ไม้ที่ได้จากการตัดแต่งกิ่ง หรือตัดทิ้งนำมาเพาะเห็ดหูหนูเผือกได้
การเพาะเห็ดหูหนูเผือกในท่อนไม้
เห็ดหูหนูเผือก เหมือนกับเห็ดหูหนูดำ เพียงแต่ดอกเห็ดสีขาว สามารถนำมาเพาะในไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้แค ไม้มะม่วง ไม้นุ่น ไม้ขนุน ไม้ปอกระสา เป็นต้น
วิธีการเพาะ ทำได้โดยการตัดท่อนไม้ให้มีขนาดความยาว 1 เมตร เจาะรูท่อนไม้ด้วยสว่านไฟฟ้า ขนาดดอกสว่าน 4 หุน ระยะห่างระหว่างรู 15 ซม. เจาะ 4-6 แถวแล้วแต่ขนาดของท่อนไม้ นำเชื้อเห็ดหูหนูมาใส่ให้เต็มรูที่เจาะ ปิดรูด้วยจุกพลาสติก แล้วนำท่อนไม้ไปพักไว้ในที่ร่ม 1 เดือน เมื่อครบกำหนดแล้วนำท่อนไม้มาแช่น้ำ 1 คืน นำเข้าโรงเพาะเห็ด รดน้ำเช้า เย็น เห็นหูหนูจะชอบความชื้นสูงมาก เห็ดจะงอกภายในเวลา 15 วัน ท่อนไม้ 200 ท่อนจะเก็บเห็ดหูหนูได้ประมาณ 30-50 กก./สัปดาห์ ระยะเวลาที่ออกดอกมากกว่า 1 ปี
การบริโภค เห็ดหูหนูเผือกนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่นแกงจืดวุ้นเส้น ยำ ผัดผัก ไก่ผัดขิง กระเพาะปลา ฯลฯ
ประโยชน์ เห็ดหูหนูเผือกจะแก้ร้อนใน
สิ่งที่ต้องระวัง ไม้ที่ใช้เพาะเห็ด ควรจะเป็นไม้จากการตัดแต่งกิ่ง หรือต้นไม้ที่จะตัดทิ้ง ไม่ควรตัดไม้ในป่ามาเพาะเห็ด เพราะจะเป็นการทำลายป่า ต้นน้ำลำธาร
ตัดท่อนไม้มะม่วง ยาว 1 เมตร
เจาะรูท่อนไม้ด้วยสว่าน 4 หุน
กรอกเชื้อเห็ดให้เต็มรูที่เจาะ
ปิดรูด้วยจุกพลาสติกให้แน่น
พักท่อนไม้ไว้ในที่ร่ม 1 เดือน
เมื่อครบ 1 เดือน นำท่อนไม้มาแช่น้ำ 1 คืน
นำท่อนไม้เข้าโรงเพาะเห็ด
รดน้ำเช้าเย็น หรือมากกว่านั้น
เห็ดหูหนูเผือกเริ่มออกดอก
เก็บดอกเห็ดหูหนูเผือกได้ทุกวัน
ข้อดีของการเพาะเห็ดในท่อนไม้ เมื่อเทียบกับการเพาะเห็ดในถุงก้อนเชื้อเห็ด คือ
(1) เพาะได้ในไม้เกือบทุกชนิด
(2) อายุการเก็บดอกเห็ดจะเก็บดอกเห็ดได้นานกว่า
(3) ลงทุนน้อยกว่า
(4) ผลผลิตสูงกว่า
(5) นำไม้ที่จะตัดทิ้งมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ประเด็นคำถามเพื่อนำไปสู่การอภิปรายในชั้นเรียน
1. ในหมู่บ้านของนักเรียนมีไม้อะไรที่จะนำมาเพาะเห็ดได้บ้าง
2. จะเกิดผลเสียอย่างไรหากตัดไม้ในป่ามาเพาะเห็ด
กิจกรรมเสนอแนะ
นักเรียนควรปรึกษากับครูเกษตรเรื่องการทำโครงการเพาะเห็ดในโรงเรียน
การบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่น
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา พลศึกษา เรื่อง ประโยชน์ของการบริโภคเห็ด
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ชีววิทยาของเห็ด
หนังสืออ้างอิง
เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่เพาะเห็ดมามากกว่า 30 ปี
ภาพประกอบ ถ่ายเอง
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=447