โรคในเด็ก ที่มากับฝน เด็กเป็นหวัด


1,050 ผู้ชม


โรคในเด็ก ที่มากับฝน เด็กเป็นหวัด
โรคในเด็ก ที่มากับฝน

ฤดูฝนแต่ละปีจะพบเด็กไม่สบายบ่อย เพราะอากาศเริ่มเย็นและชื้นมากขึ้น แถมยังมีเชื้อไวรัสอีกมากมายที่ทำให้เด็กๆ ไม่สบายได้ โรคเด็กที่พบบ่อยในฤดูฝนคือ โรคติดเชื้อเฉียบพลันในทางเดินหายใจ โรคที่มียุงเป็นพาหะ เช่น โรคไข้เลือดออก ไข้สมองอักเสบ ถ้ามีน้ำท่วมขังก็จะมีโรคเท้าเปื่อยด้วย
                                                โรคในเด็ก ที่มากับฝน เด็กเป็นหวัด
โรคติดเชื้อเฉียบพลันในระบบทางเดินหายใจ แบ่งได้เป็น
            โรคในเด็ก ที่มากับฝน เด็กเป็นหวัด โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ
            โรคในเด็ก ที่มากับฝน เด็กเป็นหวัด โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ โรคทางเดินหายใจอุดตันกะทันหันจากกล่องเสียงอักเสบ (CROUP) และโรคหอบหืด
            อาการส่วนใหญ่จะมีน้ำมูกไหล คันตา จาม ไอ และอาจจะมีเจ็บคอ ไข้ ปวดศีรษะ และเบื่ออาหารร่วมด้วย ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อน เช่น หูชั้นกลางอักเสบ (เจ็บหู) หรือไซนัสอักเสบ (ปวดศีรษะ) หรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียเกิดขึ้น อาจจะสังเกตได้จากน้ำมูกที่เปลี่ยนสีจากใสๆ เป็นเขียวๆ เหลืองๆ ไอมากขึ้น ไข้สูงนานกว่า 3 วัน หรือหายใจลำบาก ควรจะพาไปพบกุมารแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
โรคในเด็ก ที่มากับฝน เด็กเป็นหวัด            บางรายได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่มาก็จะมีอาการที่รุนแรง และอยู่นานกว่าไข้หวัดธรรมดา ในรายที่เป็นไม่มาก สามารถดูแลอยู่ที่บ้านได้โดย ให้เด็กพักผ่อน ดื่มน้ำอุ่นๆ รับประทานยาลดไข้ (ถ้ามีไข้) ดูแลให้สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นถ้าอากาศเย็น ไม่ควรอาบน้ำหรือสระผมขณะที่เป็นไข้หวัด โดยเฉพาะเด็กเล็กในเด็กเล็กๆ ที่มีน้ำมูกอาจจะช่วยโดยใช้ไม้พันสำลีจุ่มน้ำเกลือเช็ดจมูก หรือหยดน้ำเกลือในโพรงจมูกแล้ว ใช้ลูกยางแดงดูดน้ำมูกออก ก่อนดูดนมและก่อนนอนก็จะช่วยให้เด็กดูดนมและนอนหลับดีขึ้น
โรคปอดบวม
            เป็นจากการติดเชื้อไวรัสและ/หรือแบคทีเรีย อาการส่วนใหญ่จะมีเหมือนไข้หวัดมาก่อน แต่จะเริ่มหายใจเร็วขึ้น มีไข้สูง และถ้าเป็นมากขึ้น เด็กจะเริ่มหอบ หายใจลำบากขึ้นจนมีจมูกบานหรือชายโครงบุ๋ม ริมฝีปากเขียว และถ้าเริ่มเห็นอาการเหล่านี้ ควรพาไปพบแพทย์
โรคหลอดลมอักเสบและหอบหืด
            ส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีน้ำมูกใสๆ ไข้ต่ำๆ ไอ ซึ่งอาจจะมากขึ้นเรื่อยๆ จนหายใจเข้าได้ไม่เพียงพอ หรือถ้ามีอาการหอบ ก็อาจจะได้ยินเสียงวี้ด (WHEEZING) หายใจ เร็วขึ้น ชายโครงบุ๋มและจมูกบานได้ ส่วนมากถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดือน อาการหอบครั้งแรก มักจะเป็นจากการติดเชื้อไวรัส หรือจากปอดบวม ส่วนเด็กที่มีอาการหอบเรื้อรังเป็นๆ หายๆ อยู่เรื่อยๆ จนโต จะเรียกว่า โรคหอบหืด ซึ่งจะต้องระวังเพราะอาการหวัดก็สามารถทำให้เด็กพวกนี้หอบได้
โรคในเด็ก ที่มากับฝน เด็กเป็นหวัด
            โรคทางเดินหายใจอุดตันกะทันหันจากการบวมอักเสบของกล่องเสียง ที่ลามไปถึงหลอดลมใหญ่ (VIRAL CROUP) ในฤดูฝนจะมีเชื้อไวรัสบางชนิดที่จะ ทำให้เกิดอาการนี้ได้ ส่วนใหญ่จะเห็นในเด็กอายุ 3 เดือน ถึง 3 ขวบ และจะมาด้วยอาการไข้ ไอเสียงก้อง (BARKING COUGH) เริ่ม หายใจเสียงดัง และใช้กล้ามเนื้อส่วนคอในการหายใจเข้า ซึ่งจะเห็นได้เมื่อหลอดลมเริ่มอุดตันจากอาการบวมมากขึ้น ควรพาไปพบแพทย์ทันที
            ไข้หวัดและโรคแทรกซ้อนจากหวัดเป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ เพราะยังไม่มีภูมิต้านทานที่ดีพอ ฤดูฝนเป็นฤดูที่มีเชื้อไวรัสหลายชนิดที่ทำให้เกิดเป็นหวัดได้ และสามารถติดต่อกันได้ง่ายจากอากาศที่หายใจ

ที่มา : เว็บไซต์ scimath

อัพเดทล่าสุด