มันเป็นไปได้อย่างไร ลองตามไปดู
“ซุปเปอร์ซิ้ม” สู่ “ซุปเปอร์วูแมน” ทำได้อย่างไร
มันเป็นไปได้อย่างไร ลองตามไปดู ผู้เขียนได้เคยรู้จักและเคยอบรมกับคุณสิริลักษณ์ ตันศิริ
รู้สึกประทับใจและได้ข้อคิดอะไรมากมายในการดำเนินชีวิต พอดีได้มีโอกาสท่องเว็บเลยเก็บมาบอกกล่าว เพราะเห็นว่าเป็นชีวิตที่น่าสนใจ ทุกๆ คนมีและสามารถเป็นได้ทุกคนมียักษ์ในตัวเองอย่างไร จะปลุกขึ้นมาใช้ได้อย่างไร ลองอ่านดูบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้นะคะ
บทสัมภาษณ์คอลัมน์ “CEO Record” – หนังสือพิมพ์เส้นทางนักขาย
สิริลักษณ์ ตันศิริ
จาก “ซุปเปอร์ซิ้ม” สู่ “ซุปเปอร์วูแมน”
นักโมติเวทหญิงคนแรกของไทยผู้สร้างปรากฏการณ์ “ปลุกยักษ์”
โปรย “ให้เชื่อมั่นว่า คุณสามารถทำได้ทุกอย่างที่คุณอยากจะทำ คุณสามารถมีได้ทุกอย่างที่คุณอยากจะมี และคุณก็สามารถเป็นได้ทุกอย่างที่คุณอยากจะเป็น ถ้าคุณมีความปรารถนาที่แรงกล้าและลงมือทำมากเพียงพอ!”
“ยักษ์”คืออะไร?
“ยักษ์” คือ ศักยภาพ ความสามารถ พลังชีวิต พลังจิตใต้สำนึก มันคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ที่สุดที่อยู่ในตัวของเราเอง .. ในความเป็นจริงแล้วเรามีศักยภาพมหาศาล แต่เราไม่เคยเอามันออกมาใช้ เหมือนกับเรามีกล้ามเนื้อแต่ไม่ค่อยได้ฝึก กล้ามเนื้อของเราจึงไม่แข็งแรงแบบแรมโบ้ ถ้าเราฝึกบ่อยๆ กล้ามเนื้อเราก็แข็งแรงแบบแรมโบ้ได้ ดังนั้นถ้าเราฝึกนำศักยภาพของตัวเองมาใช้บ่อยๆเราก็จะเก่งเหมือนอย่างที่คนอื่นๆเขาเก่งเช่นกัน
นี่คือประโยคหนึ่งที่ “สิริลักษณ์ ตันศิริ” กล่าวถึง “พลัง” ที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน หลายคนที่เคยเข้าร่วมฟังสัมมนา “ปลุกยักษ์” ก็จะเข้าใจและรู้จักเธอเป็นอย่างดี ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้จะมีชีวิตที่ “พลิกผัน” จากผู้จัดการฝ่ายบัญชีที่มีบุคลิกเรียบร้อย พูดน้อย แต่งตัวเฉิ่มเชย และอยู่ใน “โลกแคบ” จนได้ฉายา “ซุปเปอร์ซิ้ม” จะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความเชื่อมั่นจนกลายเป็น “ซุปเปอร์วูแมน” และได้เป็น “นักโมติเวท” หญิงคนแรกของไทยผู้สร้าง“แรงบันดาลใจ” และ “ปลุกยักษ์”ให้กับใครหลายๆ คนจนสามารถประสบความสำเร็จในปัจจุบัน
ชีวิตเริ่มแรกก่อนเริ่มต้น
จะว่าไปแล้ว ชีวิตของ “สิริลักษณ์” ก็เหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไป มีวุฒิการศึกษาที่สูง ตำแหน่งหน้าที่การงานก็ดี มีคนยกย่อง แต่นั่นก็ไม่ใช่ “คำตอบ” ของชีวิต เธอแสวงหาบางอย่างที่จะมาตอบโจทย์ว่าความสามารถและตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นอย่างไร เธอชอบอะไรกันแน่ เธอจะประสบความสำเร็จให้มากกว่าที่เป็นอยู่ได้อย่างไร จากความคิดนี้ทำให้เธอได้เข้ามาศึกษาธุรกิจ MLM และเริ่มต้นกับมันด้วย “ไฟ” แห่งความหวัง
“ ตอนนั้นอยากเก่งและอยากประสบความสำเร็จในชีวิต ก็เลยเอาตัวเองออกมาจากโลกแคบๆ และเรียนรู้วิชาการดีๆ ต่างๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง แต่พอทำไประยะหนึ่งก็เกิดคำถามขึ้นในใจว่า ทำไมความเก่งมันไม่ออกมาอย่างที่เราอยากจะใช้ ทำไมแม่ค้าขายไส้กรอกจึงมียอดขายมากกว่าเรา และทำไมคนที่ทำงานร้านทำผมจึงมีทีมงานใหญ่โต ตัวเราเองก็มีการศึกษาสูง มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี แต่ทำไมจึงประสบความสำเร็จช้าเหลือเกิน”
