ราคาผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี
ราคาผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในถุงน้ำดีและการผ่าตัดด้วยกล้องส่องช่องท้องโดย...น.พ.สาธร วชิราพรพฤฒ
ถุง น้ำดีเป็นอวัยวะเก็บกักน้ำดีอยู่ในช่องท้องบริเวณใต้ตับ และมีท่อเชื่อมต่อกับท่อน้ำดีหลัก ซึ่งสร้างจากตับรวมกันไปเปิดสู่ลำไส้เล็กส่วนต้นบริเวณหัวของตับอ่อน
สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ แผนกศัลยกรรม
เบอร์โทรศัพท์ 0-2574-5000 ต่อ 8113, 8122
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ นิ่วในถุงน้ำดีกับการผ่าตัด เมนูอาหารที่อร่อยๆ หลายๆอย่าง ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งมาจากส่วนประกอบที่เป็นไขมัน เพราะไขมันจะช่วยให้อาหารกลมกล่อมและนุ่มขึ้น และน้ำดีก็มีหน้าที่หลัก ทำให้ไขมันแตกตัว ง่ายต่อการย่อยด้วยน้ำย่อยต่อไป น้ำดีนั้นที่จริงแล้วผลิตจากตับ ไม่ใช่ผลิตจากถุงน้ำดีอย่างที่เข้าใจกัน เนื่องจากตับเป็นอวัยวะที่มีรูปร่างเหมือนสามเหลี่ยมอยู่ที่บริเวณช่องท้องด้านขวา และมีท่อเชื่อมต่อกับถุงน้ำดีที่อยู่ด้านหลัง เมื่อตับผลิตน้ำดีแล้ว จะถูกส่งไปเก็บที่ถุงน้ำดี และเมื่อเรารับประทานอาหารประเภทไขมัน น้ำดีจะถูกขับออกมาจากถุงน้ำดี ไปยังลำไส้เล็กเพื่อทำหน้าที่สลายไขมันซึ่งจัดว่าเป็นด่านแรกในการจัดการกับอาหารพวกไขมัน ปัญหาที่พบบ่อยในถุงน้ำดี คือ นิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน คือการผ่าตัด ซึ่งเป็นการตัดนิ่วออกพร้อมกับถุงน้ำดี สำหรับวิธีการผ่าตัดในปัจจุบันมีทั้งการผ่าตัดตามปกติ ซึ่งบาดแผลค่อนข้างใหญ่ และการผ่าตัดผ่านกล้อง ทำให้บาดแผลที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม การผ่าตัด อาจมีผลข้างเคียง ได้แก่ § เลือดออก § การติดเชื้อ § มีบาดแผลเกิดขึ้น ณ ท่อนำน้ำดีเข้าสู่ลำไส้เล็ก § มีบาดแผลเกิดขึ้นตามลำไส้เล็กและเส้นเลือด เนื่องจากเครื่องมือผ่าตัด นอกจากนี้การตัดถุงน้ำดี ย่อมมีผลกระทบต่อการย่อยอาหารจำพวกไขมันอย่างแน่นอน เนื่องจากน้ำดีที่ผลิตจากตับ จะขาดที่กักเก็บ(ปกติน้ำดีที่สร้างเสร็จ จะถูกเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี) ดังนั้นน้ำดีที่สร้างเสร็จจะยังอยู่ที่ตับ ทำให้อัตราการไหลของน้ำดีลดลง เพราะตับไม่สามารถบีบตัวเพื่อให้น้ำดีเคลื่อนไปยังลำไส้ ทำให้เกิดปัญหาอาหารไม่ย่อย ท้องผูก หรือท้องเสีย และเมื่อน้ำดีคั่งในตับมากเกินไปตับจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ( ภาวะปัญหาการคั่งของตับและปัญหาการย่อยของลำไส้เล็ก