

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่มีการถ่ายทอดทางกรรมพันธ์ หรือเกิดจากภาวะร่างกายพร่องเอนไซม์ หรือภูมิต้านทานร่างกายต่ำลงก็ได้ เช่น ในช่วงที่คุณตั้งครรภ์ หรือช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเป็นต้น
ซึ่ง ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงศ์ ได้บรรยาย เรื่องของ โรคภูมิแพ้ ไว้ว่า หาก โรคภูมิแพ้ ที่ไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์ แต่เกิดจากภาวะร่างกายพร่องเอนไซม์ หรือร่างกายได้รับอาหารไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของร่างกาย หมายถึง ร่างกายเราไม่สามารถย่อยสลายอาหารหรือเปลี่ยนรูปอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เป็นสารอาหารและนำไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายได้ จึงกลับกลายเป็นของเสียตกค้างในร่างกาย และถูกแบคทีเรียในร่างกายย่อยสลายเปลี่ยนรูปเป็นสารพิษ แล้วถูกดูดกลับเข้ากระแสเลือด นำไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายแทน จึงทำให้ในร่างกายเต็มไปด้วย ของเสีย เซลล์อ่อนแอ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเกิดภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง จึงทำให้เราเกิดอาการของ โรคภูมิแพ้ ได้
ดังนั้น การดูแลฟื้นฟูร่างกายสำหรับ โรคภูมิแพ้ ด้วยหลักธรรมชาติบำบัด คือ การนำสารอาหารที่พร้อมดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้เซลล์ได้รับสารอาหารไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยฟื้นฟูเซลล์ ทำให้เซลล์แข็งแรง และขับของเสียออกจากร่างกายได้ จึงจำเป็นต้องใช้สารอาหารในรูปของของเหลว เพราะร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วนั้นเอง ซึ่งเราก็ใช้ น้ำพลังเอนไซม์บำบัด (Multi Fruit Enzyme) ในการดูแลฟื้นฟูร่างกายของผู้ที่เป็น โรคภูมิแพ้ โดยมีหลักการดื่ม ดังนี้
1. ทาน น้ำพลังเอนไซม์บำบัด (Multi Fruit Enzyme) ผสมน้ำจางๆ (1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 แก้ว 250 cc) ทานก่อนอาหารทุกมื้อ เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน กำจัดของเสียและฟื้นฟูในระดับเซลล์
2. ในกรณีที่มีอาการไอ หรือมีเสลด เจ็บคอ คันคอ ให้เตรียม น้ำพลังเอนไซม์ (Multi Fruit Enzyme) ผสมกับน้ำผึ้ง ดังนี้ น้ำพลังเอนไซม์ 1 ส่วน น้ำผึ้ง 1 ส่วน ใส่ในหลอดเล็ก ๆ หรือแก้ว เล็ก ๆ เอาไว้ สำหรับเวลาไอ หรือมีเสลด ให้จิบหรือกลืนลงคอ เพื่อลดอาการคันคอ เจ็บคอ ไอ เสลด เป็นต้น
3. ลดฝุ่นละออง และบรรยากาศในห้องผู้ป่วย ด้วยการนำ น้ำพลังเอนไซม์บำบัด (Multi Fruit Enzyme) ผสมกับน้ำอุ่น ๆ ในอัตราส่วน 1 : 10 ฉีดพ่น ให้ทั่วห้อง หรือบริเวณใบหน้า เมื่อรู้สึกว่าหายใจไม่ออก เพื่อช่วยสร้างไอออกซิเจน และลดฝุ่นละอองในอากาศ
นอกจากการใช้ น้ำพลังเอนไซม์บำบัด เพื่อฟื้นฟูเซลล์ และปรับสภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว ควรมีการดูแลฟื้นฟูร่างกายด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการใช้อาหารเป็นยาอีกด้วย เช่น


การดื่มนมธัญพืช ก่อนเข้านอน 1 แก้ว หรือใช้ น้ำนมข้าวกล้องผสมธัญพืช ชงดื่มทุกวันก่อนนอนก็ได้ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว


การนอนหลับพักผ่อน ไม่ควรนอนตากแอร์ ตากลม เพราะเป็นตัวการทำให้ปอดชื้น เนื่องจาก รูขุมขนไม่ได้ระบายเหงื่อ และของเสีย หากใส่ถุงเท้านอนจะดีมาก เพราะเป็นการรักษาระดับอุณหภูมิของร่างกายได้อย่างดี และควรนอนหลับพักผ่อนได้ได้อย่างน้อย 6 -8 ชั่วโมงต่อวัน


