แนวทางแก้ไขปัญหา เด็กขาดสารอาหาร วิธีป้องกันโรคขาดสารอาหาร คลิบเด็กขาดสารอาหาร


3,054 ผู้ชม


แนวทางแก้ไขปัญหา เด็กขาดสารอาหาร วิธีป้องกันโรคขาดสารอาหาร คลิบเด็กขาดสารอาหาร

              แนวทางแก้ไขปัญหา เด็กขาดสารอาหาร


ปัญหาทั่วโลกและวิธีแก้ไข

ทุกๆ 6 วินาที มีเด็ก 1 คน เสียชีวิตจากความอดอยาก และขาดสารอาหาร*

แม้ว่าจะมีการช่วยเหลือจากองค์กรทั่วโลกแต่ก็ยังไม่สามารถเยียวยาวิกฤต ของ เด็กยากจนเหล่านี้ได้ ทุกๆ 6 วินาที จะมีเด็ก 1 ชีวิตที่ต้องจบลงท่ามกลางความหิวโหย และนี่ก็คือเหตุผลที่โครงการบริจาคข้าวไวตามีลจะเป็นอีกหนึ่งทางที่คุณ สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้

วันนี้คุณมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการ บริจาคข้าวไวตามีล ที่ไม่ใช่แค่อิ่มท้องแต่เด็กๆ แต่จะได้รับโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับร่างกาย

สารอาหารที่เป็นส่วนประกอบทั้งหมดของข้าวไวตามีลประกอบไปด้วยสารอาหารที่ เหมาะสมของแคลอรี่โปรตีน ไขมัน และคาโบรไฮเดรตที่เด็กขาดสารอาหารต้องการนำไปเพื่อพัฒนาการเจริญเติบโตที่จำ เป็นที่สุดสำหรับพวกเขา

ข้าวไวตามีลเป็นอาหารที่มีคุณภาพทางโภชนาการสูง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อหยุดวงจรการขาดสารอาหารที่เลวร้ายในเด็ก

            Link    https://www.nuskin.com/

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
                วิธีป้องกันโรคขาดสารอาหาร

 โทษของการขาดสารอาหาร

ประเทศไทยแม้จะได้ชื่อว่า  เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์มากมายหลายชนิด  เพราะนอกจากจะสามารถผลิตอาหารพอเลี้ยงประชากรในประเทศได้แล้ว  ยังมากพอที่จะส่งไปจำหน่ายต่างประเทศได้ปีละมาก ๆ อีกด้วย  แต่กระนั้นก็ตาม  ยังมีรายงานว่า  ประชากรบางส่วนของประเทศยังเป็นโรคขาดสารอาหารอีกจำนวนไม้น้อย  โดยเฉพาะทารกและเด็กอ่อน วัยเรียน  เด็กเหล่านี้อยู่ในสภาพที่ร่างกายไม้เจริญเติบโตเต็มที่  มีความต้านทานต่อโรคติดเชื้อต่ำ  นอกจากนี้นิสัยโดยส่วนตัวของคนไทยก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารทั้งนี้เพราะคนไทยเลือกกินอาหารตามรสปาก  รีบร้อนกินเพื่อให้อิ่มท้อง  หรือกินตามทที่หามาได้  โดย ไม่คำนึงถึงว่ามีสารอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกายครบถ้วนหรือไม่ พฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้เกิดโรคขาดสารอาหารได้โดยไม่รู้สึกตัว

                            นักเรียนได้เรียนรู้มาแล้วว่า  เมื่อกินอาหารเข้าสู่ร่างกายแล้วและอาหารก็จะถูกย่อยสลายโดยอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย   ให้เป็นสารอาหารเพื่อนำไปทำหน้าที่ต่าง ๆ ดังนี้

                              1.ให้พลังงานและความร้อนเพื่อใช้ในการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น การหายใจ  การยืดหดของกล้ามเนื้อ  การย่อยอาหารเป็นต้น

                              2.สร้างความเจริญเติบโตสำหรับเด็ก  และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอหรือชำรุดทรุดโทรมในผู้ใหญ่

                              3.ช่วยป้องกันและสร้างภูมิต้านทานโรค  ทำให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์

