ทำบุญด้วย "เส้นผม" สามารถทำได้ และคนที่ออสเตรเลียเขาก็ทำกันมา 10 ปีแล้ว ผ่านวันชื่อว่า บลูอี้ เดย์(Bluey Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 16 สิงหาคมของทุกปี ที่เปิดโอกาสให้คนที่นั่นมา "สละเส้นผม" โกนหัว และร่วมกันบริจาคเงินเพื่อทำกุศล ช่วยเหลือเด
ผมร่วงแบบนี้จึงจะได้บุญก้อนใหญ่ ( โกนผม สร้างสถิติ สร้างบุญ ) จ้า
หัวข้อข่าว บลูอี้ เดย์ (Bluey Day) วันแห่งการทำบุญด้วยเส้นผม ตรงกับวันที่ 16 สิงหาคม ของทุกปี
รายละเอียดจากข่าว
ทำบุญด้วย "เส้นผม" สามารถทำได้ และคนที่ออสเตรเลียเขาก็ทำกันมา 10 ปีแล้ว ผ่านวันชื่อว่า บลูอี้ เดย์(Bluey Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 16 สิงหาคมของทุกปี ที่เปิดโอกาสให้คนที่นั่นมา "สละเส้นผม" โกนหัว และร่วมกันบริจาคเงินเพื่อทำกุศล ช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นมะเร็ง!!!
ทำไมต้อง "โกนหัว" ส่วนหนึ่งนั้นก็เพื่อนำเส้นผมของผู้บริจาคไปทำ "วิกผม" สำหรับให้เด็กที่ป่วยเป็นมะเร็งและผมร่วง ได้นำไปใส่ อีกอย่างก็เพื่อเป็น "เพื่อน" และกำลังใจให้เด็กผู้ป่วยรู้สึกว่า การหัวล้าน ไม่มีผม ไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาด หรือน่าอายตรงไหนเลย!!!
สำหรับบรรยากาศของวันบลูอี้ เดย์ ปีนี้ จากข่าวเล่าว่า มีผู้คนพากันไปโกนผมอย่างคึกคัก ทั้งเด็กเล็กและผู้ใหญ่ กระทั่งทำให้ออสเตรเลีย กลายเป็นเจ้าของสถิติโลกเจ้าใหม่ในหนังสือกินเนสส์ บุ๊ก ด้วยสถิติโกนผมได้มากที่สุดถึง 287 ศีรษะ ภายใน เวลา 4 ชั่วโมง ทำลายเจ้าของสถิติเดิมที่ทำไว้ 228 ศีรษะ
อย่างไรก็ตาม สถิติอันยิ่งใหญ่ดังกล่าวก็เป็นเพียง "สีสัน" อันน่าตื่นเต้นอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะที่น่าสนใจมากกว่าก็คือ "สาระสำคัญ" ของวันนี้ ซึ่งถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2538 โดย สิบเอกคาร์ล เดวิด ที่ตั้งใจทำขึ้นเพื่อหาเงินทุนช่วยเหลือเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ผ่านทั้งทางสนับสนุนเงินทุนในการทำผลงานวิจัยใหม่ๆ ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อการรักษา และซื้อหาอุปกรณ์การแพทย์เพื่อใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยตัวน้อย โดย 10 ปีที่ผ่านมาสามารถระดมเงินทุนได้กว่า 13 ล้านดอลลาร์ หรือราว 531.7 ล้านบาท
สำหรับความรู้สึกของผู้ร่วมงาน เรียกได้ว่าต่าง "อิ่มเอมใจ" ไปตามๆ กัน แม้ว่าจะต้องอยู่ในสภาพศีรษะล้านสักระยะ อย่างเช่น เกลน รีส และ เจมส์ ริตเตอร์ ที่จูงมือกันไปนั่งให้ช่างตัดผมอาสาสมัคร โกนหัว และเล่าความรู้สึกว่า "มันก็แค่โกนผม ไม่ใช่ว่าเราจะหัวล้านไปตลอดชีวิตสักหน่อย" ทั้งยังว่าพวกเขาไม่รู้สึกเสียดายเส้นผมแม้แต่น้อย เมื่อนึกเป้าหมาย ผลลัพธ์ที่จะมีคุณค่ายิ่งต่อเด็กๆ ที่ถึงแม้จะถูกโรคมะเร็งคุกคาม แต่ก็ยังมีกำลังใจเหลือล้นจากคนรอบข้าง และผู้คนในสังคม!!!
