ต้นหอม หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กุ้ยช่าย (Allium Schoenoprasum) เป็นพืชที่มีกลิ่นหอม ที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต ส่งเสริมการลดน้ำหนัก
ต้นหอม คือ ยาอายุวัฒนะ รู้หรือเปล่า?
ต้นหอม หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กุ้ยช่าย (Allium Schoenoprasum) เป็นพืชที่มีกลิ่นหอม ที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต ส่งเสริมการลดน้ำหนัก รักษาสุขภาพดวงตา ป้องกันการแก่ก่อนวัย และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้นหอมมีสารซาโปนิน เบตาแคโรทีน ไฟเบอร์ และวิตามินซีในปริมาณที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นสารอาหารและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดความอิ่ม และต้านการอักเสบ ต้นหอมมักจะขายเป็นมัด โดยนำมาเดี่ยวๆ หรือรวมกับผักชีฝรั่ง หรือผักชี และสามารถรับประทานดิบๆ หรือปรุงเป็นเครื่องปรุงรส ในซุป ไข่เจียว ซอส หรือข้าวก็ได้
ต้นหอมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีดังนี้ :-
1. การควบคุมความดันโลหิต
เนื่องจาก มีโพแทสเซียม ต้นหอมจึงสามารถกระตุ้นการขยายหลอดเลือดแดง ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดแดงคลายตัว และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยควบคุมความดันโลหิต นอกจากนี้ โพแทสเซียมที่มีอยู่ในต้นหอม ยังช่วยขจัดโซเดียมส่วนเกิน ที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดผ่านทางปัสสาวะอีกด้วย
2. ส่งเสริมการลดน้ำหนัก
ต้นหอมช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะมีไฟเบอร์สูง ทำให้ย่อยอาหารในกระเพาะได้เร็วขึ้น ทำให้คุณอิ่มระหว่างมื้ออาหารและลดการกินมากเกินไป อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าจะลดน้ำหนักได้ ควรทานต้นหอมเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี และกระตือรือร้น พร้อมทั้งรับประทานอาหารที่เพียงพอ
3. ป้องกันการแก่ก่อนวัย
ต้นหอมมีเบตาแคโรทีน วิตามินเอ ลูทีน และซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารอาหารและแคโรทีนอยด์ ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระและรังสียูวีจากแสงแดด ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย
เนื่องจาก ต้นหอมอุดมไปด้วยวิตามินซี พืชที่มีกลิ่นหอมชนิดนี้ จึงมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการรักษาความนุ่มนวลและความยืดหยุ่นของผิว
4. การจัดการอาการท้องผูก
ต้นหอมมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ และกระตุ้นการขับถ่ายตามธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้ขับถ่ายได้ปกติและช่วยป้องกันอาการท้องผูก
5. ลดระดับคอเลสเตอรอล LDL
ต้นหอมอุดมไปด้วยสารอาหาร และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์ ซาโปนิน เบตาแคโรทีน และวิตามินซี ดังนั้น จึงสามารถยับยั้งการเกิดออกซิเดชันของเซลล์ไขมัน และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL ในเลือด
ด้วยเหตุนี้ ต้นหอมจึงเป็นทางเลือกที่ดี ในการช่วยป้องกันการเกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคอเลสเตอรอลสูง เช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง
6. การดูแลรักษาสุขภาพดวงตา
ต้นหอมช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตาให้แข็งแรง เนื่องจากมีลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นแคโรทีนอยด์ ที่สะสมอยู่ในจอประสาทตาและปกป้องดวงตาจากความเสียหาย ที่เกิดจากรังสียูวีจากดวงอาทิตย์และแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือ
ดังนั้น ต้นหอมจึงช่วยป้องกันต้อกระจก และภาวะจอประสาทตาเสื่อมตามวัย ซึ่งเป็นโรคที่ค่อยๆ แย่ลงจนอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้
7. การป้องกันโรคเบาหวาน
ต้นหอมมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตจากอาหาร ไฟเบอร์นี้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยป้องกันภาวะดื้อต่ออินซูลินและโรคเบาหวานได้
8. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ต้นหอมอุดมไปด้วยวิตามินซี ฟลาโวนอยด์ และเบตาแคโรทีน จึงช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน อื่นๆ ที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปในอาหารของคุณได้
9. การป้องกันโรคกระดูกพรุน
ต้นหอมยังอุดมไปด้วยวิตามินเค ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลิตออสเตโอแคลซิน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ สะสมแคลเซียมในกระดูก ดังนั้น จึงสามารถรับประทานต้นหอม เพื่อรักษาสุขภาพกระดูกและป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้วิตามินเคช่วยปรับปรุงสุขภาพกระดูก การได้รับแคลเซียมจากอาหารอย่างเพียงพ อก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
10. การรักษาโรคโลหิตจาง
ต้นหอมช่วยต่อสู้กับโรคโลหิตจางได้ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการดูดซับธาตุเหล็กในอาหาร จึงช่วยในการสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย และโดยปกติแล้วจะลดลงในโรคโลหิตจาง