9 นิสัยทำร้ายผิว ต้นเหตุของการเกิดริ้วรอย
ริ้วรอยต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายที่บ่งบอกถึงอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในจุดนี้สาว ๆ ทุกคนรู้คงรู้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นก็เลยพยายามสรรหาสารพัดวิธีมาใช้เพื่อกำจัดริ้วรอยต่าง ๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรม ครีมบำรุง การบริหารรอบดวงตา หรืออื่น ๆ แต่สิ่งเหล่านี้จะเห็นผลก็ต่อเมื่อคุณกำจัด 9 นิสัยทำร้ายผิว อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยเสียก่อน และถ้าหากสามารถกำจัด 9 นิสัยนี้ได้ยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยอีกด้วย
1. การสูบบุหรี่
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยตีนกา เนื่องจากสารเคมีในมวนบุหรี่เป็นผลให้เกิดการสูญเสียสารอีลาสตินและคอลลาเจนในผิว ดังนั้นจึงทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย พร้อมเกิดเป็นริ้วรอยร่องลึกในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีรอยย่นรอบริมฝีปาก ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่เกิดกับผู้ที่สูบบุหรี่ เนื่องมาจากการขมวดกล้ามเนื้อริมฝีปากขณะสูบบุหรี่ด้วย
2. ติดขนมหวาน
เพราะน้ำตาลที่แฝงมากับขนม หากเข้าไปสะสมในร่างกายมากเกินไปจะเกิดภาวะไกลเคชั่น (Glycation) หรือภาวะที่น้ำตาลเข้าไปรวมตัวกับโปรตีนในร่างกาย ซึ่งโปรตีนที่ว่านี้ก็คือ อีลาสตินกับคอลลาเจน โดยหลังจากที่สารทั้ง 2 ชนิดทำปฏิกิริยากันแล้ว ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานและการผลิตทั้งอีลาสตินกับคอลลาเจนลดลง ทำให้ผวขาดความยืดหยุ่น จึงเกิดริ้วรอยได้ง่าย
3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิดล้วนทำให้ผิวเกิดสภาวะขาดน้ำด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อดื่มแอลกอฮอล์บ่อยเข้าผิวก็จะสูญเสียสารอีลาสตินไปทีละน้อย จนทำให้เกิดรอยตีนกา นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังลดการดูดซึมของวิตามินเอ ซึ่งเป็นทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ และยังเป็นสารสำคัญที่ร่างกายนำไปใช้ในการสร้างคอลลาเจนด้วย
4. เคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำ
การเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ ก็ส่งผลให้เกิดรอยตีนกาได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะบริเวณรอบปากล่าง ซึ่งสามารถพบเห็นได้บ่อยกับคนที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำจนติดเป็นนิสัยไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องมีหมากฝรั่งอยู่ในปากเสมอ ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เพียงทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า โดยเฉพาะผิวรอบริมฝีปากมากกว่าคนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังทำให้เสียบุคลิกด้วย
5. ไม่ล้างเครื่องสำอาง
สาว ๆ เข้านอนทั้ง ๆ ที่ยังมีเครื่องสำอางอยู่บนใบหน้า ก็ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าคนทั่วไปเช่นกัน เนื่องจากทั้งเครื่องสำอาง มลภาวะต่าง ๆ จากฝุ่นควันในอากาศ และไอเสียจากรถ จะเข้าไปสะสมอยู่ในรูขุมขน ทำให้สารอีลาสตินและคอลลาเจนทำงานไม่สามารถทำงานได้ ผลที่ตามมาก็คือ ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและเต็มไปด้วยริ้วรอย
6. บีบสิว
ไม่ว่าจะบีบ กด หรือการกระทำใด ๆ เพื่อนำสิ่งอุดตันออกมาจากรูขุมขน ต่างก็เป็นการทำลายผิวหนัง ทำให้เกิดอาการระคายเคือง รอยแผลเป็น และที่สำคัญก็เป็นที่มาของริ้วรอยต่าง ๆ ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็ควรลด ละ และเลิกการทำร้ายผิวด้วยวิธีเหล่านี้ หากทำได้ก็จะเป็นผลดีกับผิวของคุณเองหรือหากต้องการกำจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนก็แนะนำให้ใช้สารสกัดที่ได้จากธรรมชาติดีกว่านะคะ
7. ยืดผิวหน้าให้ตึงก่อนทาเครื่องสำอาง
สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งในขณะที่กำลังแต่งหน้า ไม่ว่าจะเป็นการอ้าปากเพื่อทาลิปสติก หรือเลิกคิ้วเพื่อทำให้ปัดมาสคาร่า แม้อาจทำให้สามารถทาเครื่องสำอางได้ง่ายกว่า แต่ไม่ค่อยคุ้มนักหากมันต้องแลกมาด้วยการมีริ้วรอยก่อนวัยอันควร ฉะนั้นทำใบหน้าให้เป็นปกติขณะที่กำลังทาเครื่องสำอางดีกว่า
8. ไม่ทาครีมกันแดด
หากไม่อยากให้เกิดริ้วรอย ก็ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย แม้จะอยู่ในที่ร่มหรือเป็นวันที่อากาศมืดครึ้มก็ตาม เพราะอย่าลืมว่าแม้จะไม่มีแสงแดดให้เห็น แต่รอบ ๆ ตัวก็ยังมีรังสีแอบแฝงอยู่ ซึ่งครีมกันแดดที่เหมาะสมกับผิวของสาว ๆ ในปัจจุบันก็คือ ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป และหากสามารถทำได้ก็ควรทาซ้้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง
9. นอนคว่ำ
การนอนคว่ำทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ง่ายมากและเป็นริ้วรอยที่ลบออกได้ยากมากเช่นกัน หากมีนิสัยการนอนแบบนี้อยู่ แนะนำให้เปลี่ยนท่าทางในการนอนเสียตั้งแต่ตอนนี้ โดยท่าทางในการนอนที่ไม่ก่อให้เกิดริ้วรอยก็คือ นอนตะแคงกับนอนหงาย และถ้าจะให้ดีก็พยายามเลือกปลอกหมอนที่ผลิตจากผ้าซาติน ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน
แม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีช่วยลบเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิวหน้า และอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถทำให้ผิวหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์ สดใสได้อีกครั้ง แต่สิ่งเหล่านี้ก็ต้องแลกมาด้วยสุขภาพที่เสียไปกับค่าใช้จ่ายอีกมากมาย คงจะดีกว่าหากเราหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมละเลิกทำนิสัยเหล่านี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอย และมีผิวหน้าที่เปล่งปลั่งตามธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่านการศัลกรรมใด ๆ นะจ๊ะ