การออกกำลังกาย สำหรับ โรคภูมิแพ้ ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที โดยเน้นให้เหงื่อออกบ้าง หรือแช่น้ำอุ่น อบไอน้ำ เป็นต้น
การทำกิจกรรมอดิเรก แนะนำให้ทำสวน หรือ ปลูกต้นไม้ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะการได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ และทำให้เหงื่อออกจะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้อีกด้วย


เคล็ดไม่ลับ สำหรับผู้ป่วย โรคภูมิแพ้ หลังเวลา 15.00 - 18.00 น. ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง ควรพักผ่อน สบาย ๆ ไม่เครียด หาน้ำสมุนไพรมานั่งจิบ เช่น น้ำชาตะไคร้ น้ำชาขิง น้ำโหระพา เป็นต้น จะช่วยให้กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้อย่างดี

แหล่งข้อมูล https://friutenzyme.blogspot.com

................................................................................

อาการของโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง น้ำสมุนไพรกับโรคภูมิแพ้      

Cordyceps for Allergy and asthma
          จากงานวิจัยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พบว่าถั่งเช่ามีคุณสมบัติและคุณค่าที่ดีมากในการรักษาภูมิแพ้และป้องกันโรค ภูมิแพ้ ภูมิแพ้อากาศโดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ และโรคหอบหืด รวมถึงโรคทางเดินหายใจอื่นๆเช่น ถุงลมโป่งพอง โดยสามารถทำให้อาการกำเริบน้อยลง และลดความรุนแรง การศึกษาวิจัยพบว่าการทานถั่งเช่าอย่างต่อเนื่อง สามารถรักษาภูมิแพ้และควบคุมอาการของโรคภูมิแพ้ ภูมิแพ้อากาศและโรคหอบหืดให้ลดลงและหายไป จนถึงควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ในระยะยาว มีคุณภาพชีวิตที่สูงเทียบเท่าผู้ที่ ไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด
          โดยถั่งเช่าให้ผลในการปรับความสมดุลย์ของระบบภูมิคุ้มกัน ลดการแสดงออกและตอบสนองที่มากเกินไปของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด และเป็นยาลดการอักเสบธรรมชาติ ลดการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจคือ เยื่อบุโพรงจมูก เยื่อบุผนังหลอดลม ทำให้ผนังหลอดลมคลายตัว หายใจสะดวก ลดและบรรเทาอาการไอและคันคอจากภาวะหลอดลมตีบ จากกลไกดังกล่าวนี้ทำให้ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้อากาศ และโรคหอบหืดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังมีฤทธิ์ในการขจัดเสมหะที่อุดกั้นทางเดินหายใจได้ดีอีกด้วย


