ไม่น่าเชื่อ! แค่ของใกล้ตัว 12 อย่างนี้ก็รักษาแผลพุพองจากน้ำมันลวกแขน หายแสบร้อน-ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น


7,374 ผู้ชม


ไม่น่าเชื่อ! แค่ของใกล้ตัว 12 อย่างนี้ก็รักษาแผลพุพองจากน้ำมันลวกแขน หายแสบร้อน-ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น

ไม่น่าเชื่อ! แค่ของใกล้ตัว 12 อย่างนี้ก็รักษาแผลพุพองจากน้ำมันลวกแขน หายแสบร้อน-ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
คนที่เข้าครัวบ่อยๆ ควรอ่าน! หากถูกน้ำมันร้อนๆ กระเด็นโดนผิวหนังควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยอะไรบ้าง รู้หรือไม่? มันมีถึง 12 วิธีจากสิ่งของใกล้ตัวเชียวนะ ของบางอย่างก็ง่ายมากๆ ใกล้ตัวมากๆ จนคุณคาดไม่ถึงเลย!
1. ล้างแผลกับน้ำเย็น
เมื่อโดนน้ำมันลวกให้รีบล้างแผลด้วยน้ำเย็น (ที่ไม่ใส่น้ำแข็ง) ภายใน 5 นาที น้ำเย็นจะช่วยลดอุณหภูมิที่ผิวและช่วยป้องกันอาการผิวหนังพุพองได้ 
2. แช่แผลกับนมสดเย็น
กับแผลน้ำมันลวกที่แสบร้อนมาก ๆ อาจใช้นมสดเย็นบรรเทาอาการแสบร้อนของผิวก็ได้นะคะ โดยแช่แผลกับนมสดเย็นประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าอาการจะทุเลาลง นมนั้นมีโปรตีนและไขมันสูง ซึ่งจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวได้โดยทันที จึงลดอาการปวดแสบปวดร้อนได้ในระดับหนึ่ง
3. โยเกิร์ตก็ช่วยได้
ไม่ได้มีดีแค่พอกหน้าให้สวยเท่านั้นค่ะ เพราะโยเกิร์ตแช่เย็นสามารถนำมาพอกผิวลดความแสบร้อนจากการโดนน้ำมันลวกแขนหรือมือได้ เนื่องจากโยเกิร์ตก็มีโปรตีนและแร่ธาตุหลากชนิด ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวได้ทันทีไม่ต่างจากนมสดเลย ดังนั้นหลังจากล้างแผลกับน้ำเย็นจนสะอาดแล้ว จัดการโบกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ (แช่เย็นยิ่งดี) ลงไปบนแผลได้เลย
4. ประคบด้วยแตงกวา
หลังจากล้างแผลด้วยน้ำเย็นเรียบร้อยแล้วใครมีแตงกวาแช่เย็นให้รีบหั่นเป็นแว่น ๆ แล้วนำมาประคบแผลน้ำมันลวกโดยทันที ให้น้ำในแตงกวา วิตามินซี และวิตามินเคช่วยลดอาการอักเสบ อีกทั้งในแตงกวายังมีกรดแพนโทเทนิก (pantothenic acid) ตัวช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ลดอาการแสบร้อนและอาการตึงผิวที่โดนน้ำมันลวกได้
5. พอกว่านหางจระเข้
ให้ใช้ว่านหางจระเข้ สมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนผิว และรักษาแผลน้ำมันลวก น้ำร้อนลวก แผลพุพองจากไฟไหม้ โดยเริ่มแรกให้ล้างแผลน้ำมันลวกกับน้ำเย็นจนสะอาด จากนั้นนำวุ้นสดจากใบว่านหางจระเข้ไปล้าง ก่อนนำมาพอกแผลที่ถูกน้ำมันลวก ประคบแผลในช่วง 2 วันแรก อาการแสบร้อนเพราะน้ำมันลวกจะบรรเทาลง และแผลจะสมานกันเร็วขึ้น ที่สำคัญแผลอาจไม่ทิ้งรอยแผลเป็นอีกด้วยนะคะ อ้อ ! แต่หากหาว่านหางจระเข้สด ๆ ไม่ได้ อาจใช้เจลว่านหางจระเข้แทนก็ได้เช่นกันค่ะ
