กินฝรั่ง ช่วยชะลอวัย ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และประโยชน์ 33 ข้อ ที่รู้แล้วจะทึ่ง!


1,529 ผู้ชม

ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินสูงถึง 377 มิลลิกรัม ! มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า


กินฝรั่ง ช่วยชะลอวัย ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และประโยชน์ 33 ข้อ ที่รู้แล้วจะทึ่ง!

กินฝรั่ง ช่วยชะลอวัย ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และประโยชน์ 33 ข้อ ที่รู้แล้วจะทึ่ง!


ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินสูงถึง 377 มิลลิกรัม ! มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า
ฝรั่ง ชื่อสามัญ Guava ฝรั่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Psidium guajava Linn. จัดเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางและในหมู่เกาะอินดีสต์ตะวันตก และคาดว่ามีการนำเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยสายพันธุ์ในบ้านเราที่นิยมนำมารับประทานสดๆ ก็ได้แก่ฝรั่งกิมจู ฝรั่งเวียดนาม ฝรั่งแป้นสีทอง ฝรั่งไร้เมล็ด ฝรั่งกลมสาลี่ เป็นต้น

ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินสูงถึง 377 มิลลิกรัม ! มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า !
ฝรั่ง เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน ลดน้ำหนัก หรือผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากฝรั่งอุดมไปด้วยกากใยอาหาร เมื่อรับประทานแล้วจะทำให้อิ่มนาน ช่วยกำจัดท้องร้องอาการหิวที่คอยมากวนใจ เพราะกากใยจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ช่วยปรับระดับการใช้อินซูลินของร่างกายให้เหมาะสม และกากใยยังช่วยล้างพิษโดยรวบได้อีกด้วย จึงส่งผลทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใส
คำแนะนำ : การรับประทานฝรั่งไม่ควรจะปอกเปลือกทั้งนี้เพื่อคงคุณค่าของสารอาหาร และไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป ถ้าเป็นไปได้ไม่ควนรับประทานร่วมกับพริกเกลือน้ำตาลหรืออื่นๆ เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังทำให้เราอ้วนขึ้นอีกด้วย


คุณค่าทางโภชนาการของฝรั่งต่อ 165 กรัม
• พลังงาน 112 กิโลแคลอรีสรรพคุณของฝรั่ง
• เส้นใยอาหาร 8.9 กรัม 36%
• โปรตีน 4.2 กรัม 8%
• ไขมัน 1.6 กรัม 2%
• คาร์โบไฮเดรต 23.6 กรัม 8%
• วิตามินเอ 1030 IU 21%
• วิตามินซี 377 มิลลิกรัม 628%
• วิตามินบี1 0.1 มิลลิกรัม 7%
• วิตามินบี2 0.1 มิลลิกรัม 4%
• วิตามินบี3 1.8 มิลลิกรัม 9%
• กรดโฟลิก 81 ไมโครกรัม 20%
• ธาตุแคลเซียม 30 มิลลิกรัม 3%
• ธาตุฟอสฟอรัส 66 มิลลิกรัม 7%
• ธาตุเหล็ก 0.4 มิลลิกรัม 2%
• ธาตุโพแทสเซียม 688 มิลลิกรัม 20%
• ธาตุทองแดง 0.4 มิลลิกรัม 19%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่
ประโยชน์ของฝรั่ง 33 ข้อ 
1. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมากซึ่งช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยต่างๆได้ดี
2. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
3. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ปกป้องผิวหนังจากอนุมูลอิสระต่างๆ
4. เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน ลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก
5. ช่วยลดไขมันในเลือด
6. สรรพคุณของฝรั่งช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
7. ใช้รักษาโรคอหิวาตกโรค
8. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
9. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
10. ช่วยป้องกันอาการผิดปกติของหัวใจได้
11. ใบฝรั่งใช้ในการดับกลิ่นปาก ด้วยการนำใบสด 3-5 ใบมาเคี้ยวแล้วคายกากทิ้ง
12. ผลอ่อนช่วยบำรุงเหงือกและฝัน
13. ใบฝรั่งช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน เหงือกบวม
14. ประโยชน์ของฝรั่งช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิดหรือโรคเลือดออกตามไรฟันได้
15. รากใช้แก้อาการเลือดกำเดาไหล
16. น้ำต้มผลฝรั่งตากแห้ง ช่วยรักษาอาการเสียงแห้ง แก้คออักเสบ
17. น้ำต้มใบฝรั่งสดช่วยรักษาอาการท้องเสีย ป้องกันโรคลำไส้อักเสบ
18. ใบช่วยรักษาอาการท้องเดิน ท้องร่วง
19. ชาที่ทำจากใบอ่อนใช้สำหรับรักษาโรคบิด
20. ผลสุกใช้ทานเป็นยาระบาย แก้อาการท้องผูก
21. ช่วยล้างพิษโดยรวมในร่างกาย
22. ใบช่วยแก้อาการปวดเนื่องจากเล็บขบ
23. ใช้ทาแก้ผื่นคัน แผลพุพองได้
24. ใบใช้แก้แพ้ยุง
25. ใบฝรั่งใช้รักษาบาดแผล
26. ใบใช้เป็นยาล้างแผล ดูดหนอง ถอนพิษบาดแผล แก้พิษเรื้อรัง น้ำกัดเท้า
27. รากใช้แก้น้ำเหลืองสี เป็นฝี แผลพุพอง
28. ใช้ในการห้ามเลือด ด้วยการใช้ใบมาตำให้ละเอียดแล้วนำมาพอกบริเวณที่มีเลือดออก (ควรล้างใบให้สะอาดก่อน)
29. ช่วยในการดับกลิ่นสาบจากแมลงและซากหนูที่ตาย ด้วยการใช้ฝรั่งสุก 2-3 ลูกวางทิ้งไว้ในรัศมีของกลิ่น กลิ่นดังกล่าวก็จะค่อยๆหายไป
30. การรับประทานฝรั่งจะช่วยขจัดคราบอาหารบนตัวฟันได้
31. เปลือกของต้นฝรั่งนำมาใช้ทำสีย้อมผ้า
32. นิยมนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ฝรั่งดอง ฝรั่งแช่บ๊วย พายฝรั่ง และขนมอีกหลากหลายชนิด
33. นำมาใช้ทำเป็นยาแคปซูลแก้ท้องเสียจากใบฝรั่ง ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ซึ่งบรรจุแคปซูลละ 250 มิลลิกรัม
แหล่งอ้างอิง : greenerald.com

อัพเดทล่าสุด