ทำให้เกิดปัญหานอนไม่หลับ ลมหายใจมีกลิ่น) นอกจากนี้ภาวะอัตราการไหลของน้ำดีที่ลดลง ยังทำให้ม้ามและตับอ่อนอ่อนแอลง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเบาหวานอีกด้วย เนื่องจากม้ามมีเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับถุงน้ำดี ดังนั้นเมื่อถุงน้ำดีถูกตัดออก ย่อมมีผลกระทบต่อการทำงานของม้ามเช่นกัน (ตามหลักของแพทย์แผนจีนแล้ว ม้ามมีความสัมพันธ์กับหัวใจ เมื่อม้ามผิดปกติ หัวใจจะทำงานผิดปกติด้วย) และจากสถิติแล้วพบอัตราการเกิดภาวะหัวใจวายในผู้ที่ถูกตัดถุงน้ำดีได้มากกว่าคนทั่วไป ภาวะภูมิแพ้ และภูมิไวเกิน ยังเป็นภาวะที่เกิดจากการตัดถุงน้ำดีอีกด้วย(ทั้งนี้เป็นผลกระทบจากภาวะที่ตัดและม้ามไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ) นอกจากนี้ปัญหาอื่นๆที่พบได้ในผู้ที่ตัดถุงน้ำดีคือ 1. มีอาการคันตามผิวหนัง (ในกรณีที่มีผื่นร่วมด้วย เกิดจากม้ามทำงานผิดปกติ, ในกรณีที่ไม่มีผื่นคัน เกิดจากตะกอนของบิลิลูบิน ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของน้ำดี นั้นตกตะกอนบริเวณใต้ผิวหนัง) 2. ข้ออักเสบ เนื่องจากตับและม้ามทำงานผิดปกติ 3. โลหิตจาง (ภาวะที่มีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ) เนื่องจากตับและม้ามเป็นอวัยวะที่กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ (ปกติเม็ดเลือด แดงจะมีอายุเฉลี่ย 100-120 วัน) เมื่อตับและม้ามทำงานผิดปกติ วงจรการทำลายและสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่จะผิดปกติไปด้วย ในผู้ที่ตัดถุงน้ำดีทิ้ง จะพบมีปัญหาน้ำดีคั่งที่ตับ ซึ่งการแก้ปัญหานี้ ก็คือ พยายามเพิ่มอัตราการไหลของน้ำดี ด้วยการกินมะระจีนในตอนเช้า เพื่อช่วยทำความสะอาดตับ และกินCoptis ในช่วงเย็นเพื่อกระตุ้นอัตราการไหลของน้ำดี ซึ่งสามารถใช้ได้ผลดี สามารถช่วยลดอาการต่างๆที่เกิดขึ้นจากการตัดถุงน้ำดีได้เป็นอย่างดี รวมถึงปัญหานอนไม่หลับ ปัญหาอาหารไม่ย่อย เริ่มจากเมื่อตื่นเช้า ให้ดื่มน้ำอุ่น 2 แก้วแล้วออกกำลังกาย หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงให้กินมะระจีน และรออีกประมาณครึ่งชั่วโมงจึงรับประทานอาหารเช้า (น้ำอุ่นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้เล็กและไต) จากที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นวิธีการช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ที่เคยผ่านการตัดถุงน้ำดี มีคุณภาพที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การกำจัดนิ่วในถุงน้ำดี ด้วยวิธีทางธรรมชาติ และไม่ต้องใช้การผ่าตัดนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า (สามารถอ่านได้จากบทความเรื่อง ล้างพิษตับ https://www.goodhealth.co.th/new_page_65.htm )