2 ใน 3 ของผู้หญิงก็สามารถประสบปัญหาผมร่วงได้ เช่นเดียวกับผู้ชาย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ เลยทีเดียว เพราะ 2 ใน 3 นั้นเป็นอาการผมร่วง ถาวรเสียด้วย แต่สาเหตุผมร่วงของผู้หญิง บางอย่างสามารถแก้ไขได้ค่ะ โดยทั่วไปคนเราจะมีเส้นผม อยู่ประมาณ 100,000 เส้น และเส้นผมจะงอก อย่างสม่ำเสมอ ทุกๆวัน ในแต่ละวัน จะมีผมร่วงได้วันละ 50 ถึง 100 เส้นถือว่าปกติ เส้นผมจะงอกยาวประมาณ 1/2 นิ้ว ต่อเดือนโดยผมแต่ละเส้น จะอยู่บนศีรษะนาน 2 –6 ปีทีเดียว และระหว่างนี้ผมก็จะงอกยาวเรื่อยๆ
เมื่อเส้นผมแก่ตัวขึ้นก็จะหยุดงอก แต่ก็จะยังคงอยู่บนศีรษะ เพียงแต่จะไม่งอกอีกเท่านั้น และสุดท้าย ก็จะร่วงไป แล้วเส้นผมใหม่ ก็จะค่อยๆก่อตัวขึ้นภายใน 6 เดือน แต่มีปัจจัยหลายอย่าง ที่สามารถหยุดยั้งกระบวนการทั้งหมดของเส้นผมนี้
สำหรับการรักษานั้นก็ขึ้นอยู่กับ สาเหตุของการเกิดผมร่วง ยกเว้น สาเหตุเดียวที่มัก จะเป็นผมร่วงถาวร คือสาเหตุจากอายุและพันธุกรรม ซึ่งต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่ อาจจะเลือกการใส่ วิกผม, รับประทานยากระตุ้น, และผ่าตัดปลูกถ่ายผม
โดยทั่วไปคนเราจะมีเส้นผมอยู่ประมาณ 100,000 เส้น และเส้นผมจะงอกอย่างสม่ำเสมอทุกๆวัน ในแต่ละวันจะมีผมร่วงได้วันละ 50 ถึง 100 เส้นถือว่าปกติ เส้นผมจะงอกยาวประมาณ 1/2 นิ้ว ต่อเดือนโดยผมแต่ละเส้นจะอยู่บนศีรษะนาน 2 –6 ปีทีเดียว และระหว่างนี้ผมก็จะงอกยาวเรื่อยๆ
เมื่อเส้นผมแก่ตัวขึ้นก็จะหยุดงอก แต่ก็จะยังคงอยู่บนศีรษะ เพียงแต่จะไม่งอกอีกเท่านั้น และสุดท้ายก็จะร่วงไป แล้วเส้นผมใหม่ก็จะค่อยๆก่อตัวขึ้นภายใน 6 เดือน แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถหยุดยั้งกระบวนการทั้งหมดของเส้นผมนี้
1. อายุและฮอร์โมน ส่วนใหญ่ผมจะร่วงเมื่ออายุมากขึ้น โดยอายุ,ฮอร์โมน และพันธุกรรม จะเป็นสาเหตุให้ผมร่วงได้มากกว่าปัจจัยอื่นๆ และผู้ชายจะพบปัญหานี้มากกว่าผู้หญิงมากซึ่งการผมร่วงนี้จะเริ่มเกิดขึ้นเมื่ออายุ 25-30 ปีสำหรับผู้หญิงจะผมร่วงโดยเริ่มจากการที่ผมเส้นเล็กลง และสั้นเมื่อลูบผมก็จะมีผมเส้นบางและสั้นติดมือมาสาเหตุผมร่วงชนิดนี้เป็นสาเหตุชนิดเดียวที่มักจะทำให้เกิดผมร่วงถาวร หรือหัวล้านนั่นเองค่ะ
2. ยา ยาบางชนิดโดยเฉพาะที่ใช้รักษามะเร็งทำให้ผมร่วงได้ นอกจากยารักษามะเร็งแล้วยารักษาความดันโลหิต, ยาต้านการซึมเศร้า,ยาคุม และวิตามินเอขนาดสูง ก็ทำให้ผมร่วงได้ แต่เป็นการร่วงชั่วคราวเท่านั้น
3. เมื่อลูบผมก็จะมีผมเส้นบางและสั้นติดมือมา สาเหตุผมร่วงชนิดนี้เป็นสาเหตุชนิดเดียวที่มักจะทำให้เกิดผมร่วงถาวร หรือหัวล้านนั่นเองค่ะ
4. อาหาร อาหารโปรตีนน้อย รวมทั้งธาตุเหล็กน้อย จะทำให้ผมร่วงได้
5. ความเครียด หรือการเจ็บป่วย จะทำให้ผมร่วงได้ 1-3 เดือนเลยทีเดียว
