ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : การออกเสียงภาษาญี่ปุ่น


1,163 ผู้ชม

การออกเสียงภาษาญี่ปุ่น


การออกเสียงภาษาญี่ปุ่น

ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : การออกเสียงภาษาญี่ปุ่น

การออกเสียงภาษาญี่ปุ่น

ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : การออกเสียงภาษาญี่ปุ่นอักษรภาษาญี่ปุ่น
ภาษาญี่ปุ่นจะเขียนด้วยตัวอักษร 3ชนิดได้แก่
    -คันจิ คืออักษรจีนซึ่งญี่ปุ่นรับเข้ามาโดยปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เป็นอักษรที่มีความหมายในตัวเอง
    -ฮิรางานะ คืออักษรที่ญี่ปุ่นประดิษฐ์ขึ้นเองโดยการนำคันจิมาเขียนให้ง่ายขึ้นใช้เขียนคำศัพท์ทั่วไป
    -คาตากานะ คืออักษรที่ญี่ปุ่นประดิษฐ์ขึ้นเองโดยได้ดัดแปลงเอามาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของ อักษรคันจิใช้เขียนทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ


วิธีการออกเสียงภาษาญี่ปุ่น
    -เสียงอักษรพื้นฐานอักษรพื้นฐานในภาษาญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 10วรรค วรรคละ 5ตัวกับเศษอีก 1ตัว แต่เลิกใช้แล้ว 5ตัว จึงเหลือเพียง 46ตัว
    -การออกเสียงสระ a,i,u,e,oภาษาญี่ปุ่นมีเสียงสระอยู่ 5เสียงคือ a ออกเสียงใกล้เคียงกับ อะ, i ใกล้เคียงกับ อิ,u ใกล้เคียงกับอึหรือ อุ,e ใกล้เคียงกับโอะ
    -การออกเสียงพยัญชนะ k-k-ออกเสียงใกล้เคียงกับ ค เมื่ออยู่ในพยางค์ต้น และออกเสียงใกล้เคียงกับ ก เมื่ออยู่ในพยางค์อื่นๆ
    -การออกเสียงพยัญชนะ s-,sh-s- ออกเสียงใกล้เคียงกับ ซ หรือ ส ส่วน sh-นั้นเป็นเสียงที่ไม่มีในภาษาไทยให้ออกเสียงเช่นเดียวกับใน ภาษาอังกฤษ คือ ออกเสียงในขณะที่ปล่อยลมหายใจออกมาจากช่องระหว่างลิ้นกับเพดานปากโดยมิให้ปลายลิ้นแตะเพดานปาก อนึ่ง ขอให้สังเกตว่าในภาษาญี่ปุ่นไม่มีเสียง si มีแต่เสียง shi
    -การออกเสียงพยัญชนะ t-,ch-,ts-t-ออกเสียงใกล้เคียงกับ ท เมื่ออยู่ในพยางค์ต้นและออกเสียงใกล้เคียงกับ ต เมื่ออยู่ในพยางค์อื่นๆ ch-ออกเสียงโดยให้ปลายลิ้นแตะปุ่มเหงือกหรือด้านหลังของฟันบนเสียก่อนแล้วจึงปล่อยลมหายใจออกในขณะที่ปล่อยลิ้น ts-เป็นเสียงที่ค่อน ข้างยาก เพราะไม่มีเสียงคล้ายทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ออกเสียงโดยให้ปลายลิ้นแตะปุ่มเหงือก หรือด้านหลังของฟันบนเสียก่อน แล้วปล่อยลมหายใจออกในขณะที่ปล่อยลิ้น อนึ่งขอให้สังเกตว่าในภาษาญี่ปุ่นไม่มีเสียง ti- หรือ tu มีแต่เสียง chi กับ tsu
    -การออกเสียงพยัญชนะ h-และ f-h-เหมือนกับ ฮ หรือ ห เมื่อผสมกับสระu เขียนว่า fuและออกเสียงในขณะที่เม้มริมฝีปากและปล่อย ลมหายใจออกมา โดยไม่กัดริมฝีปากเหมือน ฟ ในภาษาไทย
    -การออกเสียงพยัญชนะ m-,n-เหมือนกับ ม และ น ตามลำดับ
    -การออกเสียงพยัญชนะ r-ออกเสียงเหมือน ล
    -การออกเสียงพยัญชนะ w-ออกเสียงเหมือนกับ ว แต่ในปัจจุบันนี้ ผสมกับสระ a เท่านั้น
    -การออกเสียงพยัญชนะ y-y- เป็นเสียงที่ใกล้เคียงกับ ย แต่ผสมกับ a,u,o เท่านั้น คือ ya,yu,yo
    -การออกเสียงตัวสะกด nn ที่เขียนไว้ท้ายสุดในตารางนั้น เป็นตัวสะกดได้อย่างเดียวเท่านั้น อาจออกเสียงเป็น ม น หรือ ง ก็ได้ แล้วแต่เสียงที่ตามมา
 

