สวนครัวดาดฟ้า" ปลูกง่าย ขายได้ ไร้สารพิษ พิชิตโลกร้อน
กรุงเทพฯ 8 มิ.ย.- การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานคร ไม่จำเป็นต้องหาที่ว่างเปล่า แม้แต่บนดาดฟ้าก็ทำได้ ยิ่งเป็นพืชผักสวนครัวแล้ว เพิ่มทั้งรายได้ลดรายจ่าย มีตัวอย่างที่สำนักงานเขตหลักสี่.ข่าวจาก สำนักข่าวไทย
จากข่าวพลังแห่งความรู้ สวนดาดฟ้ากินได้ ทำให้มีแนวคิดว่าเรื่องพื้นที่ไม่ใช่ปัญหาของการปลูกพืชผักสวนครัวกินเอง เราสามารถเปลี่ยนพื้นที่ไร้ประโยชน์บนดาดฟ้าให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวของแปลงผักได้ "สวนครัวบนดาดฟ้า หรือระเบียง ปลูกง่าย ได้ราคา ไร้สารพิษ พิชิตโลกร้อน การทำเราอาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ ตึกแถว คอนโด หรือบ้าน หรือโรงเรียน ก็สามารถสร้างความสามัคคีโดยการร่วมกิจกรรมปลูกผักสวนครัวกัน ซึ่งจะช่วยประหยัดรายจ่าย ทำให้มีผักสด สะอาด ปลอดสารพิษไว้รับประทานเองตลอดทั้งปี หรือถ้าใครปลูกได้ปริมาณมากยังสามารถนำไปขายสร้างรายได้เสริมได้อีกด้วย
ภาพจาก topicstock.pantip.com
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช่วงชั้นที่ 2
การปลูกผักในสวนบนดาดฟ้า โดยปลูกในกระถางหรือภาชนะต่างๆ
การปลูกผักในกระถาง หรือในภาชนะ ควรจะพิจารณาถึง การหยั่งรากตื้น ของพืชผัก พืชผักที่หยั่งรากตื้น และสามารถ ปลูกลงภาชนะปลูกชนิดต่าง ๆ และชนิดห้อยแขวนได้ดี และมีความลึกไม่เกิน 10 เซนติเมตร เช่น
- ผักบุ้งจีน คะน้าจีน ผักกาดกวางตุ้ง ผักกาดฮ่องแต้ ผักกาดหอม ผักกาดขาว ตั้งโอ๋ ปวยเล้ง หอมแบ่ง ผักชี ขึ้นฉ่าย ผักโขมจีน กระเทียมใบ กุยช่าย กระเทียมหัว ผักชีฝรั่ง บัวบก สะระแหน่ แมงลัก โหระพา กะเพรา พริกขี้หนู ตะไคร้ ชะพลู หอมแดง หอมหัวใหญ่ หัวผักกาดแดง
- วัสดุที่สามารถนำมาทำเป็นภาชนะปลูกอาจดัดแปลงจากสิ่งที่ใช้แล้ว เช่น ยางรถยนต์เก่า กะละมัง ปลอกซีเมนต์ เป็นต้น สำหรับภาชนะแขวน อาจใช้กาบมะพร้าว กระถาง หรือเปลือกไม้
การปลูกผักในกระถาง หรือในภาชนะ
ภาพจากhttps://www.bansuanporpeang.com
การปลูกผักในภาชนะแบ่งออกได้เป็น 2 วิธี คือ
1. เพาะเมล็ดด้วยการหว่าน
การเพาะเมล็ดโดยการหว่านแล้วถอนแยกหรือหยอดเป็นแถวแล้วถอนแยก เช่น ผักบุ้งจีน คะน้าจีน
ผักกาดขาวกวางตุ้ง ผักกาดเขียวกวางตุ้ง ผักฮ่องเต้ (กวางตุ้งไต้หวัน) ตั้งโอ๋ ปวยเล้ง ผักกาดหอม ผักโขมจีน ผักชี - ขึ้นฉ่าย โหระพา กระเทียมใบ กุยฉ่าย หัวผักกาดแดง กะเพรา แมงลัก ผักชีฝรั่ง หอมหัวใหญ่
2. ปักชำด้วยลำต้นและห้ว
2.1 ใช้ห้ว เช่น หอมแบ่ง หอมแดง กุยช่าย กระเทียมหัว ผักชีฝรั่ง
