รีบดูก่อนสาย !! จงเข้าใจซะใหม่ “เลือดล้างหน้าเด็ก” สัญญาณเตือนอันตราย “ถ้าป้องกันไม่ดี” ระวังจะท้องไม่รู้ตัว !!

วันนี้เรา ก็มีเกล็ดความรู้มาให้ทุกคน  ได้ดูกันอีกแล้ว เชื่อว่าทุกคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า เลือดล้างหน้าเด็ก กันมาบ้างแล้ว แต่บางคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจว่าความหมายของเลือดล้างหน้าเด็กนั้นแท้จริงแล้วมันคืออาการของอะไร เดียววันนี้เราจะมาบอกให้ได้กระจ่างเลย

วันนี้เรา ก็มีเกล็ดความรู้มาให้ทุกคน  ได้ดูกันอีกแล้ว เชื่อว่าทุกคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า เลือดล้างหน้าเด็ก กันมาบ้างแล้ว แต่บางคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจว่าความหมายของเลือดล้างหน้าเด็กนั้นแท้จริงแล้วมันคืออาการของอะไร เดียววันนี้เราจะมาบอกให้ได้กระจ่างเลย

ผู้หญิงหลายคนอาจตกใจ เมื่อพบเลือดออกมาจากช่องคลอด เป็นสีจาง ๆ แค่ออกมาพอเปื้อนกางเกงใน แต่ไม่มีอาการปวดท้อง หรืออารมณ์หงุดหงิดเหมือนตอนประจำเดือนหน้า และหลังจากนั้นก็จะพบว่าประจำเดือนขาดไป ลักษณะนี้แหละเรียกว่า “เลือดล้างหน้า” หรือ “เลือดล้างหน้าเด็ก” ที่แสดงว่าคุณกำลังจะได้เป็นแม่คนแล้วนั่นเอง

เลือดล้างหน้า รู้จักไหม? ใช่สัญญาณเตือนว่าจะเป็นแม่คนหรือเปล่า?

สังเกตชัด ๆ เลือดล้างหน้า หรือ “เลือดล้างหน้าเด็ก” เลือดสีจาง ๆ ไม่แดงช้ำเหมือนประจำเดือน และออกมานิดหน่อยทางช่องคลอด ซึ่งจะออกก่อนประมาณ 1 สัปดาห์หรือใกล้เคียงกับวันที่ประจำเดือนรอบถัดไปจะมา โดยทั่วไปเราอาจจะไม่สนใจหรือไม่ค่อยรู้ตัว และจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นสำหรับผู้หญิงบางราย เป็นสัญญาณได้ว่ามีการตั้งครรภ์นั่นเอง ในคุณแม่ที่ไม่มั่นใจว่าเป็นเลือดล้างหน้าเด็กหรือเลือดประจำเดือน เพื่อให้แน่ใจให้รออีก 1 สัปดาห์ และลองตรวจด้วยชุดตั้งครรภ์ หากผลออกมาว่าตั้งครรภ์ แสดงว่าเลือดที่ออกมาก่อนหน้าก็คือ เลือดล้างหน้านั่นเอง

เมื่อเลือดล้างหน้าออกแล้วต้องทำยังไง?

ว่าที่คุณแม่ไม่ต้องกังวลอะไรมาก การที่เลือดล้างหน้าออกนั่นไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองและลูกในครรภ์ ไม่มีผลทำให้ทารกพิการแต่อย่างใด เพราะเลือดที่ออกมานั้นมีปริมาณน้อยมาก ๆ ไม่ใช่การแท้งลูก แต่เมื่อเริ่มรู้ตัวว่ากำลังจะเป็นแม่คน ควรเริ่มดูแลตัวเองให้มากกว่าปกติ หลีกเลี่ยงการเดินมาก ๆ รวมถึงการทำงานหรือการยกของหนัก นอนพักผ่อนให้เพียงพอ

หากสงสัยว่าเลือดที่ออกและประจำเดือนไม่มาตามกำหนด จะเป็นการตั้งครรภ์หรือไม่ การตรวจปัสสาวะด้วยการใช้แถบทดสอบการตั้งครรภ์ในครั้งแรก อาจพบเป็นแถบสีจาง ๆ ไม่ชัด หรือยังไม่สามารถตรวจว่าเป็นการตั้งครรภ์ได้ เป็นเพราะว่าปริมาณของฮอร์โมนดังกล่าวในปัสสาวะยังมีน้อยอยู่ จึงควรรออีกประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อตรวจปัสสาวะซ้ำอีกครั้ง หรือสังเกตว่าตัวเองเริ่มมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ก็แสดงว่าเริ่มตั้งครรภ์ และควรไปพบคุณหมอเพื่อยืนยันผลการตั้งครรภ์อีกครั้งนะ