ขึ้นอีกแล้ว...

                         แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสินค้า 3 รายการที่ยื่น ข้อเสนอขอปรับราคา คือ

                      1) ปุ๋ยยูเรียขอปรับขึ้น 5% ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น  

                      2) น้ำมันถั่วเหลืองยื่นขอปรับราคาจากเดิม 20% จากราคาปัจจุบันที่จำหน่ายขวดละ 46 บาท ขอปรับขึ้นเป็นขวดละ 65 บาท และ

                      3) นมกล่องขอขึ้นราคาอีก 1 บาท

               "รมว.พาณิยช์สั่งการให้กรมการค้าภายในไปหาข้อมูล สำรวจราคา อย่างละเอียด เพื่อให้การปรับราคาสินค้าสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ไม่ใช่คำนวณต้นทุนจากตัวเลขที่เอกชนเสนอมาอย่างเดียว พร้อมกันนี้ต้องต่อรองราคาด้วย เช่น เขาอ้างราคาน้ำมันถั่วเหลืองสูง แต่กระทรวงคำนวณแล้วน่าจะขึ้นได้จากเดิมอีก 10 บาท ราคาต่อลิตรน่าจะอยู่ที่ระดับ 50 บาทเท่านั้น และการขึ้นราคาก็ต้องทยอยขึ้น แบบค่อยเป็นค่อยไป อาจจะ 2 เดือนปรับขึ้น 1 ครั้ง"

                 ข่าวจากโมเดิร์นเทรดรายใหญ่รายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ได้แจ้งขอปรับราคาสินค้า แต่เชื่อว่าจากปัญหาต้นทุนต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัญหาการประท้วงในประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ จะเป็นแรงบีบให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคา ขณะนี้ซัพพลายเออร์ต่าง ๆ มีความเคลื่อนไหวที่จะขอปรับราคาสินค้าไปยังกระทรวงพาณิชย์ หากราคาน้ำมันยังไม่คลี่คลายเชื่อว่าจะเห็นภาพการปรับราคาสินค้ามีความชัดเจนในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้

                  ด้านแหล่งข่าวจากวงการสินค้าบริโภค เปิดเผยว่า ขณะนี้สินค้าหลายตัวได้ปรับราคาขึ้น ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อาทิ ปลากระป๋องที่ผู้นำตลาดปรับราคานำร่องไปเฉลี่ยกระป๋องละ 3 บาท และคาดว่าค่ายอื่น ๆ จะปรับราคาตาม เช่นเดียวกับซีอิ๊วตราเด็กสมบูรณ์ที่ปรับขึ้นขวดละ 3 บาท ขณะที่คอฟฟี่เมตปรับประมาณ 10%

                   นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวในเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาสินค้ามีการแจ้งขึ้นราคา มาจริง จากต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นทุกด้าน คาดว่าตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนซึ่งครบกำหนดที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือซัพพลายเออร์ให้ตรึงราคา สินค้าที่มีส่วนผสมหลักของน้ำมันปาล์ม มะพร้าว และน้ำตาล จะมีการปรับราคาขึ้น

                     ส่วนของใช้จำเป็น เช่น แชมพู ยาสีฟัน ผงซักฟอก คาดว่าหลายค่ายจะใช้วิธีขึ้นราคาทางอ้อม อาทิ ลดขนาด การปรับสูตร หรือถอดโปรโมชั่นเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ซึ่งถือเป็นการขึ้นราคาวิธีหนึ่ง เพราะผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในราคาที่สูงขึ้น

                      จากการสำรวจราคาสินค้าในช่องทางที่เป็นค้าปลีกรายใหญ่ โดยเปรียบเทียบราคากับเมื่อช่วงประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่าในส่วนของสินค้ากลุ่มอาหารหลายรายการมีการปรับราคา ขึ้น อาทิ น้ำปลาหอยหลอด จากเดิมขายขวดละ 16 บาท เพิ่มเป็น 18 บาท ปลากระป๋องแมคเคอเรลตรา 3 แม่ครัว ราคา 15 บาท ปรับเป็น 15.50 บาท

                        ส่วนสินค้าที่เป็นของใช้ที่จำเป็นผงซักฟอก นอกจากจะยังไม่ปรับราคาแล้ว ตรงกันข้ามกลับมีการแข่งขันทางด้านราคาอย่างรุนแรง อาทิ บรีสคัลเลอร์ ขนาด 1,000 กรัม ที่ขายเพียง 55 บาท จากราคาปกติ 59 บาท แอทแทคซอฟ พลัส 1,000 กรัม ขาย 92 บาท จากปกติ 98.50 บาท เป็นต้น

ที่มาของข่าว

https://www.norsorpor.com/ข่าว/n2391522

เนื้อหาสาระคณิตศาสตร์  ที่เกี่ยวข้อง  ร้อยละ

สาระที่ 1  จำนวนและการดำเนินการ
มาตรฐาน ค 1.1   เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชีวิตจริง
      4. ใช้ความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วน  สัดส่วน และร้อยละในการแก้โจทย์ปัญหา 

อัตราส่วนและร้อยละ(Ratio and Percentage)

    1. อัตราส่วน (Ratio)  คือ การเปรียบเทียบของสิ่งหนึ่งต่อของอีกสิ่งหนึ่งที่มีหน่วยอย่าง เดียวกัน เช่น  a : b อ่านว่า a ต่อ b  หรือ  a/b
ตัวอย่าง ปรีชาสูง 150 ซม.  นายสุชาติสูง 170 ซม.  ดังนั้นความสูงของ นายปรีชาต่อความสูงของนายสุชาติ คือ 150 ต่อ 170 หรือเขียนเป็น 
150 : 170  =  15 :17

       อัตราส่วนที่เท่ากัน  คือ อัตราส่วนที่แสดงอัตราเดียวกัน นั่นเอง เช่น 3 : 5  =  6 : 10  =  12 : 20   เป็นต้น

      สัดส่วน (Proportion)  คือ ประโยคสัญลักษณ์ที่แสดงการเท่ากันของ  2  อัตราส่วน  เช่น  a : b  =  c : d  อ่านว่า  a  ต่อ b เท่ากับ c ต่อ d

    2 .ร้อยละ หรือเปอร์เซ็นต์

 คือ อัตราส่วนที่เราต้องการ ที่มีการเทียบกับ 100 หรือ อัตราส่วนที่มีส่วนเป็น 100

เราเรียกว่า เปอร์เซนต์ ใช้สัญลักษณ์ แทนด้วยเครื่องหมาย  %

 เช่น      20  %  อ่านว่า  20 เปอร์เซ็นต์

         โดยมีความหมาย เป็นอัตราส่วนว่า   20 :  100

  อ้างอิง
https://www.scc.ac.th/student_web 

แบบฝึกหัด
1. จงเขียนอัตราส่วนต่อไปนี้ ให้อยู่ในรูปร้อยละ (10 นาที) 
       (1.1) 1:4   เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ              
        (1.2) 8:100   เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ           
       (1.3) 7:10   เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ            
          (1.4) 4:5   เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ                 
        (1.5) 13:20   เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ           
          (1.6) 60:20  เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ               
        (1.7) 7:4   เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ               
        (1.8) 21:8   เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ             
          (1.9) 3:400   เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ             
           (1.10) 63:90   เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละ คือ            
 
          

 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3548