2.2 ใช้ลำต้นหรือกิ่ง เช่น บัวบก ตะไคร้ โหระพา ชะพลู กะเพรา แมงลัก สะระแหน่
ภาพจากwww.decorreport.com/?l=th&a=25118
วิธีการปลูก
การปลูก สำหรับผู้ที่เริ่มเริ่มหัดปลูก อาจใช้วิธีการง่ายๆ คือ
1. ไปซื้อผักที่คิดว่าอยากจะปลูกที่ตลาด โดยเลือกต้นที่มีความสมบูรณ์ คือมีต้น มีราก มีใบที่สดแข็งแรง ไม่หัก ไม่พับ เด็ดใบแก่ไว้รับประทานส่วนที่เหลือ คือใบอ่อน นำไปปลูกได้เลย
2. ไปตลาดนัดไปหาซื้อต้นกล้าเล็กๆที่คนนำมาขาย ตามแหล่งขายต้นไม้ คัดเลือกต้นกล้าที่แข็งแรง นำมาปลูกได้เลย
3. ซื้อเมล็ดมาเพาะในกระถาง พอต้นกล้าแข็งแรงพอ คือมีใบประมาณ 3 - 5 ใบ ก็ย้ายไปปลูกในภาชนะที่เตรียมไว้ต่อไป เวลาย้ายต้นกล้าให้ตักรากที่มีดินติดไปด้วย ข้อควรระวังคือ เมื่อถอนต้นกล้าออกจากกะบะเพาะแล้วให้นำต้นกล้าไปปลูกทันที่
ภาพจากwww.arunsawat.com
การปฏิบัติดูแลรักษา
การดูแลรักษาด้วยความเอาใจใส่จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์จนถึงระยะเก็บเกี่ยว การดูแลรักษา
ดังกล่าว ได้แก่
1. การให้น้ำ
การปลูกผักจำเป็นต้องให้น้ำอย่างเพียงพอ การให้น้ำผักควรรดน้ำในช่วง เช้า – เย็น ไม่ควรรดตอนแดดจัด และรดน้ำแต่พอชุ่มอย่าให้โชก
2. การให้ปุ๋ย มี 2 ระยะ คือ
2.1 ใส่รองพื้นคือการใส่เมื่อเวลาเตรียมดิน หรือรองก้นหลุมก่อนปลูกปุ๋ยที่ใส่รองพื้นควรเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก คลุกในดินให้ทั่ว ก่อน ปลูกเพื่อ ปรับโครงสร้างดินให้โปร่งร่วนซุย นอกจากนั้นยังช่วยในการ อุ้มน้ำและรักษาความชื้น ของดินให้เหมาะสม กับการ เจริญเติบโตของพืชด้วย
2.2 การใส่ปุ๋ยบำรุง ควรจะใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อย้ายกล้าไปปลูกจนกล้าตั้งตัวได้แล้ว และใส่ครั้งที่ 2 หลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ การใส่ให้โรยบาง ๆ ระหว่างแถว ระวังอย่าให้ปุ๋ยอยู่ชิดต้น เพราะจะทำให้ ผักตาย ได้ เมื่อใส่ปุ๋ยแล้วให้พรวนดินและรดน้ำทันที สูตรปุ๋ยที่ใช้กับพืชผัก ได้แก่ ยูเรีย แอมโมเนียซัลเฟต สำหรับบำรุงต้น และใบ และปุ๋ยสูตร 15-15-15 และ 12-24-12 สำหรับเร่งการออกดอกและผล
3. การกำจัดศัตรูพืช
การป้องกันกำจัดศัตรูพืช ควรบำรุงรักษาต้นพืชให้แข็งแรง โดยการกำจัดวัชพืช การให้น้ำอย่างเพียงพอและใส่ปุ๋ยตามจำนวนที่กำหนดเพื่อให้ผักเจริญเติบโต แข็งแรง ทนต่อโรคและแมลง หากมีโรคและ แมลง ระบาด มากควรใช้สารธรรมชาติ หรือใช้วิธีกลต่าง ๆ ในการป้องกันกำจัด เช่น หนอนต่าง ๆ ใช้มือจับออก ใช้พริกไทยป่นผสม น้ำฉีดพ่น ใช้น้ำคั้นจากใบหรือเมล็ดสะเดาถ้าเป็นพวกเพลี้ย เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย และเพลี้ยจักจั่น ให้ใช้น้ำยา ล้างจาน 15 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นใต้ใบเวลาเย็น ถ้าเป็นพวกมด หอย และทากให้ใช้ปูนขาวโรยบาง ๆ ลงบริเวณพื้นดิน