          มีการใช้ถั่งเช่าทางกายแพทย์ในการรักษาโรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้อย่างแพร่หลาย มาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว แต่กลไกการรักษาโรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้ก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด จนกระทั่งในปี 2007 งานศึกษาวิจัยโดยภาควิชาสมุนไพร โรงพยาบาลซวนหวู่ มหาวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่ง ประเทศจีน ได้ทำการศึกษาจนสรุปกลไกการรักษาโรคภูมิแพ้อากาศ โรคภูมิแพ้ทั่วไป และโรคหอบหืดของถั่งเช่าได้เป็นผลสำเร็จ
          1. ถั่งเช่ามีฤทธิ์ในการควบคุมสมดุลย์ของ Allergen-reactive helper T cells Type I และ Type II ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ที่ร่างกายได้รับ และก่อให้เกิดอาการ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืดมักมีการทำงานของ Type II มากเกินปกติทำให้สมดุลย์ระหว่าง Type I/II เสียไปเป็นต้นเหตุของการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆไปในกระบวนการที่ทำให้เกิดอาการ โรคภูมิแพ้ หอบหืด ถั่งเช่าจะช่วยปรับสภาพสมดุลย์นี้ให้ปกติ เป็นจุดที่มีความสำคัญมากต่อการรักษาภูมิแพ้ หอบหืด
          2. ถั่งเช่ามีฤทธิ์ป้องกันการจับตัวของสารก่อภูมิแพ้กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืดเกือบทุกรายมีกลไกนี้ไวกว่าปกติ การลดกลไกนี้ลง จะทำให้ร่างกายตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ลดลง
          3. ถั่งเช่าลดกระบวนการสร้าง Immunoglobulin E (IgE) ที่มากเกินไปในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และหอบหืด ซึ่ง เป็นสารเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ เป็นตัวกระตุ้นให้อาการโรคภูมิแพ้และหอบหืดกำเริบ เนื่องจาก IgE จะเหนี่ยวนำให้มีการสร้างและปลดปล่อย Histamine,Leukotrienes และ Interleukins ที่ทำให้ร่างกายแสดงอาการ อีกทั้งยังทำให้ผนังหลอดเลือดหลวมผิดปกติและปล่อยให้สารเคมีที่เป็นตัวร้าย เหล่านี้รั่วไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆภายในร่างกายได้อย่างมากและเกิดการ อักเสบและตอบสนองเป็นอาการต่างๆที่เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้และหอบหืดเช่น หลอดลมหดตัว คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา ผื่นคัน ฯลฯ การยับยั้ง IgE ของถั่งเช่า สำคัญอย่างมากต่อการรักษาโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืด
          ถั่งเช่าีมีฤทธิ์ีในการปรับสภาพระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานมากกว่าปกติของผู้ ป่วยโรคภูมิแพ้และหอบหืด ให้กลับสู่ภาวะปกติใน 3 ส่วนหลักคือ Allergen-reactive helper T cells, การจับตัวของสารก่อภูมิแพ้กับระบบภูมิคุ้มกัน และการสร้าง IgE ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ไม่แสดงอาการอีกต่อไปแม้ได้รับสารก่อภูมิแพ้ ผลของถั่งเช่า 3 ข้อนี้ยังให้ผลการรักษาดีเยี่ยมต่อโรคหอบหืดด้วยเพราะอาการหลอดลมหดตัวของ หอบหืดก็เริ่มต้นจากสารเคมีและกระบวนการเดียวกับอาการภูมิแพ้ ที่สำคัญถั่งเช่ายังช่วยลดอาการอักเสบเรื้อรังของผนังหลอดลมที่เป็นสาเหตุ หลักของโรคหอบหืดอีกด้วย เมื่อรักษาด้วยถั่งเช่าอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการดูแลสุขภาพและออกกำลัง กายอย่างพอเหมาะ อาจมีผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอยู่ตัว และหายขาดจากโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้อากาศและยังช่วยป้องกันการอักเสบและหดตัวของหลอดลม ป้องกันอาการหอบหืดกำเริบได้อย่างสมบูรณ์
          นอกจากนี้ถั่งเช่ายังมีคุณค่าเป็นยาปฎิชีวนะธรรมชาติที่ต่อต้านเชื้อเช่น Pneumococcus spp. และ Streptpcoccus spp. ไ้ด้เป็นอย่างดี เชื้อเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักในการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ที่จะทำให้อาการหอบหืดและภูมิแพ้แย่ลง จากการอักเสบและเสมหะที่เหนียวข้น ถั่งเช่าจึงช่วยป้องกันโรคติดเชื้อเหล่านี้ได้ เช่น ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ฯลฯ


ที่มาของข้อมูล :
Hobb, C.,"Cordyceps Sinensis" in Medicinal Mushrooms, An Exploration of Tradition, Healing and Culture ,Interweave Press : Loveland, Co, 1996, pp. 81-86.
Stamet,P,."Cordyceps Sinensis" in Mycomedicinal,Mycomedia : Olympia ,WA, 1998 ,p. 22-23.










ถั่งเช่ายังมีประโยชน์และคุณค่าต่อร่างกายและสุขภาพมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่การวิจัยทางการแพทย์รับรอง
1. ช่วยให้นอนหลับสนิท มีฤทธิ์สงบระังับ ช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลาย ลดความเครียดและวิตกกังวล
2. ช่วยต้านเซลล์มะเร็ง และใช้ควบคู่กับการรักษามะเร็งด้วยรังสีเพื่อลดผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งด้วยรังสี
3. เพิ่มแรงบีบตัวของหัวใจ ลดความถี่ในการเต้นของหัวใจให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะ 
4. ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล และความดันโลหิต ป้องกันการแข็งตัวของเกล็ดเลือดและการเกาะกลุ่มกันของเม็ดเลือด
5. เพิ่มสมรรถภาพทางเพศชาย
6. ลดระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มความไวของร่างกายต่อฮอร์โมน Insulin ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ
7. ชลอความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย มีฤทธิ์เป็นสาร Antioxidant ที่มีความแรง
8. บำรุงสมอง ทำให้ความจำดีขึ้น มีสารธรรมชาติคือ Glutamic acid ,Tryptophan และ Tyrosine ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
9. เพิ่มการดูดซึมของสารอาหารอื่นๆ
10. ประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟูการทำงานของไตในผู้ป่วยไตล้มเหลว หรือใช้เพื่อลดผลข้างเคียงในการใช้ยาที่มีพิษต่อไต
11. ลดอาการวิงเวียนศรีษะเรื้อรัง เวียนหัว มึนหัว บ้านหมุน ไมเกรน เพิ่มปริมาณการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงสมองและหูส่วนใน
ถั่ง เช่าเป็นอาหารทรงคุณค่า ที่รับประทานได้ทุกเพศทุกวัยเพื่อการดูแลสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ไม่เีพียงแต่การรักษาโรคภูมิแพ้อากาศ หอบหืดเท่านั้น แต่จะทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ยิ่งเสริมให้ร่างกายสามารถสู้กับภาวะภูมิแพ้และหอบหืดไ้ด้ดียิ่งขึ้นอีก
          มีการศึกษาวิจัยเพื่อนำถั่งเช่ามาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ทั้งการใช้เดี่ยวๆและการใช้ร่วมกับยามากมาย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยผู้ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของถั่งเช่าอย่างจริง จังคือ นพ.สมยศ กิตติัมั่นคง หัวหน้ากลุ่มโรคเอดส์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และได้ทำการเปิดเผยผลการศึกษาบางส่วนลงในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2553 โดยยืนยันถึงคุณค่าในการดูแลสุขภาพหลายๆด้าน เช่นช่วยในเรื่องระบบทางเดินหายใจ  อาการไอ ภูมิแพ้ ถุงลมโป่งพอง หลอดลมอักเสบ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการอ่อนเพลีย ทำให้ร่างกายสดชื่น ความจำดีขึ้น ลดความดันโลหิต ลดการอักเสบ ต้านมะเร็ง ชลอความชรา ฯลฯ