โอกาสและจุดพลิกผันของชีวิต
หลังจากที่ทำอย่างไร “สิริลักษณ์” ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ แล้ววันหนึ่งความพยายามของเธอก็ “ไม่สูญเปล่า” เมื่อได้มีโอกาสไปศึกษากับโค้ชอันดับหนึ่งของโลกที่ชื่อ “แอนโทนี่ รอบบิ้นส์” ที่ประเทศสิงค์โปร์ ทำให้ “ยักษ์” ในตัวเธอตื่นขึ้นมา เธอค้นพบศักยภาพที่แท้จริงในตัวเองจนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่าง “มหาศาล” จากบทเรียนที่ว่าให้ “สำรวจ” และ“ยอมรับ” ความจริงที่ตัวเองเป็น เพื่อดูว่าเราเป็นคนอย่างไรกันแน่ถึงทำในสิ่งที่อยากจะทำไม่สำเร็จ จากการสำรวจครั้งนั้น เธอพบถึงความอ่อนแอ เหลาะแหละ เหยาะแหยะ จับจด ขาดความมุ่งมั่น ไม่เคยทำอะไรจริงจังกับชีวิต ซึ่งมันได้สร้างความ“เจ็บปวด” ให้กับเธออย่างมาก และเธอก็ได้พลิกเอาความเจ็บปวดนั้นมาเป็น “พลังขับเคลื่อน” พร้อมกับบอกกับตัวเองว่า“ฉันจะไม่มีวันอ่อนแออีกต่อไป ฉันต้องประสบความสำเร็จให้ได้!”
จากการค้นพบพลังในตัวเอง ทำให้ “สิริลักษณ์” ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เริ่มตั้งแต่เปลี่ยนบุคลิกการแต่งตัว การเดิน การพูดจา เธอค้นพบถึงความชอบและความต้องการที่แท้จริงในชีวิตของตัวเอง เธอเริ่มเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ออกจากข้อจำกัดและแนวความคิดเดิมๆ เธอได้สัมผัสกับความกล้าหาญและความเชื่อมั่นในตัวเองที่มีมากขึ้น กล้าที่จะเดินตามความฝันและทำให้มันเป็นความจริง
“แอนโทนี่ สอนให้ค้นหาคุณค่าของชีวิต ความชอบ และความต้องการที่แท้จริงของเราเอง นอกจากนี้ยังสอนให้เปิดกรอบความคิดใหม่ๆ ทิ้งความเชื่อเก่าที่เป็นข้อจำกัด สร้างความเชื่อแบบใหม่ที่ให้พลัง สอนให้จินตนาการ และโฟกัสอยู่กับเป้าหมาย เปลี่ยนวิธีการสื่อสารกับตัวเองใหม่ ฝึกเคลื่อนไหวร่างกายแบบมีพลัง และสร้างความเชื่อมั่นขึ้นมา ซึ่งมันทำให้เราเข้าถึงศักยภาพภายใน เราสามารถประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นและมีความสุขมากขึ้น”
แรงบันดาลใจในการทำสัมมนา
จากการที่เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองไปอย่างมหาศาล เธอจึงได้แรงบันดาลใจในการจัดสัมมนา “ปลุกยักษ์” และเขียนบทความคอลัมน์ “ปลุกยักษ์ในตัวคุณ” เพื่อถ่ายทอดให้คนอื่นๆที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากมีความเชื่อมั่น อยากเก่ง อยากประสบความสำเร็จ ได้เรียนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง
“ดิฉันรู้ดีว่าอะไรเป็นเทคนิคสำคัญที่ต้องฝึก อะไรเป็นเคล็ดลับที่ต้องใส่ลงไปในเทคนิคพวกนี้ การที่เราจะพลิกวิธีคิดใหม่นั้นต้องทำอย่างไร อะไรที่ปิดกั้นและฉุดรั้งเราไว้จากความสำเร็จ ทำอย่างไรให้เราออกมาจากข้อจำกัดในการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ เราจะโปรแกรมตัวเองใหม่อย่างไรเพื่อให้สมองและจิตใจทำงานอย่างที่เราต้องการ ทำอย่างไรเราถึงจะเรียกเอาพลังที่ยิ่งใหญ่และตัวตนที่เยี่ยมยอดภายในตัวเองออกมาใช้ได้ ดิฉันผ่านขั้นตอนเหล่านี้มาแล้ว ดิฉันจึงรู้ว่าต้องทำอย่างไร ไม่ได้เอาทฤษฎีมาสอน และดิฉันมีความสามารถในการถ่ายทอดสูงมากๆ ดิฉันสามารถสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นและปลุกเร้าผู้เข้าสัมมนาให้กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง มีพลังที่จะเดินไปข้างหน้าเพื่อทำความฝันและเป้าหมายให้บรรลุความสำเร็จ!”