ภาพจากwww.bloggang.com
การเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยวผักควรเก็บในเวลาเช้าจะทำให้ได้ผักสดรสดี และหากยังไม่ได้ใช้ให้ล้างให้สะอาด และนำเก็บไว้ในตู้เย็น สำหรับผัก ประเภทผลควรเก็บในขณะที่ผลไม่แก่จัดจะได้ผลที่มีรสดี และจะทำให้ผลดก หากปล่อยให้ผลแก่คาต้น ต่อไปจะออกผลน้อยลงสำหรับในผักใบหลายชนิด เช่น หอมแบ่ง ผักบุ้งจีน คะน้า กะหล่ำปลี การแบ่งเก็บผักที่สดอ่อน หรือโตได้ขนาดแล้ว โดยยังคง เหลือ ลำต้นและรากไว้ไม่ถอนออกทั้งต้น รากหรือต้นที่เหลืออยู่จะสามารถงอกงามให้ผล ได้อีกหลายครั้งทั้งนี้จะต้อง มีการดูแล รักษา ให้น้ำและปุ๋ยอยู่ การปลูกพื้นหมุนเวียนสลับชนิดหรือปลูกผัก หลายชนิดในแปลงเดียวกันและปลูกผัก ที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นบ้าง ยาวบ้างคละกันในแปลงเดียวกัน หรือปลูกผักชนิดเดียวกันแต่ทยอยปลูกครั้งละ 3-5 ต้น หรือประมาณว่าพอรับประทาน ได้ใน ครอบครัว ในแต่ละครั้งที่เก็บเกี่ยว ก็จะทำให้ผู้ปลูกมีผักสดเก็บรับประทานได้ทุกวันตลอดปี ที่มา www.dd.go.th/ofsweb/news/article/
ภาพจาก www.sawananan.ac.th
ขอเชิญชวนให้ทุกคนมาปลูกผักสวนครัวลอยฟ้า เพราะท่านจะได้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง
มีผักสดไว้รับประทานมีวิตามินและเกลือแร่ครบถ้วน ปลอดภัยจากสารพิษ ประยัดรายจ่ายเป็นอย่างมาก
ช่วยกันหาคำตอบ
1. การปลูกผักไว้รับประทานเองมีผลดีอย่างไร
2. ผักที่ใช้หัวสำหรับปลูกมีผักอะไรบ้าง
3. "การรดน้ำต้นไม้" ทำไมไม่ควรรดในเวลาที่แดดจัด
4. การใส่ปุ๋ยให้พืชควรใส่กี่ระยะ ระยะไหนบ้าง
5. การใช้สารกำจัดสัตรูพืชจากสารธรรมชาติมีผลดีอย่างไร
ข้อเสนอแนะ
พืชบางชนิดสามารถปลูกด้วยหัว ส่วนของต้น หรือปลูกด้วยเมล็ดก็ได้ ผู้ปลูกจะต้องพิจารณาให้เหมาะสม
ก่อนปลูก
บูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ เช่น
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง พืช ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง เงินทองของมีค่า
เอกสารอ้างอิง
www. decorreport.com/
www. gotoknow.org
www. bloggang.com
www. sawananan.ac.th
www. arunsawat.com
www. dd.go.th/ofsweb/news/article
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=642