6. การคลอดลูก ผู้หญิงหลังคลอดจะมีผมร่วงได้ภายใน 2-3 เดือนหลังคลอด
7. เป็นโรคไทรอยด์ ก็ทำให้ผมร่วงได้เชื้อราของหนังศีรษะ ซึ่งต้องรักษาโดยแพทย์ผิวหนัง
สำหรับการรักษานั้นก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดผมร่วงค่ะ ยกเว้นสาเหตุเดียวที่มักจะเป็นผมร่วงถาวร คือสาเหตุจากอายุ และพันธุกรรม ซึ่งต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่อาจจะเลือก การใส่ วิกผม, รับประทานยากระตุ้น, และผ่าตัดปลูกถ่ายผม
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
การวัด วัน เวลา การนำเสนอ การเชื่อมโยง และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
1.การนำเสนอข้อมูลเป็นแผนภูมิรูปวงกลมเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้เกิดผมร่วง 7 สาเหตุ
2. การคำนวณระยะเวลาในการโกนผมก่อนบวชต่อหัว
หลักการทางคณิตศาสตร์
เรื่องการวัดเวลา : ในสมัยก่อนนานมาแล้วมนุษยเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นก็รู้ว่าวันใหม่เริ่มขึ้นแล้ว และการบอกเวลาว่าเป็นเช้า สาย บ่ายหรือเย็นก็อาจดูจากความยาวของเงาที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดแนวคิดในการกำหนดเวลา 1 วัน ว่าเป็นเวลาที่โลกหมุนรอบตัวเองครบ 1 รอบพอดี เมื่อมนุษย์ได้เรียนรู้ทางดาราศาสตร์มากขึ้น จึงมีแนวคิดในการกำหนดเวลา 1 ปีทางสุริยคติ ว่าเป็นเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบพอดี ต่อมานักดาราศาสตร์พบว่าเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบ เป็นเวลามากกว่า 365 วันเล็กน้อย ระบบปฏิทินในสมัยแรก ๆ ที่นิยมใช้กันได้แก่ ระบบปฏิทินจูเลียน กำหนดว่า 1 ปี มี 365.25 วัน เมื่อใช้ไประยะหนึ่งพบว่า ทุก ๆ 400 ปี จะนับวันมากเกินความจริง 3 วันเศษ จึงมีการปรับปรุงเป็นระบบปฏิทินเกรกอเรียน ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกในปัจจุบันและมีความคลาดเคลื่อนจากความจริงทางดาราศาสตร์น้อยที่สุด
ระบบปฏิทินเกรกอเรียน กำหนดให้ 1 ปี มี 365.2425 วัน โดยกำหนดเงื่อนไขว่าในปีปกตินั้น 1 ปี มี 365 วัน แต่ในปี อธิกสุรทิน ซึ่งเป็นปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันนั้น 1 ปีมี 366 วัน
การกำหนดปีอธิกสุรทินให้เป็นไปตามหลักการนี้
1)ถ้าปี ค.ศ.ใดหารด้วย 4 ไม่ลงตัว จะไม่เป็นปีอธิกสุรทิน
2)ถ้าปีใด หารด้วย 4 ลงตัวและหารด้วย 100 ลงตัว แต่หารด้วย 400 ไม่ลงตัว ปี ค.ศ.นั้นจะไม่เป็นปีอธิกาสุรทิน
3) ถ้าปี ค.ศ.ใดหารด้วย 4 ลงตัว แต่หารด้วย 100 ไม่ลงตัว ปี ค.ศ. นั้น จะเป็นปีอธิกสุรทิน
4) ถ้าปี ค.ศ.ใดหารด้วย 4 ลงตัว และหารด้วย 400 ลงตัว ปี ค.ศ.นั้น จะเป็นปี อธิกสุรทิน
ประเด็นคำถามในห้องเรียน
นักเรียนคิดว่า ปีใดต่อไปนี้ เป็นปี อธิกสุรทิน
