ทารกหลังคลอด เมื่อคลอดออกมาแล้ว จำเป็นต้องปรับตัวหลายอย่าง เพื่อให้สามารถเข้ากับสภาพแวดล้อมภายนอกท้องของคุณแม่ให้ได้ เหมือนกับว่าคลอดออกมาแล้วก็ต้องหาวิธีปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ตามสัญชาตญาณของมนุษย์ทุกคนนั่นเอง ซึ่งถือเป็นพัฒนาการของทารกแรกเกิดที่สำคัญมากอีกด้วยค่ะ
ทารกหลังคลอด เมื่อคลอดออกมาแล้ว จำเป็นต้องปรับตัวหลายอย่าง เพื่อให้สามารถเข้ากับสภาพแวดล้อมภายนอกท้องของคุณแม่ให้ได้ เหมือนกับว่าคลอดออกมาแล้วก็ต้องหาวิธีปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ตามสัญชาตญาณของมนุษย์ทุกคนนั่นเอง ซึ่งถือเป็นพัฒนาการของทารกแรกเกิดที่สำคัญมากอีกด้วยค่ะ
การปรับตัวของ ทารกหลังคลอด มีดังนี้
1.การหายใจ
ทารกหลังคลอด จะเริ่มหายใจเองได้ทันที เมื่อดูแล้วไม่มีภาวะผิดปกติ ทารกจะร้อง และเริ่มหายใจเองได้ ทารกบางคนอาจจะมีอัตราการหายใจช้าหรือเร็วแตกต่างไม่เหมือนกัน แต่ถ้าดูแล้วหายใจติดขัด หรือไม่ค่อยร้อง อาจเกิดจากการที่เด็กสำลักขี้เทาหรือมีอาการผิดปกติทางระบบทางเดินหายใจ ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที
2.ดวงตา
ทารกแรกคลอดโดยปกติแล้วทารกจะลืมตาหลับตาได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง แต่เมื่อออกมาอยู่ในสภาพแวดล้อมด้านนอก ทารกอาจจะยังไม่ลืมตาทันที จะกระพริบตา และหรี่ตาเมื่อเจอแสง เด็กบางคนอาจลืมตาได้เลยภายใน 1 ชั่วโมง แต่เด็กบางคนอาจใช้เวลาเป็นวันกว่าจะลืมตาได้ ช่วงแรก ๆ ควรหรี่ไฟในห้องพักให้แสงอ่อน ๆ ก่อนจนกว่าทารกจะชินกับแสงภายนอกค่ะ
3.การได้ยิน
ปกติแล้วทารกจะได้ยินเสียงจากภายนอกตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่ แต่เมื่อออกมาจะได้ยินเสียงดังชัดเจนขึ้น จนบางทีอาจทำให้ทารกมีอาการผวา หรือรู้สึกหวาดกลัว แต่เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เมื่อนานวันเข้า เด็กทารกจะจำเสียงพ่อแม่ที่พูดคุยกันได้และจะเริ่มจำเสียงที่คุ้นเคยได้ การเปิดเพลงให้ลูกฟังเพื่อขับกล่อมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เด็กทารกผ่อนคลายอาการตื่นกลัวได้ค่ะ
4.อาหาร
ปกติตอนอยู่ในครรภ์ทารกจะได้รับสารอาหารจากแม่ผ่านทางสายสะดือไปสู่ตัวลูก แต่เมื่อคลอดออกมาแล้วทารกสามารถรับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ได้โดยตรง สิ่งที่ทารกต้องการที่สุดคือ นมแม่ ดังนั้นหลังคลอดคุณแม่ควรเลือกทานอาหารที่ดี และมีประโยชน์เพื่อช่วยให้น้ำนมไหลดีขึ้น เด็กทารกจะหิวทุก ๆ 3 ชั่วโมง ดังนั้นคุณแม่ก็ควรได้รับสารอาหารที่ดีและเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อยเช่นกันค่ะ
ขอบคุณที่มา : www.maerakluke.com