                              4.ช่วยควบคุมปฏิกิริยาต่าง ๆ ภายในร่างกาย

                             ดังนั้นถ้าร่างกายของคนเราได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนหรือปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย  ก็จะทำให้เกิดความผิดปกติและเกิดโรคขาดสารอาหารได้

  โรคขาดสารอาหารที่สำคัญและพบเห็นบ่อยในประเทศไทยมีดังนÕé

1.โรคขาดโปรตีนและแคลอรี

โรคขาดโปรตีนและแคลอรีเป็นโรคที่เกิดจากร่างกายได้รับสารอาหารประเภทโปรตีน  คาร์โบไฮเดรต  และไขมันที่มีคุณภาพดีไม่เพียงพอ  เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี  โดยเฉพาะทารกและเด็กก่อนวัยเรียน  อันเนื่องมาจากการเลี้ยงดูที่ไม่เอาใจใส่เริ่งการกินอาหารหรือไม่มีความรู้ทางโภชนาการดีพอ  ลักษณะอาการของโรคมี 2 รูปแบบ  คือ  ควาซิออร์กอร์ ( Kwashiorkor ) และมาราสมัส ( Marasmus )

1.1.ควาชิออร์กอร์  เป็นลักษณะอาการที่เกิดจากการขาดสารอาหารประเภทโปรตีนอย่างมาก  มักเกิดกับทารกที่เลี้ยงด้วยนมข้นหวาน  นมผงผสม  และให้อาหารเสริมประเภทข้าวหรือแป้งเป็นส่วนใหญ่  ทำให้ร่างกายขาดโปรตีนสำหรับการเจริญเติบโตและระบบต่าง ๆ บกพร่อง  ทารกจะมีอาการซีด  บวมที่หน้า  ขา  และลำตัว  เส้นผมบางเปราะและร่วงหลุดง่าย  ผิวหนังแห้งหยาบ  มีอาการซึมเศร้า  มีความต้านทานโรคต่ำ   ติดเชื้อง่าย  และสติปัญญาเสื่อม

1.2.มาราสมัส   เป็นลักษณะอาการที่เกิดจากการขาดสารอาหรประเภท โปรตีน  คาร์โบไฮเดรตและไขมันผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการคล้ายกับเป็นควาชิออร์กอร์แต่ไม่มีอาการบวมที่ท้อง  หน้า  และขา  นอกจากนี้ร่างกายจะผอมแห้ง  ศรีษะโตพุงโร  ผิวหนังเหี่ยวย่นเหมือนคนแก่  ลอกออกเป็นชั้นได้  และท้องเสียบ่อย

อย่างไรก็ตาม  อาจมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่มีลักษณะทั้งควาชิออร์กอร์  และมาราสมัสในคนเดียวกันได้

              

   รูป   ลักษณะของเด็กที่เป็นโรคขาดโปรตีนและแคลอรี

ประเภทควาชิออร์กอร์และมาราสมัส

 จากการสำรวจพบว่า  ทารกและเด็กก่อนวัยเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นโรคขาดโปรตีน  และแคลอรีมากที่สุด   นอกจากนี้จากรายงานสถานภาพโภชนาการในประเทศไทยของกองโภชนาการ  กรมอนามัย  ยังพบอีกว่าในหญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตรโดยเฉพาะในชนบทมีภาวะโภชนาการไม่ดีตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์   มีอาการตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุยังน้อย   และขณะตั้งครรภ์งดกินอาหารประเภทโปรตีน    เพราะเชื้อว่าเป็นของแสลงทำให้ได้รับพลังงานเพียงร้อยละ  80  และโปรตีนร้อยละ 62 - 69  ของปริมาณที่ควรได้รับ

การขาดสารอาหารประเภทโปรตีนเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของประเทศไทย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กตั้งแต่วัยทารกจนถึงวัยรุ่น  ด้วยเหตุนี้เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงได้มีการส่งเสริมให้เลี้ยงทารกด้วยนมมารดามากขึ้น  และส่งเสริมให้เด็กดื่มนมวัวน้ำนมถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น  เพราะน้ำนมเป็นสารอาหารที่สมบูรณ์ที่สุดเนื่องจากประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ ครบทั้ง 5 ประเภท

นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีหน่วยงานหลายแห่งได้ศึกษาค้นคว้าหาวิธีการผลิตอาหารที่ให้คุณค่าโปรตีนแต่มีราคาไม่แพงนัก  ให้คนที่มีรายได้น้อยได้กินกันมากขึ้น  สถาบันค้นคว้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร   มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ได้ค้นคว้าทดลองผลิตอาหารโปรตีนจากพืชเพื่อทดแทนโปรตีนจากสัตว์  เช่น  ใช้ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่เรียกว่า  โปรตีนเกษตร  ที่ผลิตในรูปของเนื้อเทียม  และโปรตีนจากสาหร่ายสีเขียว  เป็นต้น

 2.โรคขาดวิตามิน

นักเรียนคงได้ทราบมาแล้วว่า  นอกจากร่างกายจะต้องการสารอาหารประเภทโปรตีน  คาร์โบไฮเดรต  และไขมันแล้ว  ยังต้องการสารอาหารประเภทวิตามิน ( และแร่ธาตุ )  อีกด้วยเพื่อช่วยทำให้ร่างกายสมบูรณ์ขึ้น  คือ  ช่วยควบคุมให้อวัยวะต่าง ๆ ทำหน้าที่ได้ตามปกติถึงแม้ร่างกายจะต้องการสารอาหารประเภทนี้ในปริมาณน้อยมาก  แต่ถ้าขาดไปจะทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์และเกิดโรคต่าง ๆ ได้  โรคขาดวิตามินที่พบในประเทศไทยส่วนมากเป็นโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินเอ  วิตามินบีหนึ่ง  วิตามินบีสอง  และวิตามินซี  ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

2.1.โรคขาดวิตามินเอ   เกิดจากอาหารที่มีไขมันต่ำและมีวิตามินเอน้อยคนที่ขาดวิตามินเอ  ถ้าเป็นเด็กการเจริญเติบโตหยุดชะงัก  สุขภาพอ่อนแอ  ผิวหนังหยาบแห้งมีตุ่มสาก ๆ เหมือนหนังคางคกเนื่องจากการอักเสบบริเวณก้น  แขน  ขา  ข้อศอก  เข่า  และหน้าอก  นอกจากนี้จะมีอาการอักเสบในช่องจมูก  หู  ปาก  ต่อมน้ำลาย  เยื่อบุตาและกระจกตาขาวและตาดำจะแห้ง   ตาขาวจะเป็นแผลเป็นที่เรียกว่า  เกล็ดกระดี่   ตาดำขุ่นหนาและอ่อนเหลวถ้าเป็นรุนแรงจะมีผลทำให้ตาบอดได้  ถ้าไม่ถึงกับตาบอดก็อาจจะมองไม่เห็นในที่สลัวหรือปรับตาในความมืดไม่ได้  เรียกว่า  ตาฟาง  หรือ  ตาบอดกลางคืน

 

 รูป     โรคตาเป็นเกล็ดกระดีที่เกิดจากการขาดวิตามินเอ

การรักษาและป้องกันโรคขาดวิตามินเอ   ทำได้โดยการกินอาหารที่มีไขมันและอาหารจำพวกผลไม้  ผักใบเขียว  ผักใบเหลือง  เช่น  มะละกอ  มะม่วงสุก  ผักบุ้ง  คะน้า  ตำลึง  มันเทศ  ไข่  นม  สำหรับทารกควรได้กินอาหารเสริมที่ผสมกับตับหรือไข่แดงบด

2.2.โรคขาดวิตามินบีหนึ่ง  เกิดจากการกินอาหารที่มีวิตามินบีต่ำและกินอาหารที่ไปขัดขวางการดูดซึมวิตามินบีหนึ่ง  คนที่ขาดวิตามินบีหนึ่งจะเป็นโรคเหน็บชาซึ้งจะมีอาการชาทั้งมือและเท้า   กล้ามเนื้อแขนและขาไม่มีกำลัง  ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการบวมร่วมด้วย  ถ้าเป็นมากจะมีอาการใจสั่นหัวใจโตและเต้นเร็ว  หอบ  เหนื่อย  และอาจตายได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที

