แค่นอนให้ถูกวิธี ผิวสวยใสไร้กังวล


1,088 ผู้ชม


แค่นอนให้ถูกวิธี ผิวสวยใสไร้กังวล

แค่นอนให้ถูกวิธี ผิวสวยใสไร้กังวล

เพราะการนอนให้มีคุณภาพสำคัญต่อความสวยอย่างไม่น่าเชื่อ

ผิวสวยได้ง่าย ๆ แค่นอนให้เป็น
(Lisa)
การนอนสัมพันธ์กับผิวพรรณ

          ผิวพรรณที่เราเฝ้าฟูมฟัก ทะนุถนอมให้สวยนวลเนียนอยู่ตลอดด้วยทรีทเม้นท์ชั้นดี ครีมบำรุงผิวชั้นเลิศนั้นจะไร้ผลในทันทีถ้าขาดการนอน และไม่ใช่เพียงหลับให้พอหายเหนื่อยเท่านั้น การนอนให้มีคุณภาพสำคัญต่อความสวยอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่แน่ปัญหาผิวที่เรื้อรังของคุณอาจมาจากสาเหตุเล็ก ๆ อย่างพฤติกรรมการนอนที่ผิด ๆ ก็ได้
          "เราเคยได้ยินกันอยู่เรื่อย ๆ นะครับ ช่วงที่เรานอนน้อย ผิวก็จะไม่สดชื่น แต่งหน้าไม่ติด หรือมีใต้ตาคล้ำ ๆ ได้ จริง ๆ มันมีวิทยาศาสตร์การแพทย์ซ่อนอยู่ในนั้น" นพ. สมิทธิ์ อารยะสกุล กล่าว เพราะขณะที่นอนหลับร่างกายไม่ได้มีการปิดเหมือนเครื่องยนต์ แต่ร่างกายยังทำงานอยู่ และก็ทำงานหลายอย่างเลยที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณ อิทธิพลของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในการนอน ที่เป็นตัวแปรให้สภาพผิวเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางต่าง ๆ
 Growth Hormone
          ในผู้ใหญ่โกรทฮอร์โมน มีบทบาทเรื่องความอ่อนเยาว์ ซึ่งโกรทฮอร์โมน จะหลั่งช่วงประมาณสี่ทุ่มจนถึงตีสองและเป็นช่วงเวลาที่เราหลับสนิทเท่านั้น ถ้าไม่ได้นอนในช่วงนี้ หรือว่าร้ายกว่านั้นคือนอนหลังตีสอง ทำให้ช่วงเวลาการหลั่งโกรทฮอร์โมน น้อยลง ซ่อมแซมผิวไม่ทัน จึงเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
 Cortisol Hormone
          เกิดขณะมีความเครียด หรือเมื่ออดนอน คอร์ติซอล จะหลั่งออกมา เพื่อให้เราฝืนตัวเองให้ยังตื่นอยู่ได้มีฤทธิ์ทำให้เกิดรอยคล้ำตามร่างกายในที่ต่าง ๆ ได้ทั้งใต้ตา รักแร้ ขาหนีบ ผิวพรรณหม่นหมอง
 Melatonin Hormone

          เป็นฮอร์โมนที่หลั่งเพื่อให้เราหลับสนิทตามธรรมชาติเมลาโทนินกับคอร์ติซอลจะไม่ถูกกัน ถ้าคอร์ติซอลมาเมลาโทนินก็จะไม่มา เมื่อไรที่เราหลับสนิทเมลาโทนินจะมาหยุดคอร์ติซอล ทำให้เราหลับลึก ตื่นมาเฟรชและยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการหลั่งโกรทฮอร์โมน และตัวเมลาโทนินเองก็เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ใช้ขับสารพิษออกจากร่างกาย
 นอนให้มีคุณภาพได้อย่างไร
          นพ. สมิทธิ์แชร์ข้อมูลงานวิจัยเรื่องการนอนที่มีคุณภาพว่า "มีการวิจัยที่พยายามหาจำนวนชั่วโมงที่เหมาะสม ก็พบว่าเวลานอนของแต่ละบุคคลไม่เท่ากันแต่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ไม่มากและไม่น้อยไปกว่านี้ โดยวิธีสังเกตเวลานอนที่เพียงพอต่อตัวเรา คือเมื่อตื่นขึ้นมาสดชื่นไหม อันที่หนึ่ง อันที่สองคือช่วงบ่ายง่วงนอนหรือเปล่า อันที่สาม คือถ้าอยู่ในที่นิ่ง ๆ เย็น ๆ เช่น ฟังเลกเชอร์ ดูหนัง เราหลับหรือเปล่า ถ้าใครที่เป็นอย่างนั้นตลอดแสดงว่าการนอนของคุณไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ซึ่งมีวิธีแก้ไขดังนี้…"
 ไม่นอนร่วมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