6. เช็ดแผลด้วยน้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูจะมีความเย็นอยู่ในตัว และยังมีกรดอะซิติกซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของยาแอสไพริน จึงช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนจากแผลอักเสบได้ ที่สำคัญน้ำส้มสายชูยังจัดเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่จะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแผลติดเชื้อได้อีกด้วย ดังนั้นหลังจากล้างแผลกับน้ำสะอาดแล้ว ให้ใช้สำลีชุบน้ำส้มสายชูชุ่ม ๆ แล้วนำมาเช็ดแผลซ้ำอีกที
7. ลดอาการแสบร้อนด้วยถุงชาดำ
นำถุงชาไปแช่น้ำเย็นสักพัก จากนั้นนำถุงชามาวางโปะลงไปบนแผลที่ถูกน้ำมันลวก สารแทนนินจากชาดำจะช่วยลดความร้อนจากแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้ เมื่อประคบถุงชาสักพักแล้วจึงจะรู้สึกได้ว่าอาการแสบร้อนทุเลาลง แต่ก่อนจะใช้สูตรนี้ แนะนำให้ล้างแผลกับน้ำเย็นทันทีที่โดนน้ำมันลวกก่อนนะคะ
8. เปลือกกล้วยช่วยสมานแผล
เปลือกกล้วยอุดมไปด้วยเอนไซม์ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ และแร่ธาตุต่าง ๆ จึงช่วยให้แผลน้ำมันลวกหายเร็วขึ้นได้ เพียงนำเปลือกกล้วยไปล้างยางออกให้หมด จากนั้นค่อย ๆ ถูเปลือกกล้วยไปรอบ ๆ ปากแผล หรือใครจะโปะเปลือกกล้วยด้านในลงไปบนแผลเลยก็ได้ค่ะ นอกจากนี้เปลือกกล้วยยังมีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อให้แผลได้อีกนะ เจ๋งสุด ๆ อะ
9. นวดน้ำผึ้ง+ผงขมิ้นชัน
ทั้งน้ำผึ้งและขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบ และช่วยสมานแผลอักเสบได้ ดังนั้นหากแผลน้ำมันลวกของคุณยังแสบ ๆ ตึง ๆ อยู่ ให้ผสมน้ำผึ้งและขมิ้นชันชนิดผงในสัดส่วนเท่า ๆ กัน แล้วนำมาเป็นน้ำมันนวดผิวที่ถูกน้ำมันลวกทุกเช้า-เย็น
10. ทาน้ำมันมะกอกป้องกันแผลเป็น
หลังจากอาการแสบร้อนจากแผลน้ำมันลวกบางเบาลงแล้ว ให้ทาน้ำมันมะกอกบริเวณผิวที่เป็นแผลทุกวันหลังอาบน้ำ น้ำมันมะกอกจะช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นได้ หรือใครสะดวกใช้น้ำมันลาเวนเดอร์ก็ใช้แทนกันได้นะคะ
11. น้ำมันมะพร้าวช่วยลดรอยดำจากน้ำมันกระเด็น
หากแผลน้ำมันลวกทิ้งรอยด่างดำไว้ให้ดูต่างหน้า ให้ผสมน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมะนาวในปริมาณเท่า ๆ กัน แล้วนำมาทารอยดำจากน้ำมันกระเด็นทุกเช้า-เย็น วิตามินอีและกรดไขมันจากน้ำมันมะพร้าว พร้อมด้วยวิตามินซีจากมะนาวจะช่วยลบเลือนรอยดำจากน้ำมันกระเด็นให้ได้
12. ทายาบรรเทาอาการ
ในกรณีที่แผลน้ำมันลวกพุพองหรือหลุดลอก อาจใช้ยารักษาอาการก็ได้ โดยล้างแผลให้สะอาด ซับให้แห้ง แล้วทายาชนิดครีมไตรแอมซิโนโลนบาง ๆ เพื่อรักษาอาการแผลพุพอง แผลไหม้
อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญของการรักษาน้ำมันลวกแขนก็อยู่ที่ความเร็วในการบรรเทาอาการตั้งแต่ที่โดนลวกระยะแรก ๆ นะ ฉะนั้นหากโดนน้ำมันลวกก็ขอให้มีสติ และรีบล้างแผลกับน้ำเย็นเพื่อบรรเทาความแสบร้อนก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นสะดวกเลือกวิธีบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนสูตรไหนต่อ ก็เลือกได้ตามสบายเลย

ที่มา:   share-si.com


อัพเดทล่าสุด