 

 รูป  ผู้ป่วยเป็นโรคเหน็บชาเนื่องจากการขาดวิตามินบีหนึ่ง

 การรักษาและป้องกันโรคขาดวิตามินบีหนึ่ง  ทำได้โดยการกินอาหารที่มีวิตามินบีหนึ่งให้เพียงพอและเป็นประจำ   เช่น  ข้าวซ้อมมือ  ตับ  ถั่วเมล็ดแห้ง  และเนื้อสัตว์  และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายวิตามินบีหนึ่ง  เช่น  ปลาร้าดิบ  หอยดิบ  หมาก เมี่ยง  ใบชา  เป็นต้น

 2.3.โรคขาดวิตามินบีสอง  เกิดจากการกินอาหารที่มีวิตามินบี สองไม่เพียงพอ  คนที่ขาดวิตามินบีสองมักจะเป็นแผลหรือรอยแตกที่มุมปากทั้งสองข้างหรือซอกจมูกมีเกล็ดใสเล็ก ๆ ลิ้นมีสีแดงกว่าปกติและเจ็บ  หรือมีแผลที่ผนังภายในปากรู้สึกคันและปวดแสบปวดร้อนที่ตา  อาการเหล่านี้เรียกว่า  เป็นโรคปากนกกระจอก  คนที่เป็นโรคนี้จะมีอาการ  อ่อนเพลีย  เบื่ออาหาร  และอารมณ์หงุดหงิด

 

 

 

 รูป   โรคปากนกกระจอกเนื่องจากการขาดวิตามินบีสอง

 การรักษาและป้องกันโรคขาดวิตามินบีสอง  ทำได้โดยการกินอาหารที่มีวิตามินบีสองให้เพียงพอและเป็นประจำ  เช่น  นมสด  นมปรุงแต่ง  นมถั่วเหลือง  น้ำเต้าหู้  ถั่วเมล็ดแห้งข้าวซ้อมมือ  ผัก  ผลไม้  เป็นต้น

 2.4.โรคขาดวิตามินซี  เกิดจากการกินอาหารที่มีวิตามินซีไม่เพียงพอ  คนที่ขาดวิตามินซีมักจะเจ็บป่วยบ่อย  เนื่องจากมีความต้านทานโรคต่ำ  เหงือกบวมแดง  เลือดออกง่าย  ถ้าเป็นมากฟันจะโยกรวน  และมีเลือดออกตามไรฟันง่าย  อาการเหล่านี้เรียกว่าเป็น  โรคลักปิดลักเปิด

 

 รูป   โรคลักปิดลักเปิด เนื่องจากการขาดวิตามินซี

 การรักษาและป้องกันโรคขาดวิตามินซี   ทำได้โดยการกินอาหารที่มีวิตามินซีให้เพียงพอและเป็นประจำ  เช่น  ส้ม  มะนาว  มะขามป้อม  มะเขือเทศ  ฝรั่ง  ผักชี  เป็นต้น

 จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า  โรคขาดวิตามิน  ส่วนมากมักจะเกี่ยวกับวิตามินประเภทละลายได้ในน้ำ  เช่น  วิตามินบี  วิตามินอี  และวิตามินเค  มักจะไม่ค่อยเป็นปัญหาโภชนาการ   ทั้งนี้เพราะวิตามินเหล่านี้บางชนิดร่างกายของคนเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเเองได้  เช่น  วิตามินดี  ผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้งและได้รับแสงอาทิตย์เพียงพอ  รังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์สามารถเปลี่ยนสารที่เป็นไขมันชนิดหนึ่งใต้ผิวหนังที่เป็นวิตามินดีได้  วิตามินเค  ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้จากแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่

 3.โรคขาดแร่ธาตุ

แร่ธาตุนอกจากจะเป็นสารอาหารที่ช่วยในการควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำหน้าที่ปกติแล้ว  ยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกายอีกด้วย  เช่น  เป็นส่วนประกอกบของกระดูกและฟัน  เลือด  กล้ามเนื้อ  เป็นต้น  ดังที่กล่าวแล้ว  ดังนั้น  ถ้าร่างกายขาดแร่ธาตุก็อาจจะทำให้การทำหน้าที่ของอวัยวะผิดปกติ  และทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้  ดังนี้

