7 ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อย จนนำไปสู่ปัญหาผิวหน้า
หากสาว ๆ คนไหนกำลังกังวลใจเพราะต้องเผชิญกับปัญหาผิวหน้าอยู่บ่อยครั้ง แถมแม้พยายามรักษาอย่างไรก็ยังแก้ไขไม่หายขากสักที แม้ว่าจะไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วแต่ปัญหาก็ยังกลับมาอีก เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งไปโทษโน่นโทษนี่เลยดีกว่า เพราะหากคุณยังทำ 7 ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยเหล่านี้ เชื่อเถอะว่าไม่ว่าจะอีกกี่ปี คุณสาว ๆ ก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาผิวไปไม่รู้จบ
1. ล้างหน้าบ่อย ๆ
สาวผิวมันยอมรับมาเถอะว่า ระหว่างวันที่หน้ามันย่อง คุณก็มักจะล้างหน้าเพื่อขจัดความมันออกบ่อย ๆ รวมทั้งบางทีก็ผลิตภัณฑ์อย่างหมดจดเพื่อหวังให้หน้าแห้งผาก ใครที่กำลังทำแบบนี้อยู่ขอให้หยุดเถอะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการสครับ การใช้โฟมล้างหน้าขจัดความมัน หรือโทนเนอร์ที่ผสมแอลกอฮอล์ก็ไม่ช่วยทำให้หน้ามันน้อยลงเท่าไร เพราะโดยธรรมชาติเมื่อผิวหนังของคนเราแห้งก็ยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากเพื่อคงความสมดุล ฉะนั้นทางที่ดีควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนและล้างหน้าแค่ 2 ครั้งต่อวันก็เพียงพอแล้วจ้ะ
2. ใช้แปรงและฟองน้ำแต่งหน้าที่สกปรก
อย่าคิดว่าแปรงและฟองน้ำที่ใช้สำหรับแต่งหน้าจะไม่ต้องการการทำความสะอาด เพราะนี่แหละเป็นต้นเหตุสำคัญที่จะทำให้ใบหน้าของคุณเป็นสิว ลองคิดดูสิว่าแปรงและฟองน้ำแต่งหน้าที่ไปโดนเครื่องสำอางแล้วมาโดนหน้าของคุณอีกทุกวัน ๆ จะมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่มากแค่ไหน ฉะนั้นลองใช้แชมพูสำหรับเด็กสูตรอ่อนโยนล้างแปรงและฟองน้ำสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้ห่างไกลปัญหาสิวกันเถอะ
3. ใช้มือจับหน้าบ่อยเกินไป
การเอามือมาลูบผิวหน้าบ่อย ๆ ก็เหมือนกับการที่คุณเอามือไปสัมผัสสิ่งสกปรกแล้วหยิบอาหารกินจนเกิดอาการป่วยไข้นั่นแหละค่ะ เพราะหากนำมือที่สกปรกมาจับต้องใบหน้าก็ก่อให้เกิดสิวเห่อขึ้นมาได้เช่นกัน ฉะนั้นพยายามอย่าเอามือมาจับหน้าบ่อย ๆ หากสิวขึ้นจนเจ็บก็อย่าไปแคะแกะเกา แต่หากรู้ตัวว่าชอบเอามือเท้าคางหรือจับหน้าบ่อยโดยไม่รู้ตัวจริง ๆ ให้พกแอลกอฮอล์ล้างมือติดกระเป๋าไว้ ก็จะช่วยทำความสะอาดมือได้ระดับหนึ่งก่อนมาถูกผิวหน้านะคะ
4. ไม่เปลี่ยนผ้าปูที่นอน
ลองนึกดูสิว่าคุณเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนบ่อยแค่ไหน? ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังเผยว่า ควรเปลี่ยนทั้งผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนใหม่สัปดาห์ละครั้ง เพราะในแต่ละวันที่คุณอยู่บนเตียง เหล่าเชื้อโรค แบคทีเรีย เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เหงื่อ และสิ่งสกปรกมากมายต่างก็สะสมอยู่ในนั้น ฉะนั้นเพื่อให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บและโรคผิวหนังที่ไม่มีสาว ๆ คนไหนอยากเป็น ก็ขยันเปลี่ยนหน่อยเถอะนะ
5. ไม่เช็ดหน้าเวลาเหงื่อออก
เวลาที่ไปออกกำลังกายในฟิตเนสหรือในยิม แล้วเกิดเหงื่อซึมเต็มใบหน้า แต่คุณก็ไม่อยากจะใช้มือปาดเหงื่อออกไปเพราะเกรงว่ามือยังสกปรกอยู่ แต่รู้ไหมว่าหากทิ้งไว้ก็จะทำให้เกิดปัญหาสิวที่แก้ไขได้ยากอีก ฉะนั้นลองพกกระดาษทิชชู่เปียกที่อ่อนโยนติดกระเป๋ายามไปออกกำลังกายด้วย จะเป็นตัวช่วยที่แก้ปัญหาไม่ให้เกิดสิวได้อย่างดีเลย เผลอ ๆ ถ้าเหงื่อท่วมจนเมคอัพละลาย ก็ใช้กระดาษทิชชู่เปียกเช็ดออกได้อย่างสะอาดหมดจดด้วยล่ะ
6. คุยโทรศัพท์แบบแนบแก้ม
หน้าจอโทรศัพท์ ถือว่าเป็นแหล่งรวมสิ่งสกปรกและเชื้อโรคมากมายที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ และเชื่อว่าผู้หญิงหลายคนก็ยังคงคุยโทรศัพท์แบบเอาแนบชิดแก้มอยู่ ซึ่งหากคุณมีสิวขึ้นเยอะตรงบริเวณแก้มก็ไม่ต้องแปลกใจเลยนะคะ ทางที่ดีควรใช้สมอลทอล์คหรือจับโทรศัพท์แบบไม่ต้องให้แนบชิดแก้มมากดีกว่า
7. ไม่เช็กวันหมดอายุสินค้า
เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าต่างก็มีวันหมดอายุเช่นเดียวกัน แต่สาว ๆ หลายคนที่ไม่รู้เรื่องนี้ก็มักใช้เครื่องสำอางไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมด นั่นถือว่าเป็นสิ่งไม่ดีเลยสำหรับผิวหน้าเลยค่ะ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดสิวแล้ว ยังทำให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ที่แก้ไขยากอีกมากมาย ฉะนั้นเมื่อซื้อเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้กับผิวหน้ามาแล้ว ให้จดบันทึกไว้ว่าซื้อมาเมื่อเดือนอะไรและดูสัญลักษณ์ว่าหลังเปิดใช้ได้กี่เดือนจึงจะหมดอายุ สำหรับลิปสติกและอายไลน์เนอร์จะมีอายุเฉลี่ย 1 ปี, อายแชโดว์มีอายุเฉลี่ย 2-3 ปี, รองพื้น คอนซีลเลอร์ ไพร์เมอร์ และบีบีครีมมีอายุเฉลี่ย 1-2 ปี, มาสคาร่ามีอายุเฉลี่ย 6 เดือน และสกินแคร์สำหรับหน้ามีอายุเฉลี่ย 2-3 ปีหลังเปิดใช้แล้ว
พอได้รู้แบบนี้แล้ว คงจะทำให้สาว ๆ ลดละเลิกพฤติกรรมเดิมผิด ๆ จนนำไปสู่ปัญหาผิวหน้าเหล่านี้แล้วใช่ไหมล่ะคะ หากทำได้แบบนี้แล้ว ใบหน้าของคุณก็จะสวยใสไม่ต้องง้อยารักษาแพง ๆ เลยจ๊ะ