ผลของผู้ที่นำไปใช้ในการทำงาน
“พวกเขาตื่นเต้นและมีความสุขมากๆที่เห็นตัวเองเปลี่ยนแปลงไป บางคนสามารถทำผลงานได้เพิ่มสูงขึ้นแบบน่ามหัศจรรย์ บางคนกล้าที่จะขายลูกค้ารายใหญ่จากเดิมที่ไม่เคยกล้าขายเลย บางคนก็ตัดสินใจที่เลิกกินเหล้า เลิกสูบบุหรี่ บางคนบอกว่าชีวิตเขาพลิกไปเลยหลังจากออกมาจาก “ปลุกยักษ์” ผู้บริหารบางบริษัทที่เชิญไปจัดสัมมนาเล่าให้ฟังว่า การประชุมเปลี่ยนโฉมไปเลย ในทีมขายที่เคยท้อแท้ว่าไม่สามารถทำเป้าที่บริษัทตั้งไว้ได้ กลับไม่มีใครพูดอีกแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้มีแต่คนช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทำได้!”
“สิริลักษณ์” บอกว่างานสัมมนา “ปลุกยักษ์” เหมาะสำหรับคนที่ทำงานขายทุกด้าน คนที่ต้องการพลังใจที่จะเดินหน้าทำเป้าหมายให้บรรลุความความสำเร็จ คนที่ไฟกำลังจะมอด คนที่ต้องการค้นพบศักยภาพในตัวเอง คนที่อยากทำความฝันให้เป็นความจริง ทีมขายที่มีเป้าการขายที่สูงมากและต้องการทำผลงานให้ได้ตามเป้าหรือได้ทะลุเป้า บริษัทที่ต้องการปรับทัศนคติของทีมงาน เพิ่มความกระตือรือร้น ความรักในงาน ความรักในองค์กร
เรื่องอื่นที่ให้ความสำคัญ
นอกจากนี้ “สิริลักษณ์” ยังให้ความสำคัญกับการสื่อสาร การสร้างสายสัมพันธ์ ศิลปะการพูดและการฟัง เพราะมันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง ซึ่งจะทำให้ผู้อื่นชอบเราและร่วมมือกับเรา เธอจึงจัดสัมมนาหลักสูตร “จ้าวแห่งการสื่อสาร” ด้วย
“ดิฉันเห็นคนที่ทำงานด้านการขายเช่น ขายประกันหรือMLM ซึ่งอยากทำงาน อยากสำเร็จ แต่ไม่รู้จะพูดกับลูกค้าอย่างไร ไม่กล้าพูด ไม่กล้าชวนคน บางคนก็ไม่ได้ฝึกทักษะในการฟังและการพูดโน้มน้าวชักจูงใจที่ดีพอ ทำให้ความสามารถในการปิดการขายมีน้อย ถ้าเราเรียนรู้และฝึกฝนทักษะเหล่านี้ เราก็สามารถเป็นผู้ที่ปราดเปรื่องและเชี่ยวชาญในการโน้มน้าวจูงใจได้ และผลงานขายก็จะเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับผู้นำหรือผู้บริหารที่ต้องสร้างทีม ต้องสร้างคน จะได้รู้ว่าการที่เราจะครองใจคน การสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาวนั้นต้องทำอย่างไร ต้องมีทัศนคติวิธีคิดต่อผู้คนต่างๆอย่างไร มีหลายคนที่เคยเข้าสัมมนาเล่าให้ฟังว่ารายได้ของเขากระโดดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลย! ผู้บริหารบางคนบอกว่า รู้แล้วว่าต่อไปนี้จะพูดกับลูกน้องอย่างไร ผู้หญิงบางคนบางว่าจะใช้วิธีการใหม่นี้ไปพูดกับลูกและสามี!”