                           3.1.โรคขาดธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส  เกิดจากการกินอาหารที่มีแคลเซียมยมและฟอสฟอรัสไม่เพียงพอ  คนที่ขาดแคลเซียมและฟอสฟอรัสจะเป็นโรคกระดูกอ่อน  มักเป็นกับเด็ก  หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร  ทำให้

ข้อต่อกระดูกบวม  ขาโค้งโก่ง  กล้ามเนื้อหย่อน  กระดูกซีโครงด้านหน้ารอยต่อนูน  ทำให้หน้าอกเป็นสันที่เรียกว่าอกไก่   ในวัยเด็กจะทำให้การเจริญเติบโตช้าโรคกระดูกอ่อนนอกจากจะเกิดจากการขาดแร่ธาตุทั้งสองแล้ว  ยังเกิดจากการได้รับแสงแดดไม่เพียงพออีกด้วย

 

 รูป   โรคกระดูกอ่อน เนื่องจากการขาดธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส

                            การรักษาและป้องกันโรคขาดธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส  ทำได้โดยการกินอาหารที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสให้มากและเป็นประจำ  เช่น  นมสด  ปลาที่กินได้ทั้งกระดูก  ผักสีเขียว  น้ำมันตับปลา เป็นต้น

                           3.2.โรคขาดธาตุเหล็ก   เกิดจากการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอหรือเกิดจากความผิดปกติในระบบการย่อยและการดูดซึม  คนที่ขาดธาตุเหล็กจะเป็นโรคโลหิตจาง เนื่องจากร่างกายสร้างเฮโมโกลบินได้น้อยกว่าปกติ  ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย  เบื่ออาหาร   มีความต้านทานโรคต่ำ  เปลือกตาขาวซีด  ลิ้นอักเสบ  เล็บบางเปราะ  และสมรรถภาพในการทำงานเสื่อม

  

                                    รูป    ผู้ป่วยเป็นโรคโลหิตจางและมีลิ้นอักเสบและซีด

                             การรักษาและป้องกันโรคขาดธาตุเหล็ก  ทำได้โดยการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กและโปรตีนสูงเป็นประจำ   เช่น  ตับเครื่องในสัตว์  เนื้อสัตว์  ผักสีเขียว  เป็นต้น

                           3.3.โรคขาดธาตุไอโอดีน  เกิดจากการกินอาหารที่มีไอโอดีนต่ำหรืออาหารที่มีสารขัดขวางการใช้ไอโอดีนในร่างกาย  คนที่ขาดธาตุไอโอดีนจะเป็นโรคคอพอก  และต่อมไทรอยด์บวมโต  ถ้าเป็นตั้งแต่เด็กจะมีผลต่อการพัฒนาทางร่างกายและจิตใจ  ร่างกายเจริญเติบโตช้า  เตี้ย  แคระแกร็น  สติปัญญาเสื่อม  อาจเป็นใบ้หรือหูหนวกด้วย  คนไทยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นโรคนี้กันมาก  บางทีเรียกโรคนี้ว่า  โรคเอ๋อ

  

      รูป     ผู้ป่วยเป็นโรคคอพอกเนื่องจากการขาดธาตุไอโอดีน

                            การรักษาและป้องกันโรคขาดธาตุไอโอดีน  ทำได้โดยการกินอาหารทะเลให้มาก  เช่น  กุ้ง  หอย  ปู  ปลา  เป็นต้น  ถ้าไม่สามารถหาอาหารทะเลได้ก็ควรบริโภคเกลืออนามัย  ซึ่งเป็นเกลือสมุทรผสมไอโอดีนที่ใช้ในการประกอบอาหารแทนได้  นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารขัดขวางการใช้ไอโอดีน  เช่น  พืชตระกูลกระหล่ำปลี  ซึ่งก่อนกินควรต้มเสียก่อน