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี
จากบันทึกที่แล้ว โรคที่รอการรักษามานาน ... นิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งสร้างความกังวลใจมากมาย กับการต้องรับการผ่าตัด (ครั้งแรกที่ดมยาละค่ะ) ถึงเรื่องการหายของแผล และการมาเริ่มงานได้ใหม่ ซึ่งรออยู่มากมาย ก็ผ่านพ้นไปแล้วค่ะ ด้วยดี ... สมดังที่ใครหลายคนได้ให้กำลังใจว่า เรื่องเล็กๆ เรื่องจิ๊บ จิ๊บ เลยเก็บประสบการณ์มาเล่าให้ฟังกันสักหน่อยนะคะ
ดิฉันตัดสินใจไปผ่านิ่ว ก็ด้วยเหตุผลที่ทั้งคุณแม่ คุณสามี พี่ชาย พี่สาว ลูกๆ ตลอดจนเพื่อนที่ทำงาน ต่างก็บอกว่า อย่าเก็บไว้เลย เอาออกดีกว่า และเนื่องจากที่ลูกชายมาเสียไปด้วยเหตุที่คาดไม่ถึง จึงทำให้ตัดสินใจไปเริ่มกระบวนการตรวจทั้งหลายแหล่ ที่จะทำการผ่านิ่ว
โดยได้รับการแนะนำจากพี่เง้ก น้องพี่ชาย ที่เป็นพยาบาลดมยาอยู่ที่รามาธิบดี แนะนำ อ.รณรัฐ ให้เพราะว่า มีระบบการผ่านิ่วแบบใหม่ ก็คือ วิธีการส่องกล้อง (Laparoscopic Cholecystectomy) ประมาณอย่างนี้ละค่ะ ... ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ได้ข่าว อ.รณรัฐ ได้ Teleconference เรื่องของการผ่าตัดเต้านม และนำเนื้อที่น่องมาเสริมเป็นเต้าเทียมได้สำเร็จ ...
คือ ภาพด้านซ้ายนะคะ ... แต่ของดิฉันมี 3 รู
ความรู้เรื่องนี้นิดหน่อยก็คือ ... นิ่วในถุงน้ำดีคือสารที่ตกผลึกแข็งตัวภายในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีมีลักษณะเป็นถุงอยู่ใต้ตับ ภายในช่องท้องใต้ชายโครงข้างขวา ... น้ำดีช่วยในการทำให้ไขมันแตกตัว และถูกสร้างมาจากตับและเก็บไว้ในถุงน้ำดีสะสมไว้ เมื่อร่างกายต้องการน้ำดีลำไส้เล็กก็จะสร้างฮอร์โมนที่เรียกว่า CCK (cholecystokinin) ทำให้ถุงน้ำดีบีบตัว และให้ปล่อยน้ำดีออกมา และเข้าสู่ลำไส้เล็กเพื่อช่วยในการย่อยไขมันต่อไป
สาเหตุของนิ่ว ... เชื่อว่าเกิดจากน้ำดีที่มีปริมาณโคเลสเตอรอลสูง หรือ บิลิรูบินสูง หรือถุงน้ำดีบีบตัวได้ไม่พอ ทำให้มีการตกตะกอนขึ้น
ดิฉันไปพบว่ามีนิ่วในถึงน้ำดีนี้ เมื่อครั้งที่คุณสามีพาไปตรวจสุขภาพ ด้วย อัลตร้าซาวน์ค่ะ ประมาณเกือบ 10 ปี มาได้แล้วมั๊ง ก็ชลอเวลาเรื่อยมา จนปัจจุบันละค่ะ
หน้าตานิ่วของดิฉันก็เป็นเช่นนี้
นี่ไงคะ นิ่ว ขนาดประมาณกือบเท่าเหรียญสลึง (รุ่นเล็กนะคะ) ... เป็นก้อนดีมาก สมกับเก็บกักไว้มานาน