    -เสียงขุ่น[daku-on] และเสียงกึ่งขุ่น[handaku-on]เสียงพื้นฐาน 46 เสียงที่ได้กล่าวไปแล้วนั้นในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า sei-on นอกจาก sei-on ยังมีเสียงที่เรียกว่า daku-on(เสียงขุ่น) ซึ่งได้แก่เสียง ในวรรค ga,za,da,ba และ handaku-on (เสียงกี่งขุ่น)ซึ่งได้แก่เสียงในวรรค pa โดยเสียง ทั้งสองประเภทนี้มีฐานเสียงใกล้เคียงกับเสียงพื้นฐาน
    -การออกเสียงพยัญชนะ g-เสียงนี้ไม่มีในภาษาไทย เมื่ออยู่ในพยางค์ต้นของคำจะออกเสียงเหมือนกับ g-goodในภาษาอังกฤษหากเป็น พยางค์อื่นๆจะออกเสียง ง
    -การออกเสียงพยัญชนะ z-เป็นเสียงที่ไม่มีในภาษาไทย ให้ออกเสียงเหมือนกับ z ในภาษาอังกฤษ ซึ่งตำแหน่งของลิ้นจอยู่ที่เดียวกัน กับเวลาออกเสียง s แต่ทำให้เสียงสั่นรัว
    -การออกเสียงพยัญชนะ j-เป็นเสียงที่ไม่มีในภาษาไทย เวลาออกเสียงพยัญชนะตัวนี้ ตำแหน่งของลิ้นจะอยู่ที่เดียวกันกับเมื่อออกเสียง sh- คือออกเสียงในขณะที่ปล่อยลมหายใจออกมาจากช่องระหว่างลิ้นกับเพดานปาก โดยมิให้ปลายลิ้นแตะเพดานปากและทำให้เสียงสั่นรัว ในขณะที่ออกเสียง
    -การออกเสียงพยัญชนะ d-ออกเสียงเหมือนกับ ด ภาษาญี่ปุ่นไม่มีเสียง di- และ du- มีแต่เสียง ji และ zu
    -การออกเสียงพยัญชนะ b-,p-b- เหมือนกับ บ ส่วน p- ใกล้เคียงกับ พ หรือ ป
    -เสียงควบเสียงควบ คือเสียงที่เกิดจากเสียงในช่องที่ 2( สระ i) ของเสียงพื้นฐาน,เสียงขุ่น และ เสียงกึ่งขุ่น ได้แก่
ki,gi,shi,ji,chi,ni,hi,bi,pi,mi,ri ผสมกับเสียง ya,yu,yo แล้วออกเสียงควบเป็นพยางค์เดียวกัน
    -พยางค์และจังหวะเมื่อจะออกเสียงภาษาญี่ปุ่น ควรจะรู้ว่าแต่ละพยางค์ในภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงเป็นกี่จังหวะ เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ ขอให้นักเรียนฝึกการออกเสียงรัสสระ (สระเสียงสั้น)และทีฆสระ(สระเสียงยาว)รวมทั้งอักษรควบให้ดี
    1)รัสสระและทีฆสระ รัสสระเขียนเป็นอักษรโรมันว่า a,i.u,e,oส่วนทีฆสระให้เขียนรัสสระเรียงกันสองตัวดังนี้ aa,ii,uu,ei,ouรัส สระออกเสียงเป็น 1จังหวะ ส่วนทีฆสระออกเสียงเป็น 2 จังหวะ สำหรับเสียง ei และ ooก็ให้ออกเสียงว่า ee,ooตามลำดับและมีความยาว 2จังหวะเช่นเดียวกัน เช่นto-ke-i.(นาฬิกา) 3จังหวะ,to-o-ke-i.(สถิติ)4จังหวะ
    2)พยัญชนะซ้อนในภาษาญี่ปุ่นไม่มีตัวสะกด(ยกเว้นn) และพยัญชนะซ้อนเหมือนในภาษาไทย แต่บางครั้งก็มีเสียง –kk-,-ss-,-ssh-,-tt-,-tch-,-pp- อยู่ระหว่าง 2พยางค์ ในกรณีนี้ให้ออกเสียง-k,-s,-t,-pฯลฯโดยทิ้งช่วงเวลาไว้ประมาณ 1จังหวะ
    3)ตัวสะกด –nตัวสะกด –nนี้ออกเสียงได้ 3 อย่างตามชนิดของเสียงที่ตามมาข้างหลัง ในการออกเสียงให้ทิ้งช่วงเวลาไว้ประมาณ 1จังหวะเช่นกัน

