ดึงแบงค์ปล่อยกู้ต้นกล้าอาชีพมั่นใจเฟสแรกคนแห่สมัครจนล้น
คำนวณร้อยละกับโครงการต้นกล้าอาชีพ
จากข่าว
ดึงแบงค์ปล่อยกู้ต้นกล้าอาชีพมั่นใจเฟสแรกคนแห่สมัครจนล้น
รายละเอียดของข่าว
นายกนก วงษ์ตระหง่าน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการดำเนินงานโครงการต้นกล้าอาชีพ เปิดเผยว่า โครงการต้นกล้าอาชีพอยู่ระหว่างประสานงานกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงานมหกรรมต้นกล้าอาชีพเพื่อส่งเสริมให้แรงงานที่ได้รับการฝึกอบรมจากโครงการต้นกล้าอาชีพสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนพร้อมแนะนำแนวทางการเขียนโครงการเพื่อขอรับสินเชื่อได้อย่างถูกต้องในการประกอบอาชีพหรือทำธุรกิจขนาดเล็กที่ภูมิลำเนาของตนเอง
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการต้นกล้าอาชีพ
การพัฒนาศักยภาพของผู้ว่างงานให้มีความรู้และทักษะใหม่ๆเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการเลือกประกอบอาชีพ โดยโครงการเพิ่มศักยภาพ
ผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชนจะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และเสนอแนะแหล่งทุนเพื่อการ ประกอบอาชีพในชุมชนถิ่นกำเนิด ทั้งการเป็นผู้ประกอบการ การทำวิสาหกิจชุมชน การประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว เป็นการช่วยให้ผู้ว่างงานนำความสามารถกลับไปพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเอง ช่วยยกระดับชุมชน และร่วมกันสร้างชุมชนที่ยั่งยืน ทั่วประเทศ
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงาน ผู้ที่กำลังอยู่ในข่ายจะถูกเลิกจ้างงาน ผู้ถูกเลิกจ้างงาน และผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ที่ยังไม่มี งานทำให้มีความรู้และทักษะเพื่อพัฒนาความชำนาญเฉพาะทางในวิชาชีพต่างๆ ให้สามารถกลับไปสร้างงาน สร้างรายได้ สร้าง ประโยชน์ให้แก่หมู่บ้านชุมชนถิ่นกำเนิดได้
๒. เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้างงาน และผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ให้มีรายได้ในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์
แก่ตนเอง สามารถหาทางเลือกใหม่ๆในการเลือกประกอบอาชีพ เพื่อรับผิดชอบตนเองและไม่เป็นภาระกับครอบครัวและสังคม
เนื้อหาสาระคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
จากคำกล่าวที่ว่า “ยอมรับว่า จำนวนผู้ที่จบการอบรมในโครงการต้นกล้าอาชีพ ในเดือน เมษายน ถึงพฤษภาคม 2552 จำนวน 55,000 คน มีแรงงานที่ต้องการกลับภูมิลำเนา 30% ”
และจากคำกล่าวสรุปลงท้ายที่ว่า
อย่างไรก็ตามรัฐมั่นใจว่าโครงการต้นกล้าอาชีพในระยะที่ 1 ที่ได้รับงบประมาณ 6,900 ล้านบาท จะฝึกอบรมแรงงานได้กว่า 300,000 คน ภายในเดือน ก.ย. นี้ จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 240,000 คน
คำนวณทางคณิตศาสตร์ได้ทั้งการคำนวณเป็นสัดส่วนและเป็นร้อยละได้อย่างรวดเร็ว
ประเด็นคำถามในห้องเรียน
ถ้ามีจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพทั้งหมด 55,000 คน ต้องการกลับภูมิลำเนา 30% คิดเป็นจำนวนผู้ที่ต้องการกลับภูมิลำเนากี่คน
กระบวนการคิดเป็นสัดส่วนได้ดังนี้
100/30 = 55,000/X
X = (55,000*30)/100
X = 16,500
หรือจะคำนวณเป็น ร้อยละก็ได้ดังนี้
30% ของ 55,000 เป็นเท่าไร
วิธีการ =(30/100)*55,000
= 16,500
ดังนั้น แนวทางคำตอบคือ ถ้ามีจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพจำนวน 55,000 คน มีจำนวนผู้ต้องการกลับสู่ภูมิลำเนาไปประกอบอาชีพจำนวน 30% หรือคิดเป็นจำนวนคนได้ 16,500 คน
ถ้ามีจำนวนผู้ที่กลับภูมิลำเนาจริง 60% นักเรียนสามารถบอกได้หรือไม่ว่าคิดเป็นจำนวนคนที่กลับภูมิลำเนาจริงประมาณกี่คน
และจากคำถามที่ว่า งบประมาณ 6,900 ล้านบาท จะฝึกอบรมแรงงานได้กว่า 300,000 คน ให้นักเรียนคำนวณงบประมาณเฉลี่ยต่อหัว จะใช้คนละประมาณกี่บาท
แนวคิด 6,900,000,000 / 300,000
~ 23,000 บาท/คน
เนื้อหาสาระเพิ่มเติม
มีคนต้องการ กลับภูมิลำเนา 30% หมายความว่า
ถ้ามีจำนวนผู้สมัครเข้าร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพทั้งหมด 100 คน หมายความว่าต้องการหลับสู่ภูมิลำเนาจำนวน 30 คน
หรือ จำนวนคนถ้าเปรียบเทียบกับ 100 จะกลับบ้านเกิด 30 คน จากคนทั้งหมด 100 คนนั่นเอง
สรุปที่ได้จากข่าว
มีจำนวนผู้ที่จบการอบรมในโครงการต้นกล้าอาชีพในเดือน เม.ย.-พ.ค. กลับภูมิลำเนาจำนวน 30% หรือ 16,500 คน ซึ่งทางรัฐจะส่งเจ้าหน้าที่ไปติดามว่าแรงงานเหล่านี้สามารถประกอบอาชีพของตนเองและมีงานทำตามเป้าหมายของรัฐบาลเพียงใด เพราะแรงงานเหล่านี้มีทักษะและมีส่วนช่วยปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้
บูรณาการกับสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม เศรษฐกิจระดับฐานราก
กิจกรรมแนะแนวอาชีพ ชุมนุมส่งเสริมการค้นคว้าอิสระ
อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลและภาพประกอบ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำเดือน มิถุนายน 2552
โครงการต้นกล้าอาชีพ
Parrot.
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1154