เคล็ดลับ การชะลอแก่
ใครไม่อยากแก่ ยกมือขึ้น!มั่นใจได้ว่า ถ้าเลือกได้ ทุกคนคงยกมือตอบรับกับคำถามนี้ เพราะที่ผ่านมา มนุษย์เราต่างก็มุ่งเสาะหาเหล่ายาอายุวัฒนะกันหลากหลายขนาน เพื่อนำมาบำรุงร่างกายตัวเองไม่ให้เจ็บป่วยหรือแก่ชราลง แต่แน่นอนว่า ไม่มียาตัวไหนที่จะช่วยให้คุณดูเป็นหนุ่มเป็นสาวไปได้ตลอด โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ ที่เทรนด์ของการใส่ใจสุขภาพร่างกาย และความงาม กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก
247 ขอพาคุณ ๆ มาทำความรู้จักเรื่องราวของการชะลอวัยกับเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ (Anti-aging medicine) และหลากวิธีที่ทำให้คุณเข้าสู่ความชราช้าลง
Anti-aging Medicine คืออะไร
Anti-aging Medicine เป็นการแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่งที่จะทำให้มนุษย์มีอายุยืนยาวขึ้นถึง 120 ปี และมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงควบคู่ไปด้วย หลักการของเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ คือ การใช้เทคโนโลยีล่าสุดหรือความรู้ทางการแพทย์ใหม่ๆ ทุกด้าน ในการชะลอความชราหรือความเสื่อมออกไป ขณะเดียวกันสุขภาพก็ต้องดีด้วย คำที่เราคุ้นหูกันดี อย่างการฉีดเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาโรค (Stem Cell) การรักษาโรคโดยการแก้ที่ยีนโดยตรง(Gene Therapy) หรือการค้นพบยีนอายุยืนในมนุษย์ (Longevity Gene)สิ่งเหล่านี้ คือส่วนหนึ่งของ Anti-aging Medicine
ในสมัยต้นศตวรรษที่ 20 ได้มีการคิดค้นยาปฏิชีวนะขึ้น ทำให้อัตราตายจากโรคติดเชื้อของคนในสมัยนั้นลดลงอย่างมาก และนี่คือจุดเริ่มต้นของศาสตร์แห่งการป้องกันโรค และทำให้อายุขัยของมนุษย์ยืนยาวขึ้น ที่เรียกว่า Anti-aging Medicine หรือเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ และเวชศาสตร์นาโน (Nanomedicine) ซึ่งเป็นสาขาแพทย์ที่กำลังเติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกาขณะนี้ และมีสมาชิกประกอบด้วยแพทย์จากทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันนี้ในบ้านเราเอง กระแส Anti-aging ก็กำลังได้รับความนิยม โดยสังเกตได้จากศูนย์สุขภาพ และการชะลอวัยที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯหลายแห่ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ความอ้วนทำให้แก่เร็ว
ปฏิเสธไม่ได้ว่า กาลเวลาเป็นสิ่งที่ทำให้คนเราแก่ขึ้น แต่สาเหตุหนึ่งที่เร่งให้คนแก่เร็วกว่านั้นอีกก็คือ ความอ้วนและสิ่งที่ทำให้คนเราอ้วนได้ง่ายเลยคือ แป้งและน้ำตาลขัดขาว หากต้องการลดความอ้วน จำเป็นต้องรับประทานอาหารพวกนี้ให้น้อยลง
นอกจากความอ้วนจะทำให้แก่เร็วแล้ว คนอ้วนยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย ทั้งนี้สารอนุมูลอิสระ เป็นตัวทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกายมนุษย์เพิ่มขึ้น โดยสารชนิดนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง เช่น การดื่มน้ำเย็นจากขวดน้ำพลาสติกพลาสติกห่ออาหาร, อาหารกระป๋อง, การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเมทิล-พาราเบน ซึ่งโดยปกติแล้วกลไกของร่างกายจะสร้างสารต้านอนุมูลอิสระได้เอง แต่ไม่เพียงพอกับการกำจัดสารอนุมูลอิสระ จึงทำให้เกิดความเสื่อมของร่างกายทำให้แก่ชรา เซลล์ขาดความสมดุลเกิดการเจ็บป่วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรับสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น
หลัก 3 ข้อของ Anti-Aging
1.Healthy Weight ถ้าไม่อยากแก่ต้องรักษาน้ำหนัก ไม่ให้อ้วนเกินไป ควรรับประทานแป้งและน้ำตาลในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะอาหารทั้งสองอย่างนี้ทำให้แก่เร็ว
2.Healthy Diet and Life Style ซึ่ง Healthy diet คือ อาหารสุขภาพ อย่างพวกผักต่างๆโดยเฉพาะคะน้า ต้องรับประทานให้เหมาะสม หรืออาจกินอาหารเสริมเพิ่มก็ได้ ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์นั้น หมั่นออกกำลังกาย จะช่วยต้านความชรา
3.Healthy Mind ออกกำลังใจ แบ่งเป็น 2 ส่วน
1. ออกกำลังสมองวิธีการ เช่น ให้ลองหัดทำอะไรที่ไม่เคยทำ เช่น เคยเขียนหนังสือมือขวาก็ลองเขียนมือซ้ายบ้าง หรือเล่นกีฬาที่ไม่เคยเล่น ลองคบเพื่อนใหม่
2. ออกกำลังใจ คือ การทำสมาธิ ได้มีผลวิจัยพบว่าคนที่ทำสมาธิ จะมีสมองที่ไวและหนุ่มกว่าอายุจริง เพราะหัวใจทำงานน้อยลง ไม่เหนื่อยง่าย
วิถีสุขภาพ เพื่ออายุยืนยาว
สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าสุขภาพกายและจิตดีไปพร้อมๆ กันก็เป็นเหมือนยาอายุวัฒนะอยู่แล้ว และเหล่านี้คือวิธีดูแลตัวเองกับการชะลอวัย ที่คุณสามารถทำเองได้ง่าย ๆ
1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พร้อมทั้งเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และดูแลรูปร่างให้เหมาะสม ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป
2. พยายามอย่าให้เกิดแผลในร่างกาย เพราะอาจทำให้ติดเชื้อและส่งผลให้ร่างกายเสื่อมโทรม
3. เลิกสูบบุหรี่ และควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ
4. ตรวจเช็กร่างกายประจำปีอย่างสม่ำเสมอ
5. สมองหากไม่คิดก็จะฝ่อ คุณจึงควรใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา เช่น เล่นเกมจำพวกฝึกสมอง
6. มีอารมณ์ขัน และชะลอความเร่งรีบในชีวิตลงบ้าง
สูตรยอดอาหารต้านความแก่
1. ดื่มไวน์วันละ 150 มล. เนื่องจากเรสเวอราทรอลจากไวน์ เป็นยอดยาอายุวัฒนะชั้นเลิศ
2. ทานปลาจากน้ำทะเลลึกวันละ118 กรัม ช่วยเพิ่มโอเมก้า 3
3. ทานช็อกโกแลตดำวันละ 100 กรัม
4. ทานผักและผลไม้วันละ 400 กรัม
5. ทานกระเทียมวันละ 2.7 กรัม