ผลการศึกษากว่า33 แหล่งได้ค้นพบว่าการสอนทักษะทางจิตใจและสังคมแก่เด็ก
การสอนเด็กเรื่องทักษะทางสังคมจะทำให้ผลการเรียนของเด็กดีขึ้น
ผลการศึกษากว่า33 แหล่งได้ค้นพบว่าการสอนทักษะทางจิตใจและสังคมแก่เด็ก
ได้ช่วยให้ผลการเรียนโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 11 เปอร์เซ็นท์ไทล์ในช่วงเวลา 6 เดือนสูงกว่า
เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้เรียนถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สูงเมื่อเด็กผลการเรียนระดับกลาง
ไต่อันดับสูงขึ้นมาสู่ท็อป 40 ของเด็กทั้งห้อง
โจเซฟเดอร์ลากค์นักวิจัยได้อธิบายว่าผลการเรียนที่ดีขึ้น
เป็นผลมาจากสรีรวิทยาของสมองการสอนเรื่องทักษะทางสังคมส่งผลให้การทำงาน
ของกระบวนการคิดและการเรียนรู้ส่วนกลางทำงานและการพัฒนา
ดังกล่าวยังช่วยให้เด็กควบคุมแรงจูงใจและพฤติกรรมต่างๆได้ดียิ่งขึ้น
ชั้นเรียนทดลองที่ได้จัดขึ้นเน้นให้เด็กควบคุมตนเองส่งเสริมให้ตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบและการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนและครูหนึ่งในการเรียนการสอนจากโครงการการดูแลสังคมโรงเรียน ได้ให้เด็กคิดเรื่องสิ่งที่เด็กจะทำหากเด็กไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมส์การเล่น หรือหากเด็กๆเห็นเพื่อนที่ถูกทิ้งไม่ได้ร่วมกิจกรรมเด็กจะทำอย่างไร ในหลายๆกิจกรรมที่จัดขึ้นเน้นเรื่องการรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงและการกดขี่ข่มเหง
ผลการศึกษาพบว่า
โปรแกรมดังกล่าวได้เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครูและเด็กหลายๆคนรู้สึกผูกพันกับโรงเรียนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเกี่ยวข้องที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กและเล่นบทบาทสมมุติเป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากโรงเรียนรัฐกว่า 60 เปอร์เซ็นท์ได้ส่งเสริมเรื่องสุขภาวะทางใจและอารมณ์ในกิจกรรมพิเศษต่างๆในโรงเรียน
ผลการศึกษาดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเรื่องการพัฒนาเด็ก
คำถาม
1.กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้มีจำนวนเท่าไร
2.ผลการเรียนโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 11 เปอร์เซ็นท์ไทล์
หมายความว่าอย่างไร จงอธิบาย
3.การเรียนรู้ทักษะทางสังคม ทำให้ผลการเรียนดีขึ้นอย่างไร
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=4597