                            โดยกล่าวสรุป  การขาดสารอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งหรือหลาย ๆ ประเภท  นอกจากจะมีผลทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์แข็งแรงและเป็นโรคต่าง  ๆ ได้แล้ว  ยังทำให้การดำรงชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก  อีกทั้งยังมีผลกระทบกระเทือนต่อสุขภาพของประชากรโดยตรง  ซึ่งจะมีผลต่อการพัฒนาของประเทศในที่สุด  ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนควรเลือกกินอาหารอย่างมีคุณภาพ  ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารที่มีราคาแพงเสมอไป  แต่ต้องการกินอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนในปริมาณที่พอเพียงกับร่างกายต้องการในแต่ละวัน  นั่นคือ  กินให้ดี  แล้วก็จะส่งผลถึงสุขภาพความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย  ซึ่งก็คือ  อยู่ดี  ด้วย

                          อย่างไรก็ตาม  โรคที่เกี่ยวกับสารอาหารไม่ใช่มีเฉพาะโรคที่เกิดจากการขาดสารอาหารเท่านั้น  การที่ร่างกายได้รับสารอาหารบางประเภทมากเกินไปก็ทำให้เกิดโรคได้เช่นเดียวกัน  โรคที่เกิดจากการได้รับสารอาหารมากเกินไปความต้องการของร่างกายมีหลายโรคที่พบเห็นบ่อย  คือ  โรคอ้วน

                            โรคอ้วน  เป็นโรคที่เกิดจากการกินอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย  ทำให้มีการสะสมของไขมันภายในร่างกายเกินความจำเป็น  คนที่เป็นโรคอ้วนอาจมีอาการอื่น ๆ ตามมา  เช่น  สภาพจิตใจไม่ปกติ  ความต้านทานโรคต่ำ  ติดโรคง่าย  เป็นโรคหัวใจ  เบาหวาน  ความดันโลหิตสูง  เป็นต้น

 

รูป   ผู้ป่วยเป็นโรคอ้วน

                            ปัจจุบันสภาวะสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไป  โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ทุกคนต้องทำงานแข่งกับเวลา  ประกอบกับการมีค่านิยมการบริโภคอาหารแบบตะวันตก  เช่น  พิซซ่า  แซนด์วิช  มันฝรั่งทอด  ไก่ทอด  เป็นต้น  จึงทำให้ได้รับไขมันจากสัตว์ที่เป็นกรดไขมันอิ่มตัวและคอเลสเทอรอลสูง  ดังนั้นนักเรียนควรใช้ความรู้เกี่ยวกับอาหารที่ศึกษามาให้ประโยชน์ต่อตนเอง  โดยการเลือกกินอาหารที่มีไขมันให้พอเหมาะเพื่อป้องกันโรคอ้วน  โรคไขมันและคอเลสเทอรอลในเลือดสูง  ซึ่งจะมีผลต่อโรคอื่น ๆ ต่อไป  นอกจากนี้การออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยรักษาและป้องกันโรคอ้วนได้ถ้าอ้วนมาก ๆ ควรปรึกษาแพทย์  อย่าใช้ยา  สบู่  ครีม  หรือเครื่องมือลดไขมัน  ตลอดจนการกินยาลดความอ้วน  เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

