นอนแล้วเลือดกำเดาไหล วิธีแก้ไม่ให้เหลือดกำเดาไหล มีผื่นขึ้นตามตัวเลือดกำเดาไหลเป็นโรคอะไร


1,960 ผู้ชม


นอนแล้วเลือดกำเดาไหล วิธีแก้ไม่ให้เหลือดกำเดาไหล มีผื่นขึ้นตามตัวเลือดกำเดาไหลเป็นโรคอะไร

นอนแล้วเลือดกำเดาไหล

          เลือดกำเดา หมายถึง เลือดที่ไหลออกจากในโพรงจมูกหรือบริเวณหลังจมูก  เกิดจากเส้นเลือดในเยื่อบุโพรงจมูกแตกจึงมีเลือดไหล  ส่วนมากเกิดจากการแตกของเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ที่บริเวณส่วนหน้าของผนังกั้น ช่องจมูกทั้ง ๒  ข้าง จึงมีเลือดไหลออกทางรูจมูก ถ้านอนหงายเลือดจะไหลไปหลังจมูกเข้าในคอแล้วขากออกทางปาก เลือดกำเดาออกแบบนี้เป็นแบบที่พบมากที่สุดในเด็กๆ ซึ่งมีเลือดออกบ่อยๆ ครั้งละน้อยๆ ไม่มีอันตราย สำหรับในผู้ใหญ่อาจเกิดจากเส้นเลือดใหญ่แตก เนื้องอก มะเร็งในจมูก ซึ่งมีเลือดออกมากเป็นอันตรายได้
          โรคของจมูกที่พบบ่อยที่สุด   คือ   เส้นเลือดฝอยแตกเองในระยะที่อากาศแห้ง  ร้อนจัด หรือหนาวจัดมักมีเลือดออกในตอนกลางคืนหรือตอนเช้า  นอกจากนี้ยังเกิดจากถูกกระแทกที่จมูก  ขยี้จมูกแรงๆ นิ้วแยงในจมูก ถูกตีที่จมูกจนกระดูกจมูกหัก จมูกอักเสบ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ มีสิ่งแปลกปลอมในจมูก โรคของไซนัส รวมทั้งริดสีดวง และเนื้องอกหรือมะเร็ง
          โรคทั่วไป เช่น ความดันเลือดสูง โรคเลือดชนิดต่างๆ เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคตับ ไต เบาหวาน โรครูมาติก ไข้จับสั่น ไข้หวัดใหญ่ หัด คอตีบ และโรคขาดวิตามินเคหรือซี
         การรักษามีหลายวิธี แล้วแต่ความรุนแรงและสาเหตุของเลือดกำเดาไหล  มีทั้งวิธีห้ามเลือดแบบง่ายๆ จนถึงต้องผ่าตัดใหญ่ในโรงพยาบาล การรักษาเบื้องต้นควรทำดังนี้
          ๑. เลือดออกน้อยทางจมูก ควรให้ผู้ป่วยนั่ง ก้มหน้าเล็กน้อย ใช้นิ้วกดจมูกข้างที่เลือดออก หรือใช้นิ้วบีบจมูกทั้ง ๒ ข้าง อ้าปากหายใจ บีบไว้นานๆ ประมาณ ๕-๑๐ นาที เลือดจะหยุดเอง การบีบจมูกนี้จะเป็นการบีบผนังจมูกส่วนที่นุ่มไปกดตรงตำแหน่งที่เลือดออกที่ ผนังกั้นช่องจมูก ไม่ควรให้นอนหงาย เพราะเลือดจะไหลย้อนเข้าส่วนลึกของจมูก เข้า คอ และขากออกทางปาก ทำให้มีเลือดเลอะเทอะทั่วไปจนตรวจไม่รู้ว่าออกจากไหนแน่ ถ้าผู้ป่วยกลัวจะเป็นลม ให้นอนตะแคง ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือห่อน้ำแข็งวางที่หน้าผากจะช่วยให้สบายขึ้น  ไม่ตกใจกลัว  ในเวลาเดียวกันต้องบีบจมูกด้วย
          ๒. ใช้สำลีหรือเศษผ้าสะอาด  ชุบน้ำสะอาดพอหมาดๆ  หรือชุบยาหยอดจมูกซึ่งมียาช่วยให้เส้นเลือดหดตัว ใส่ในโพรงจมูกให้แน่น บีบจมูกด้วยยิ่งดีประมาณ ๑๐ นาทีจึงค่อยๆ ดึงออก ถ้าไม่หยุดต้องไปพบแพทย์

โดย นายแพทย์ประสิทธิ์ ศรีสมบูรณ์

               Link    https://blog.eduzones.com

 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

           วิธีแก้ไม่ให้เลือดกำเดาไหล

 

...