    ๑)ออกเสียงเป็น ม เมื่อตามด้วยเสียงที่หุบปากคือ m,p,b เช่น e-n-pi-tsu (ดินสอ)4 จังหวะ
    ๒)ออกเสียงเป็น น เมื่อตามด้วยเสียงที่ใช้ลิ้น เช่น n,t,d,j,s เช่น ho-n-to-o(ความจริง) 4 จังหวะ
    ๓)ออกเสียงเป็น ง เมื่อตามด้วยเสียงk,g,h,y,w หรือเสียงสระ เช่น gi-n-ko-o (ธนาคาร)4 จังหวะ
ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : การออกเสียงภาษาญี่ปุ่นการเน้นเสียงสูงต่ำ
การเน้นเสียงสูงต่ำในภาษาญี่ปุ่น แตกต่างจากวรรณยุกต์ในภาษาไทยหรือการเน้นเสียงหนักเบาในภาษาอังกฤษแต่หมาย ความถึงเสียงสูงต่ำของแต่ละพยางค์ เช่นคำว่า kita ถ้าอ่านว่าคิตะ โดยให้ ki เป็นเสียงสูง ก็จะแปลว่า มาแล้ว แต่ถ้าอ่าน ขิต๊ะ โดยให้ taเป็นเสียงสูง ก็จะแปลว่า ทิศเหนือ เป็นต้น
ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : การออกเสียงภาษาญี่ปุ่นการละเสียงสระ
สระ i.u.เมื่ออยู่ระหว่างพยัญชนะ k-,s-,sh-,ts-,ch-,h-,เกือบจะไม่ออกเสียงเลย แต่เวลาเขียนต้องคงไว้

 

ภาษาญี่ปุ่น , เรียนภาษาญี่ปุ่น , ภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้น , ภาษาญี่ปุ่น การออกเสียง , การออกเสียงภาษาญี่ปุ่น , ภาษาญี่ปุ่น การเน้นเสียงสูงต่ำ , ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น

ที่มา www.arukithai.com

อัพเดทล่าสุด