7 สิ่งที่ไม่ควรเอามาใช้กับหน้า ถ้ายังไม่อยากเสียโฉม
จะมีอะไรบ้างที่ใช้กับผิวหน้าแล้วทำให้เราเสียโฉมได้ง่าย ๆ มาดูกันเลย
ผิวหน้าของเราบอบบางกว่าที่คิด ดังนั้นคิดจะหาอะไรมาใช้กับใบหน้าก็ต้องระวังกันนิดหนึ่ง เพราะของบางอย่างก็เอามาใช้แทนกันไม่ได้ มิเช่นนั้นหน้าจะพังเอา ต้องเสียเงินรักษาหน้าอีก
การจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสักตัวนั้น บางทีก็คิดแล้วคิดอีก กลัวว่าถ้าซื้อมาใช้แล้วจะมีอาการแพ้ เสียเงินฟรีอีก แต่เชื่อไหมว่า บางครั้งเราก็มีความคิดแปลก ๆ กล้าเอาผิวหน้าไปเสี่ยงกับความคิดสุดครีเอทของตัวเอง ด้วยการใช้ของหาง่ายรอบตัวมาดัดแปลงเพราะคิดว่ามันอาจจะพอกล้อมแกล้มไปได้ โดยเฉพาะ 7 สิ่งต่อไปนี้ที่สามารถทำให้เราเสียโฉมได้ง่าย ๆ เลย เอาล่ะ ! ไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
หากหยดสุดท้ายของครีมทาหน้าหมดกระปุกไปนานแล้ว แต่ยังไม่มีเงินซื้อใหม่ แล้วตั้งใจว่าจะเนียน ๆ เอาบอดี้โลชั่นมาใช้แทนกันไปก่อน เราขอบอกไว้เลยว่าเป็นความคิดที่่ผิดมหันต์ ! เพราะสารประกอบในบอดี้โลชั่นส่วนใหญ่สกัดมาจากน้ำมัน เช่น กลีเซอร์รอล ปิโตเลียม และเจลลี่ อีกทั้งยังมีการแต่งกลิ่นด้วยน้ำหอมด้วย และสารเคมีเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดการระคายเคือง มีผื่นแดงขึ้นเป็นหย่อม ๆ รู้แบบนี้แล้วก็ลงทุนซื้อครีมทาหน้ายี่ห้อดี ๆ มาใช้เถอะ
กูรูเมคอัพส่วนใหญ่มักแนะนำให้ใช้สเปรย์แต่งผมมาใช้ในการจัดระเบียบขนคิ้วให้เรียงตัวสวยเป็นทรง หรือแม้แต่การฉีดล็อกเมคอัพให้ติดทน แต่สาว ๆ รู้ไหมว่าสเปร์ยแต่งผมน่ะมีสารประกอบประเภทแอลกอฮอล์หลายชนิดรวมอยู่นะ ได้แก่ เอทานอล เทียรรีบิวทานอล ไดเมทิลอีเทอร์ ไฮโดรคาร์บอน หรือ โพรเพลแลนด์ ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองต่อผิวหน้าของเรา สามารถทำให้ผิวเราบวมแดง มีผดผื่น ดังนั้นทุกครั้งอยากให้หน้าแน่น ก็เปลี่ยนมาใช้ Fixing spray หรือน้ำแร่สำหรับฉีดหน้าโดยเฉพาะเถอะนะ เวิร์กกว่า !