           Link   https://www.kr.ac.th

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

             คลิบเด็กขาดสารอาหาร

เผยภาพสุดสลด เด็กน้อยผอมโกรกใกล้ตายในเคนย่า

เผยภาพสุดสลด เด็กน้อยผอมโกรกใกล้ตายในเคนย่า

เผยภาพสุดสลด เด็กน้อยผอมโกรกใกล้ตายในเคนย่า

เผยภาพสุดสลด เด็กน้อยผอมโกรกใกล้ตายในเคนย่า

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube โพสต์โดย SomaliService
           เป็นที่รู้กันดีว่า พื้นที่แถบแอฟริกาตะวันออก หรือที่เรียกว่า ฮอร์น ออฟ อเมริกา เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงมากที่สุดในโลก จนทำให้เด็กและประชากรหลายคนต้องมีสภาพเป็นคนผอมโกรก ขาดสารอาหาร และอดอยากตายกันมาแล้วนับไม่ถ้วน และในปีนี้ ดูเหมือนว่าปัญหาดังกล่าวจะเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นตามสภาพอากาศที่ร้อน ระอุขึ้นทุกวัน ส่งผลให้เด็กที่อยู่ในพื้นที่นี้หลายคนเผชิญกับความอดอยากและขาดสารอาหารกัน มากขึ้น
           ล่าสุด เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ ได้เผยแพร่ภาพสุดสลดของเด็กที่อาศัยอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันออกอย่างเคนย่า และเอธิโอเปีย พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจของเด็กหลายคนที่นี่ที่ต้องอดอยาก ผอมโกรก ขาดสารอาหาร จนมีโอกาสรอดเพียง 50% เท่านั้น และหนึ่งในนั้น คือ มิแฮก เกดิ ฟาราห์ หนูน้อยเพศชายวัยเพียง 7 เดือน ที่ต้องเผชิญกับภาวะอดอยากตั้งแต่เกิด จนทำให้มีสภาพร่างกายผอมจนเนื้อติดกระดูก ตากลมกลวงโบ๋ มีแขนขาลีบเล็ก และมีน้ำหนักเพียง 3 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าที่ควรจะเป็นถึง 3 เท่าเลยทีเดียว
เผยภาพสุดสลด เด็กน้อยผอมโกรกใกล้ตายในเคนย่า

           โดยหนูน้อยคนนี้ ได้ถูกแม่อุ้มเดินมายังศูนย์ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในเคนย่าซึ่งต้องใช้เวลา นานกว่า 7 วัน เพื่อหนีความอดอยากและความแห้งแล้ง ซึ่งเมื่อมาถึงศูนย์ เจ้าหน้าที่ก็เร่งให้ความช่วยเหลือทันที เพื่อให้หนูน้อยมีชีวิตรอด แต่แล้วด้วยความที่ยังเป็นเด็ก ภูมิต้านทานยังมีไม่มาก ซ้ำยังต้องฝ่าแดดลมร้อนมาหลายวัน และไม่มีอาหารประทังชีวิต ทำให้หนูน้อยมีโอกาสรอดเพียง 50% เท่านั้น นับว่าสร้างความเศร้าสลดให้กับคนเป็นแม่ และสะเทือนใจผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
           และ ไม่ใช่เพียงหนูน้อย มิแฮก เกดิ ฟาราห์ เท่านั้น ที่ต้องเผชิญกับปัญหานี้ แต่ในขณะนี้ มีเด็กอีกหลายพันคนที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหาร ต้องอยู่อย่างอดอยาก และไม่เพียงแค่นั้น ยังมีรายงานระบุอีกว่า ภาพของเด็กและผู้ใหญ่ที่อดอยากจนเสียชีวิต กลายเป็นภาพที่พบเห็นได้ปกติในพื้นที่แถบนี้เสียแล้ว

           อย่างไรก็ดี ล่าสุด นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ขอบริจาคเงินช่วยเหลือจากปลายประเทศทั่วโลก เพื่อช่วยเหลือประชาชนกว่า 12 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แถบนี้ และประเมินปัญหาความแห้งแล้งอดอยากออกมาได้ว่า ในปีนี้ ประเทศแถบนี้ที่แห้งแล้งอยู่แล้วนั้น จะแห้งแล้งรุนแรงขึ้นอีกจนหนักที่สุดในรอบ 60 ปีเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้ทุกประเทศร่วมมือกัน เพราะแค่เพียงสหรัฐฯ ประเทศเดียวคงไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือ ขณะที่อัตราการล้มป่วยและเสียชีวิตของเด็กและสัตว์ต่าง ๆ ในพื้นที่นี้ ก็ยิ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวันแล้ว
คลิปสุดสลด เด็กน้อยผอมโกรกใกล้ตายในเคนย่า

คลิปสุดสลด เด็กน้อยผอมโกรกใกล้ตายในเคนย่า


คลิปสุดสลด เด็กน้อยผอมโกรกใกล้ตายในเคนย่า
  
                    Link     https://hilight.kapook.com
  
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อัพเดทล่าสุด