ความรู้เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ ภูมิแพ้อากาศ และโรคหอบหืด
โรค ภูมิแพ้และหอบหืดแท้จริงแล้วเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราเองที่ตอบ สนองต่อสิ่งแวดล้อมบางชนิดไวและรุนแรงกว่าปกติกว่าคนทั่วไป ซึ่งมีความสัมพันธ์กับโรคหอบหืดเนื่องจากอาการจากภาวะภูมิแพ้จะทำให้โรคหอบ หืดกำเริบหรือมีอาการแย่ลง ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จะมีอาการที่รบกวนการดำเนินชีวิต จากการแพ้สิ่งต่างๆที่คนทั่วไปไม่แพ้เช่น ภูมิแพ้อากาศ ฝุ่นผง ควัน ไปจนถึงภูมิแพ้วัสดุต่างๆ เช่นเหล็ก เงิน ทองแดง ตะกั่วฯลฯ สิ่งเหล่านี้เรียกว่าสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งเป็นตัวปัญหาที่ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และหอบหืดต้องหลีกเลี่ยงให้ไกล อาการภูมิแพ้ที่แสดงออกได้บ่อยมีดังนี้
          1. โรคภูมิแพ้อากาศ คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจลำบาก ร่วมกับมีเยื่อโพรงจมูกอักเสบทำให้แสบจมูก บางรายอาจมีอาการไอและมีเสมหะหรือหายใจดังวี้ดซึ่งเป็นอาการของโรคหอบหืดที่ เกิดจากหลอดลมตีบตัว ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดร่วมกับภูมิแพ้จะมีอาการหอบหืดกำเริบบ่อยครั้ง เนื่องจากอาการแพ้จะทำให้เกิดการปลดปล่อยสาร ฮิสตามีน ที่ทำให้หลอดลมหดตัว นอกจากนี้หากปล่อยอาการภูมิแพ้ไว้อาจมีการติดเชื้อซ้ำในระบบทางเดินหายใจได้ ง่าย เช่น ไซนัสอักเสบ ทอนซิลอักเสบ คออักเสบ หรือติดเชื้อลึกลงไปในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างคือหลอดลม และปอด
          2. โรคภูมิแพ้ที่แสดงออกทางผิวหนัง ได้แก่ผื่นคัน หรือผิวหนังอักเสบ ซึ่งอาจเกิดเป็นบริเวณกว้าง และเป็นลวดลายตามรูปร่างสารก่อภูมิแพ้ที่ได้สัมผัส
          3. โรคภูมิแพ้ที่มีอาการที่ตา ตาแดง คันตา ร่วมกับมีน้ำตาไหลมาก
          สำหรับผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้อากาศ หอบหืดเป็นโรคประจำตัวควรสังเกตุว่าตนเองเกิดอาการโรคภูมิแพ้ หอบหืดเมื่ออยู่ใกล้หรือสัมผัสกับสิ่งใด อะไรเป็นสารก่อภูมิแพ้ต่อร่างกายตนเองแล้วหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้นให้ได้มาก ที่สุด วิีธีนี้เป็นหนทางที่ดีที่สุดเพื่อลดอาการของโรคภูมิแพ้ หอบหืด นอกจากนี้ยิ่งถ้าเราสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้มากและบ่อยเท่าใด ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานไวกว่าปกติอยู่แล้ว ตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ได้ไวและรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้อาการโรคภูมิแพ้และหอบหืดแย่ลง และรักษาภูมิแพ้ หอบหืดได้ยากยิ่งขึ้น
แหล่งข้อมูล https://www.weloveshopping.com

อัพเดทล่าสุด