 [ NIH ]

ภาพที่ 1: ด้านในโพรงจมูกของคนเรามีเส้นเลือดแดงขนาดเล็ก ผนังบางจำนวนมาก ทำหน้าที่ปรับอากาศที่เย็นหรือแห้งจากภายนอกให้มีความอบอุ่น และความชื้นสูงขึ้น > [ NIH ]

อากาศที่แห้ง เช่น อากาศในฤดูหนาว ฯลฯ อาจทำให้เยื่อบุในโพรงจมูกแห้ง น้ำมูกหรือเสมหะแข็งเป็นคราบ ภาวะนี้ถ้ามีอะไรไปเขี่ยหรือสะกิดเข้า เช่น มีนิ้วแหย่เข้าไปในรูจมูก การถูจมูกแรงๆ ฯลฯ อาจมีการตกเลือดได้ 

...

อุบัติเหตุ การทำร้ายร่างกาย ชกมวย ภาวะเลือดออกง่าย ความดันเลือดสูง หรือเส้นเลือดเสื่อมสภาพอาจทำให้เกิดเลือดกำเดาได้

...

 [ familydoctor ]

ภาพที่ 2: เลือดกำเดาออก... อย่าเพิ่งตกใจ ให้อ้าปาก หายใจทางปาก ก้มหน้าเล็กน้อย แล้วใช้มือบีบจมูกไว้ดังภาพ > [ familydoctor ]

...

 [ NIH ] 

ภาพที๋ 3: วิธี ห้ามเลือดกำเดาคือ อย่าเพิ่งตกใจ ให้นั่งลง โน้มตัวไปทางด้านหน้าเล็กน้อย (เพื่อให้เลือดตกไปทางด้านหน้า ไม่ไหลลงลำคอด้านหลัง) หายใจทางปาก แล้วบีบจมูกนาน 5-10 นาที/ครั้ง ทำซ้ำได้ถ้าเลือดยังไม่หยุดดี > [ NIH ]

ถ้าไม่โน้มตัวไปข้างหน้า... การกลืนเลือดอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน, แรงเบ่งในช่วงที่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนอาจทำให้แรงดันเลือดสูงขึ้น ตกเลือดมากขึ้นได้ [ familydoctor ]

...

ภาพที่ 4: ภาพขวามือแสดงบริเวณที่มีเส้นเลือดจำนวนมากมากระจุกตัวกัน ลักษณะคล้ายร่างแห ทำให้พบเลือดกำเดาออกจากจมูกส่วนหน้าบริเวณนี้ได้บ่อย

ตำแหน่งที่ควรบีบเพื่อห้ามเลือดคือ ส่วนที่เรียกว่า พื้นที่ของอาจารย์ลิทเทิล (Little's area) ส่วนนี้จะอยู่ห่างจากปลายจมูกประมาณ 1/2 นิ้วในชาวตะวันตก (ฝรั่ง) ตัวโต

...

ภาพซ้ายแสดง ส่วนนี้ไว้ด้วยแถบกลมสีเทา (Pinch here; pinch = หยิก บีบ หนีบ; here = ที่นี่) บริเวณนี้จะอยู่เหนือปีกจมูกเล็กน้อย และอยู่ใต้ส่วนแนวสันกระดูกแข็ง (ดั้งคนเราส่วนบนเป็นกระดูกแข็ง ส่วนล่างเป็นกระดูกอ่อน)

.................................................

อ.นพ.มา ร์ติน สเคอร์ เปรียบเทียบความแข็งแรงของหลอดเลือดขนาดเล็กในโพรงจมูกไว้ว่า เปรียบคล้ายกระดาษที่เปียกน้ำมานาน ทำให้ฉีกขาดได้ง่ายเวลามีอะไรมากระทบ กระแทก เช่น การใช้นิ้วแหย่เข้าไปในโพรงจมูก ฯลฯ [ MailOnline ]

เวลาคนเราเป็นหวัด หรือคัดจมูก... เส้นเลือดในโพรงจมูกอาจบวม หรือมีเลือดคั่ง ทำให้ตกเลือดได้ง่ายเวลาสั่งน้ำมูก

...

วิธีป้องกัน คือ ใช้ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูกช่วย ไม่สั่งน้ำมูกแรง และสั่งน้ำมูกทีละข้าง (ซ้ายหรือขวา) อย่าสั่งน้ำมูก 2 ข้างพร้อมกัน (ซ้าย + ขวา)

เคล็ดไม่ลับในการห้ามเลือดกำเดาคือ [ familydoctor ], [ NIH ]

  • (1). อย่าเพิ่งตกใจ ให้หายใจช้าๆ ทางปาก
  • (2). ก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดตกไปด้านหลังโพรงจมูก หรือตกไปในคอ ให้เลือดตกไปด้านหน้าแทน
  • (3). ใช้นิ้วมือบีบ (pinch) จมูกประมาณ 1/2 นิ้วเหนือปลายจมูก > กดไว้นาน 5-10 นาที ทำซ้ำได้ถ้าจำเป็น

... 