“สิริลักษณ์” กล่าวถึงการเป็น “นักสร้างแรงบันดาลใจ” จากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการมา 3 ปีว่า ทุกครั้งที่เธอไปบรรยายที่ไหน เธอจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์และนำมาศึกษาและปรับปรุงแก้ไขอยู่เสมอ
อีกด้านของนักโมติเวทหญิง
นอกจากบทบาทการทำงานในหน้าที่นักโมติเวทหญิงแล้ว “สิริลักษณ์” ยังให้ความสำคัญกับครอบครัว เพราะครอบครัวคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในชีวิต “กำลังใจ” เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การงานประสบความสำเร็จได้
“ถ้าครอบครัวอบอุ่น สามีภรรยาให้กำลังใจกัน พ่อแม่ลูกมีความรักความเข้าใจสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกัน ก็จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ซึ่ง“เงิน”ไม่สามารถซื้อได้ เมื่อเราสร้างสรรค์ครอบครัวของเราให้มีความสุขและประสบความสำเร็จได้แล้ว เราก็ไปสร้างสรรค์และช่วยเหลือครอบครัวของคนอื่นๆให้มีความสุขและประสบความสำเร็จได้เช่นกัน”
ข้อคิดที่ฝากถึงนักขาย
“สิริลักษณ์” บอกว่า “ ถ้า “นักขาย”อยากประสบความสำเร็จ ก่อนอื่นต้องมีฝัน หากเราไม่มีฝัน ก็ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร แล้วก็ให้คุณกล้าที่จะฝัน .. ฝันในสิ่งที่คุณอยากจะฝัน ไปในที่ที่คุณอยากจะไป เป็นคนที่คุณอยากจะเป็น เพราะว่าคุณมีแค่เพียงชีวิตเดียว ที่จะทำในสิ่งที่คุณอยากจะทำ นอกจากนี้คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าทำไมคุณถึงอยากจะทำความฝันของคุณให้เป็นความจริง คุณทำไปเพื่ออะไร เพราะนี่จะเป็นเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนคุณไปข้างหน้า ต่อจากนั้นก็วางแผนการทำงาน และลงมือทำอย่างมุ่งมั่นจริงจัง ปรับเปลี่ยนวิธีการจนกว่าจะสำเร็จ อย่ายอมแพ้ เพราะว่าผู้ชนะไม่เคยล้มเลิก ผู้ที่ล้มเลิกไปก่อนก็จะไม่เคยชนะ และให้เชื่อมั่นว่า คุณสามารถทำได้ทุกอย่างที่คุณอยากจะทำ คุณสามารถมีได้ทุกอย่างที่คุณอยากจะมี และคุณก็สามารถเป็นได้ทุกอย่างที่คุณอยากจะเป็น ถ้าคุณมีความปรารถนาที่แรงกล้าและลงมือทำมากเพียงพอ!”
ทุกวันนี้ “สิริลักษณ์” ได้ค้นพบพลังที่ยิ่งใหญ่และได้ “ปลุกยักษ์”ในตัวเองขึ้นมา เธอมีความสุข สนุกกับชีวิต เธอได้ทำงานที่เธอรัก ได้“ปลุกยักษ์”ให้กับผู้คนอีกมากมาย เธอภาคภูมิใจในความสำเร็จของคนที่มาเข้าร่วมสัมมนากับเธอ นี่เป็นเพียงก้าวย่างแรกๆ ซึ่งเธอยังคงเดินหน้าที่จะ“สร้างแรงบันดาลใจ” ช่วยเหลือคนอื่นให้ได้ค้นพบศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ในตัวเอง และมีพลังที่จะทำความฝันทุกอย่างให้เป็นความจริงต่อไป
ที่มา: www.coachsiriluck.com/port/port1.doc
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=41