ดิฉันไปเข้าบริการระบบ RPX ของ รพ.รามาฯ บริการดีมาก เกือบเท่าเอกชน ขาดแต่ห้องพักเดี่ยวเท่านั้นที่ไม่มี จะมีห้องพัก 4 คน ให้อยู่ได้อย่างสบาย ได้นอนพักเต็มที่ เพราะว่าเป็นการพักฟื้นหลังผ่าตัดจริงๆ คือ คนเยี่ยมจะเยี่ยมยากหน่อย เพราะว่าที่ทางน้อย ก็เลยบอกใครต่อใครว่า ไม่ต้องมาเยี่ยมหรอก แล้วจะกลับมารายงานตัวละค่ะ
ระบบ RPX ต้องมีการคุยกับแพทย์ดมยาล่วงหน้า เพราะว่าคนไข้ไม่ต้องมานอนค้างคืนก่อนผ่าตัด แต่มาวันที่รับการผ่าตัดเลย (19 สค.51) โดยอดน้ำ-อาหาร ล่วงหน้ามาก่อน ตอน 8.00 น. และเข้า รพ. ตอนบ่าย และเตรียมขึ้นเขียงได้เลย เข้าห้องผ่าตัดก็ประมาณ 5 โมง ละค่ะ
ตอนดมยาสลบ พี่เง้กก็เข้าไปช่วยทำให้เพื่อเป็นกำลังใจ ก็เลยได้ทราบรายละเอียดเล็กน้อยว่า การสอดท่อช่วยหายใจก็ลำบากหน่อย เพราะว่ามองยาก แต่การผ่าตัดง่ายมาก เพราะว่าคุณหมอรณรัฐทำไม่นานเลย ตอนนั้นก็ไม่รู้สึกตัวไปแล้ว เพราะว่าวางยาสลบ และก็เป็นการหลับที่สบายมากเลย เพราะว่าไม่รู้ตัว ไม่มีภาพหลอน มีแต่ความว่าง ไม่รู้สึกอะไรเลย มารู้สึกตัวก็ตอนที่ตื่นขึ้นมา เจ็บคอ ก็คงเป็นเพราะการใส่ท่อช่วยหายใจนี่เอง และก็เจ็บแผล แต่คุณหมอใส่ยาแก้ปวดให้ก็สบาย ... กลับมาห้องพักได้
ความลำบากมีวันแรกนิดหน่อย เพราะว่าตึงหน้าท้อง แต่ก็ไม่ปวด จะมีการอืด อาจเพราะว่ามีการอักแก๊สเข้าไปตอนที่ผ่าตัดน่ะเอง แต่พอวันที่สองสบายขึ้นหน่อย ตึงน้อยลง ลุกนั่ง เดินได้ ... ตอนนี้กลับมาบ้านแล้ว (21 สค.51) เดินได้สบายขึ้นเยอะ
การผ่านิ่งกว่าจะกินอะไรได้ก็วันที่ 2 แล้วละค่ะ เพราะว่า ต้องรอให้ระบบน้ำดีทำงานได้เต็มที่ เพราะฉะนั้น ก็เลยโดนให้ dextrose มั๊ง (ลูกสาวอ่านที่ขวด) ตลอด จนถึงวันสุดท้ายที่ออกเลย เป็นอะไรที่ทรมานมาก เหมือนถูกพันธนาการ ไปไหนก็ต้องเอาเขาไปด้วยละค่ะ พอเอาออกก็รู้สึก โล่งอกมาก มาก
ร่องรอยการโดนเจาะละค่ะ
ระหว่างอยู่ รพ. ก็มีเครื่องแก้เหงา ก็คือหนังสือธรรมะ 1 เล่ม หนังสือเกมปริศนา 1 เล่ม และเกม PDA ของลูกสาว กับญาติพี่น้อง ที่ผลัดกันไปๆ มาๆ
สรุปว่า เพราะเห็นตัวนิ่วที่ออกมา ก็ให้รู้สึกว่า ไม่ควรให้มันอยู่ในตัวของเราเลยนะคะ โชคดีที่เขาไม่ไปอุดตันให้เราปวดท้องมีอาการรุนแรงได้ แต่อย่าเสี่ยงเลย เอาออกดีกว่า เดี๋ยวก็มีทางให้เลือกมากมายเลยค่ะ
ผลพลอยได้ ก็คือ พบโรคในตัวเพิ่มขึ้น คือ Anemia คงต้องไปหาเพื่อรักษา และดูแลตัวเองต่อไป
บันทึกนี้เพื่อการเล่าสู่กันฟัง และขอบคุณทุกท่านที่ให้พลังใจค่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++