การเล่นโทรศัพท์ การดูโทรทัศน์ เล่นคอมพ์ การที่เรากระตุ้นตัวเองด้วยแสงและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้เราตื่นไปอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยเฉลี่ย ฉะนั้น ให้ปิดอุปกรณ์เหล่านี้ก่อนนอนหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
 ไม่ผูกมิตรกับคาเฟอีน
เครื่องดื่มคาเฟอีนอย่างกาแฟ โคล่า ฤทธิ์มันยาวถึง 8 ชั่วโมง ถ้าอยากให้การนอนเป็นปกติ หยุดกาแฟหรือชาแก้วสุดท้ายที่บ่าย 2 แถมพวกนี้ยังมีฤทธิ์การขับปัสสาวะด้วย ทำให้ตื่นขึ้นมาปัสสาวะกลางดึกนอนได้ไม่ต่อเนื่อง และอีกตัวคือสุรา แต่จะมีฤทธิ์สั้นกว่าคาเฟอีน อยู่ได้เฉลี่ยประมาณ 1-2 ชั่วโมง
 นอนมากก็ใช่ว่าจะเวิร์ก

          มีงานวิจัยจากต่างประเทศบอกว่าการนอนมากเกินไปแฝงสัญญาณบางอย่าง อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องผิวโดยตรง นั่นคือปัญหาเรื่องซึมเศร้า ร่างกายจะเสียสมดุล พอสุขภาพจิตไม่ดี ความกระตือรือร้นในการดูแลตัวเองก็จะลดลงไป
SOS Situation

          เหล่าเวิร์กกิ้งวูแมนทั้งหลาย แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าการนอนไม่เพียงพอนั้นทำร้ายผิวแค่ไหน แต่ไลฟ์สไตล์กลับไม่เอื้ออำนวย ทั้งตารางงานที่แน่น ไหนจะเดินสายปาร์ตี้แล้วยังต้องแบ่งเวลาให้ครอบครัว ฉะนั้น ต้องใส่ใจผิวอีกเป็นเท่าทวีคูณ
 Problem 1 : นอนน้อย

          าเอา 6 ชั่วโมงเป็นตัวตั้งแล้ว การนอนน้อยกว่านั้นอาจส่งผลให้รู้สึกไม่ค่อยสบายผิว แต่ก็ยังไม่หนักหนาเท่าไหร่ อาจมีอาการใต้ตาแห้ง หรือรอยเหี่ยวที่ถุงใต้ตาบ้าง วิธีแก้ไขก็คือให้ใช้สำลีชุบโลชั่นโปะไว้ที่ตาก่อนสัก 5 นาที หรือหากมีปัญหาตรงจุดอื่นอย่างรูขุมขนข้างแก้มก็ใช้วิธีเดียวกันนี้ได้
 Problem 2 : นอนไม่พอ
          การนอนน้อยติดต่อกันหลาย ๆ วัน จะรู้สึกได้ถึงรูขุมขนที่กว้าง ผิวที่แห้งผาก จนทาครีมบำรุงอะไรก็เอาไม่อยู่เกิดหน้าลอกเป็นขุย ๆ ระหว่างวัน หนำซ้ำยังแต่งหน้าไม่ค่อยติด ต้องหาเวลาพักฟื้นให้ด่วนที่สุด คือพยายามดึงเวลานอนกลับมาให้พอ ลดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้งปวง ส่วนการบำรุงผิวอย่างที่บอก ไม่ว่าจะประโคมอะไรก็หายหมด ลองหามาสก์หน้าชนิดเข้มข้นมาใช้ทุกวันก่อนนอน จนกว่าผิวจะดีขึ้น หรือหากมีเวลาก็มีทรีทเม้นท์จำพวกฟื้นฟูผิวและวิตามินต่าง ๆ แต่เว้นเลเซอร์ไว้ก่อนเพราะร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะซ่อมแซมตัวเอง
 Problem 3 : ไม่ได้นอน
          แม้จะแค่คืนเดียวที่อยู่ถึงเช้าแต่พลานุภาพการทำร้ายผิวนั้นรุนแรง ต้องใช้เวลาฟื้นฟูผิวกันอยู่หลายวัน ไล่ตั้งแต่ผิวแห้ง รูขุมขนกว้างหย่อนคล้อย และหมองคล้ำ มีแต่พังกับพัง ทางที่เซฟที่สุดคือล้างหน้าให้สะอาดไว้ก่อน อย่าข้ามคืนไปกับเมคอัพ เมื่อล้างหน้าสะอาดแล้ว ลงบำรุงผิวแล้วตบด้วยออยล์เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว และหากผิวดูล้ามาก ๆ ก็พอกมาสก์ครีมไว้เลย เมื่อเช้ามาแล้วต้องออกไปข้างนอก ให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเสียหน่อย เพราะผิวที่อ่อนแอจะไวต่อแดดมาก

อัพเดทล่าสุด