เทคนิคใช้ของหาง่ายในครัวบำรุงความงามก็เป็นไอเดียที่ดีนะ แต่การใช้น้ำส้มสายชูแทนโทนเนอร์เช็ดหน้านี่อาจไม่ช่วยบำรุงความงามเท่าไรนัก ดีไม่ดี หน้าจะพังเอาเพราะกรดของน้ำส้มสายชูกัดหน้า หากใครไม่เชื่อก็ลองคิดภาพตามเลยว่า ถ้าใช้น้ำส้มสายชูเช็ดหน้าเนี่ยหน้าเราจะเหม็นเปรี้ยวแค่ไหน แค่นั้นยังไม่พอนะ เราจะแสบหน้าจากการถูกกรดน้ำส้มกัดกร่อนอีกต่างหาก ดังนั้น หากไม่มีโทนเนอร์เช็ดหน้าในขณะนั้น ขอแนะนำว่าให้ใช้กระดาษทิชชู่สำหรับเช็ดหน้าเช็ดย้อนรูขุมขนอย่างเบามือ ผิวหน้าของเราก็สะอาดขึ้นได้ในระดับหนึ่งแล้ว
แม้ว่าขวดยาสระผมที่เราใช้เป็นประจำจะมีฉลากระบุไว้ว่าใช้ได้ทั้งเส้นผมและผิวกาย แต่ก็ใช่ว่าเราจะเอามาดัดแปลงใช้กับผิวหน้าได้นะ เช่น ละลายน้ำใช้เช็ดเครื่องสำอาง หรือ เจือจางกับน้ำไว้ล้างหน้า ที่ต่อให้เราเจือจางกับน้ำแล้วก็ยังก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าได้อยู่ดี เพราะในยาสระผมมีสารลดแรงตึงผิวเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น สารโซเดียม ลอริล ซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate) ที่มีฤทธิ์รุนแรงกับผิวหน้าของเรา โดยเฉพาะในบริเวณผิวที่บอบบางเช่น รอบดวงตา ดังนั้น ใช้โฟมล้างหน้า หรือสบู่ล้างหน้าโดยเฉพาะดีกว่าจ้า
มายองเนสมีส่วนประกอบหลักของไข่แดง น้ำมัน และน้ำส้มสายชู หากดูจากส่วนประกอบก็พอจะเดาได้ว่า คงไม่ดีแน่ถ้าส่วนประกอบเหล่านี้มารวมตัวอยู่บนผิวหน้าของเรา และหากเราใช้มายองเนสมาร์กหน้าละก็ มีสิทธิ์ผื่นแดงขึ้นเต็มหน้าแน่นอน ดังนั้น ใช้โยเกิร์ตมาร์กหน้าดีกว่านะ ส่วนมายองเนสก็ใช้หมักผมแทน
ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลใด ๆ ก็ตาม สาว ๆ ก็ไม่ควรพลิกแพลงเอายาทาเล็บสีฉูดฉาดมาใช้บนใบหน้าอย่างเด็ดขาดนะคะ โดยเฉพาะการนำมาเพ้นท์หน้าเป็นลวดลาย เพราะน้ำยาทาเล็บมีส่วนประกอบของสารไนโตรเซลลูโลส (Nitrocellulose) หรือ สารเคมีที่มีคุณสมบัติคล้ายแผ่นฟิล์มสำหรับการยึดเกาะของเม็ดสี ซึ่งหากเรานำมาใช้กับผิวหน้าย่อมทำให้เกิดการระคายเคืองได้อย่างแน่นอน ดังนั้น เปลี่ยนมาใช้อายไลเนอร์เพนท์แทนดีกว่า
น้ำยาเปลี่ยนสีผม หรือน้ำยาย้อมผมที่มีสีสันให้เลือกมากมายทำเอาใครหลายคนเข้าใจผิด คิดว่าสามารถนำไปผสมกับมาสคาร่าใช้ปัดเปลี่ยนสีขนคิ้ว หรือขนตาได้เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วไม่ได้อย่างเด็ดขาดนะจ๊ะ เพราะน้ำยาเปลี่ยนสีผมมีส่วนประกอบหลักคือ สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารฟอกสี สามารถเป็นอันตรายต่อผิวหน้าของเราได้ เช่น เกิดอาการผื่นคัน ผิวหน้าแห้งเป็นขุย หนาตัวขึ้น มีสีคล้ำลง หรือเป็นรอยด่างขาว ดังนั้น อย่าได้ลองนำไปใช้กับบริเวณใบหน้าเชียว โดยเฉพาะบริเวณขนคิ้ว และขนตา เพราะอาจทำให้ขนคิ้วเว้าแหว่งไป หรือ ขนตาหลุดร่วงไม่ขึ้นอีกเลย
ไม่ว่าสาว ๆ จะมีทักษะเมคอัพเป็นเลิศแค่ไหน ก็ไม่ควรจับอะไรมามิกซ์กันแบบมั่ว ๆ นะจ๊ะ แม้ว่าลองใช้แล้วจะเห็นผลดีก็เถอะ เพราะอย่าลืมว่าผิวหน้าของเราบอบบางกว่าผิวส่วนอื่น ๆ ดีไม่ดีเกิดพลาดเสียโฉมขึ้น จะไม่คุ้มเอานะ