ประชาชนแตกตื่นระดับ 4,5 หรือระดับ 6 การแพร่ระบาดของโรคหวัดคืออะไรกับผลต่างของเซต

ระดับ 4,5 หรือระดับ 6 การแพร่ระบาดของโรคหวัดคืออะไร

        ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประชาชนแตกตื่น เป็นเพราะการประกาศเพิ่มระดับการแพร่ระบาดของโลก ที่องค์การอนามัยโลกเพิ่มจากระดับ 4 เป็น ระดับ 5 และระดับ 6 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด การประกาศดังกล่าวเป็นเพียงการบอกถึงพื้นที่ที่พบว่า มีการระบาดของโรคเท่านั้น แต่ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่า เป็นการเพิ่มระดับความรุนแรงของโรค ที่ผ่านมา นานาชาติได้ท้วงติงให้องค์การอนามัยโลกปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การประกาศ ดังกล่าว และในการประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก็มีการหารือถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน” นพ.ศุภมิตร กล่าว 
        สธ.เผยยอดผู้ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ 3 โรค คือ วัณโรค ปอดบวม และไข้หวัดใหญ่ ในปี 52 กว่า 72,000 ราย เสียชีวิตเกือบ 500 ราย รณรงค์การใช้หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 834 แห่งทั่วประเทศเพื่อลดการกระจายเชื้อและติดเชื้อโรค  วันที่ 22 มิ.ย. 52  เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมให้ประชาชนที่ป่วยด้วยเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมให้ประชาชนที่ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่มารักษาที่อนามัย สวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ ให้ทุกคนยอมรับว่าการสวมหน้ากากอนามัยถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม ใส่ใจคนรอบข้าง 
         จากสถานการณ์ ในปี 2552  ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 13 มิถุนายน 2552 ได้รับรายงานผู้ป่วยวัณโรค 15,878  ราย เสียชีวิต 76 ราย  โรคปอดบวม 50,363 ราย เสียชีวิต 418 ราย และผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดตามฤดูกาล 5,894 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

เนื้อหาสาระ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานผลต่างของเซต
 
ผลต่างของเซต
 ผลต่างของเซต  A  และเซต  B  คือเซตที่มีสมาชิกทุกตัวอยู่ในเซต  A  แต่ไม่อยู่ในเซต  B
           ผลต่างของเซต  A  และเซต  B  เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์  A - B

ตัวอย่างผลต่างของเซตสองเซตใด ๆ ที่กำหนดให้

1. A  =  {1, 2, 3, 4, 5}     B  =  {1, 2, 3}    {4, 5}  (A – B)
2. A  =  {2, 4, 6, 8, 10}   B  =  {2, 4}    {6, 8, 10} (A – B)
3. A  =  {a, b, c, d}         B  =  {a, b}    {c, d} (A – B)
4. A  =  {a, e, i, o, u}      B  =  {o, u}    {a, e, i} (A – B)
5. A  =  {7, 8, 9, 10, 11} B  =  {8, 9, 10}    {7, 11} (A – B)
6. A  =  {20, 21, 22, 23} B  =  {22, 23}    {20, 21} (A – B)

พิจารณาจากตัวอย่างพบว่า  
ผลต่างของเซต  A  และเซต  B  คือเซตที่มีสมาชิกทุกตัวอยู่ในเซต  A  แต่ไม่อยู่ในเซต  B   เขียนแทนด้วย  A – B    
  

แบบฝึกทักษะ
คำชี้แจง  ให้นักเรียนเติมคำตอบลงในช่องว่างแต่ละข้อต่อไปนี้ให้ถูกต้องสมบูรณ์

ข้อที่ เซต  A                               เซต  B                      ผลต่างของเซต  A  และเซต  B   (A – B)
  1   {1, 2, 3, 4, 5}                  {2, 3, 5} 
  2   {2, 4, 6, 8, 10, 12} {6, 8, 10} 
3 {5, 10, 15, 20, 25, 30} {10, 15, 20} 
4 {a, b, c, d, e} {b, c, d} 
5 {p, q, r, s, t} {p, q, r} 
6 {x |  x  เป็นจำนวนนับที่
น้อยกว่า  10} {x | x เป็นจำนวนคี่บวกที่
น้อยกว่า 7} 
7 {x |  x  เป็นจำนวนนับที่
น้อยกว่า  5} {x | x เป็นจำนวนนับ  3  
จำนวนแรก} 
8 {x |  x เป็นจำนวนวันใน  1  
สัปดาห์} {x | x เป็นวันที่ขึ้นต้นด้วย  
“ส”} 
9 {x |  x  เป็นจำนวนคี่บวกที่
น้อยกว่า  20} {x | x เป็นจำนวนคี่บวกที่
น้อยกว่า  20  และหารด้วย  
3  ลงตัว} 
10 {10, 11, 12, 13, 14, 15} {11, 13, 15} 

ที่มาแหล่งเรียนรู้และรูปภาพ

   - https://www.norsorpor.com/ข่าว/n1535474
  -  https://thaigoodview.com/library/teachershow/trang/darunee_K/set/set4_4.html
  - https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet2/knowledge_math/set/set9.htm

เฉลยแบบฝึกทักษะ 

   1. {1, 4}
   2. {2, 4, 12}
   3. {5, 25, 30}
   4. {a, e}
   5. {s, t}
   6. {2, 4, 6, 8}
   7. {4}
   8. {จันทร์, อังคาร, พุธ, พฤหัสบดี, ศุกร์, อาทิตย์}
   9. {1, 5, 7, 11, 13, 17, 19}
   10. {10, 12, 14}

ไปเข้าแถวก่อนนะคะเดี๋ยวมาจัดให้ใหม่คะ
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=910