1) ค.ศ. 1944
2) ค.ศ. 2010
3) ค.ศ. 2200
4) ค.ศ. 2800
5) ค.ศ. 2443
6) พ.ศ. 2552
7) พ.ศ. 2543
8) พ.ศ. 2577
คำถามเพิ่มเติมจากข่าว : จากประเทศออสเตรเลีย กลายเป็นเจ้าของสถิติโลก เจ้าใหม่ในหนังสือกินเนสส์ บุ๊ก ด้วยสถิติโกนผมได้มากที่สุดถึง 287 ศีรษะ ภายใน เวลา 4 ชั่วโมง ทำลายเจ้าของสถิติเดิมที่ทำไว้ 228 ศีรษะ
9) ออสเตรเลียทำสถิติโกนผมต่อหัวโดยเฉลี่ยต่อหนึ่งหัวใช้เวลาไปเท่าใด
10) จากข่าว ถ้าใช้เวลา 7 วัน หรือหนึ่งสัปดาห์ จะสามารถโกนผมได้กี่คน
11) จากข่าว โดยใช้ระยะเวลา 4 ชั่วโมงเท่าเดิม ออสเตรเลียเจ้าของสถิติโลกโกนผมทำลายสถิติเดิมไปมากน้อยเท่าใด
ข้อมูลเพิ่มเติมจากข่าว
ภก.ดร.วิรัตน์ ทองรอด คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ให้ความรู้สรุปความได้ว่า มนุษย์ทุกคนมีผมร่วงเองตามธรรมชาติประมาณ 100 เส้นต่อวัน ผู้ที่สงสัยว่า "ตนเองจะมีภาวะผมร่วงผิดปกติ" ให้สังเกตและลองนับจำนวนเส้นผมที่ร่วงในแต่ละวันดู ถ้ามีจำนวนน้อยกว่า 100 เส้นต่อวัน ถือว่าเป็นภาวะของเส้นผม แต่ถ้ามีจำนวนเส้นผมที่หลุดร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน จึงจะถือว่ามีความผิดปกติของการหลุดร่วงของเส้นผม อย่างไรก็ดี ในบางสภาวะอาจทำให้ผมร่วงได้มากกว่าปกติ เช่น ความเครียด หลัง คลอดบุตร เสียเลือดอาจทำให้วงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลงได้ และร่วงมากขึ้นได้แต่มักกลับมาเป็นปกติได้ หลังจากที่ได้ผ่านภาวะนั้นๆ เรียบร้อยแล้ว
ผมร่วงแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1.ผมร่วงแบบเพศชาย เป็นการหลุดร่วงของเส้นผมตามธรรมชาติ มักพบในผู้ที่อายุเกิน 50 ปีขึ้นไป และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ที่พบบ่อยคือหัวล้านบริเวณกลางศีรษะ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเพศชาย เมื่ออายุมากขึ้นจะมีการหลุดร่วงมากขึ้น
2.ผมร่วงจากภาวะของโรค ที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุคือการติดเชื้อราและเกิดจากภูมิคุ้มกัน ถ้าเกิดจากเชื้อรา มักมีอาการอักเสบ การลอกของหนังศีรษะและเป็นสะเก็ดร่วมด้วย ส่วนชนิดที่เกิดจากภูมิคุ้มกัน ในรายที่เป็นน้อยอาจมีอาการร่วงเป็นหย่อมๆ บางๆ แต่ในรายที่เป็นมาก อาจร่วงทั้งศีรษะได้ หรืออาจร่วงทั่วทั้งตัว คือมีการร่วงทั้งผมและขน ซึ่งควรไปปรึกษาแพทย์
3.ผมร่วงจากภาวะอื่นๆ เช่น การฉายรังสี การได้รับยาบางชนิด ความเครียด การดึงรั้งผมแรงๆ และต่อเนื่องนานๆ เป็นต้น ผมร่วงที่เกิดจากภาวะเครียด เช่น การตั้งครรภ์ การคลอดบุตร การเจ็บป่วยเรื้อรังหรือรุนแรง การขาดสารอาหาร โรคไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น ส่วนการดึงรั้งผมอย่างแรงๆ และต่อเนื่องนานๆ มักเกิดจากการยืดผม ดัดผม ม้วนผม ย้อมผม เป็นประจำ ซึ่งล้วนมีผลทำลายความสมบูรณ์ของเส้นผม