บริเวณ 1/2 นิ้วเหนือปลายจมูกมีบริเวณเปราะบางที่เรียกว่า "พื้นที่ของอาจารย์ลิทเทิล (Little's Area)"

บริเวณนี้มีเส้นเลือดอยู่มาก แถมยังแห้งได้ง่ายจากอากาศภายนอก เช่น อากาศในห้องแอร์ อากาศหน้าหนาว ฯลฯ

... 

ถ้าเลือดกำเดาออกมาก... อาจต้องปรึกษาหมอใกล้บ้าน เพื่อทำการแพ็ค (pack) หรือใช้ผ้าก๊อซใส่ไปในโพรงจมูกให้แน่นทิ้งไว้สักพัก

ถ้า เลือดกำเดาออกมาก หรือออกบ่อย... อาจต้องปรึกษาอาจารย์หมอหู-คอ-จมูก เพื่อพิจารณาว่าควรจี้ให้เส้นเลือดที่ผิดปกติ เช่น โป่งพอง ฯลฯ บริเวณนั้นหรือไม่ต่อไป

...

 

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ 

 

ที่มา                                                                      

  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า >  > 30 กรกฎาคม 2552.
  • ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
             Link   https://health2u.exteen.com
    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
     
            มีผื่นขึ้นตามตัวเลือดกำเดาไหลเป็นโรคอะไร       นื้อหา »      

กำลังเกิดอะไรขึ้น

เลือด กำเดาไหลเป็นภาวะที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ซึ่งสาเหตุเป็นได้จากหลายอย่าง ตั้งแต่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง เช่น อาจเกิดจากเส้นเลือดเปราะบาง เส้นเลือดฝอยฉีกขาดจากการกระทบกระแทก หรืออาจจะรุนแรงจากการที่มีปริมาณเกล็ดเลือดต่ำผิดปกติ หรือเกล็ดเลือดทำหน้าที่ผิดปกติซึ่งจะต้องพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ซึ่งสาเหตุของโรคดูน่าจะหวาดเสียวทั้งนั้น เช่น ภูมิต้านทานผิดปกติ มะเร็งเม็ดเลือดขาว ไขกระดูกทำงานผิดปกติ

ประเมินอาการของคุณเอง

- ปริมาณเลือดออกมากหรือน้อย มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ เช่น จ้ำเลือดตามตัว

- เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง น้ำหนักลด

- เคยเป็นแบบนี้มาก่อนหรือไม่

- ได้รับการกระทบกระแทกหรือไม่

ดูแลรักษาเบื้องต้นด้วยตนเอง

1. ห้ามหายใจเข้าแรงๆ เนื่องจากเลือดที่ออกมาหากมีปริมาณมากแล้วไหลย้อนกลับเข้าไปในโพรงจมูก อาจทำให้เกิดการสำลักไหลกลับเข้าสู่ทางเดินหายใจ อาจทำให้เกิดทางเดินหายใจอุดตันได้ ดังนั้น ไม่ควรหายใจเข้าแรงๆ เพราะทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นได้ง่าย ทางที่ดีควรหายใจทางปาก

2. ให้ใช้น้ำแข็งหรือ coldpack วางไว้บริเวณหน้าผาก จะทำให้เส้นเลือดที่แตกหดตัว สามารถทำให้เลือดหยุดไหลได้

3. การใช้มือบีบจมูกเข้าหากันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ หากบริเวณที่เราบีบตรงกับตำแหน่งที่เลือดออกก็สามารถทำให้เลือดหยุดไหลได้ เช่นเดียวกัน

อาหารที่แนะนำเพื่อป้องกันเลือดกำเดาไหล

อาหารที่มีวิตามินซีสูงๆ จะช่วยในด้านการเสริมสร้างหลอดเลือดให้แข็งแรง เช่น ส้ม มะนาว ผักสดต่างๆ เป็นต้น

หาก มีความผิดปกติ อย่ารีรอที่จะปรึกษาแพทย์ และถ้ามีความผิดปกตินอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น โดยมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ มีจ้ำเลือด หรือจุดเลือดออกตามตัว น้ำหนักลด เหนื่อย เพลีย ไม่มีแรง ปวดข้อ ผมร่วง ผื่นขึ้น เมื่อช่วยเหลือตัวเองแล้วเลือดไม่หยุดไหล ก็ควรไปปรึกษาแพทย์เป็นทางที่ดีที่สุด

ข้อมูล จาก สมุนไพรดอทคอม

             Link  https://www.oknation.net

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อัพเดทล่าสุด