ส่วนวิธีธรรมชาติในการรักษาอาการผมร่วง ศูนย์ข้อมูลสมุนไพร กระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้ว่า สมุนไพรพื้นบ้านที่สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะ มี
1.เหงือกปลาหมอ โดยนำใบมาโขลกผสมน้ำ คั้นออกมาทาหนังศีรษะ บำรุงรากผม
2.ขิงแก่ นำ 1 แง่งขนาดเท่าฝ่ามือมาตำให้ละเอียดแล้วห่อผ้าขาวบางทำลูกประคบ แล้วเอาหม้อมาใส่น้ำและขึงผ้าขาวบางไว้ตรงปากหม้อ ต้มน้ำจนเดือดแล้วเอาขิงที่ห่อผ้าขาวบางไว้มาวางบนปากหม้อ เมื่อน้ำเดือด ไอน้ำจะระเหยขึ้นทำให้ลูกประคบขิงมีความร้อน นำมาประคบบริเวณที่ผมร่วง พอเย็นเอากลับไปวางที่ปากหม้อเพื่อรมไอน้ำ แล้วเปลี่ยนอีกห่อมาประคบแทน ทำวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20-30 นาที 3-5 วัน จะเห็นผล
3.ใบทองพันชั่ง แก้เชื้อราบนหนังศีรษะ ใช้ใบทองพันชั่งตำจนละเอียด ผสมน้ำพอเหนียว นำมาพอกบนศีรษะบริเวณที่ผมร่วง หลังสระผม จากนั้นใช้ผ้าคลุมไว้ทั้งคืน รุ่งเช้าล้างออก ทำติดต่อกัน 2 สัปดาห์ถึง 2 เดือน อาการผมร่วงจะดีขึ้น
4.มะกรูด ให้นำมะกรูด 4 ผล ใส่หม้อแล้วต้มกับน้ำสักครู่ ใช้ไฟปานกลาง พอมะกรูดนิ่มๆ ยกลง จากนั้นผ่ามะกรูดครึ่งลูกทั้ง 4 ลูก นำไปคั้นเอาแต่น้ำมะกรูดแล้วใช้ผ้าขาวบางกรองน้ำมะกรูดใส่ภาชนะไว้ หลังจากสระผมให้สะอาดไม่ต้องสระผมด้วยแชมพูอีกแล้ว ให้ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง สูตรนี้เหมาะสำหรับผมร่วงที่เกิดจากแชมพูเป็นด่างมากเกินไป
5.ผักบุ้งหรือใบบัวบก เอามาตำคั้นน้ำ หมักผมประมาณ 2 นาที ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม 6.น้ำมันงา ใช้ทาผม หรือชโลมก่อนการสระผมประมาณ 15 นาที ทำให้ผมดกดำและบำรุงรากผม 7.น้ำมันงาและมะกรูด ใช้หมักผม ทำให้ผมดำและเงางาม ผสมน้ำมันงา 1-2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำคั้นจากมะกรูดสด 2-3 ผล ทำแล้วใช้หมดในครั้งเดียว
ไม่เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่ประสบปัญหาผมร่วง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ยิ่งของผู้ชายทีเดียว ผู้หญิงเองก็เกิดผมร่วงได้ไม่น้อยไปกว่าผู้ชายนะคะ โดย 2 ใน 3 ของผู้หญิงก็เคยประสบปัญหาผมร่วงมาแล้ว และในจำนวนนี้เป็นผมร่วงถาวรเสียด้วย แต่สาเหตุผมร่วงของผู้หญิงบางอย่างสามารถแก้ไขได้ค่ะ
บูรณาการเชื่อมโยงไปยัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
ข่าวสดรายวัน
https://brightlives.th.88db.com/health/health_hairfall.htm
หนังสือแบบเรียนคณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 สสวท.
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1482