คุณค่า ขมิ้นชัน สมุนไพรไทย ช่วยยับยั้งป้องกันมะเร็ง


885 ผู้ชม


\\\"ขมิ้นชัน\\\" สมุุนไพรพื้นบ้าน ที่ใช้กันมายาวนานของคนไทย   

"ขมิ้นชัน" สมุุนไพรพื้นบ้าน ที่ใช้กันมายาวนานของคนไทย
คุณค่า ขมิ้นชัน สมุนไพรไทย ช่วยยับยั้งป้องกันมะเร็ง

ที่มาของข่าว ไทยรัฐออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2554  : https://www.thairath.co.th/content/life/173844

คุณค่า ขมิ้นชัน สมุนไพรไทย ช่วยยับยั้งป้องกันมะเร็งสรรพคุณ

คุณค่า ขมิ้นชัน สมุนไพรไทย ช่วยยับยั้งป้องกันมะเร็ง

ประวัติความเป็นมาคุณค่า ขมิ้นชัน สมุนไพรไทย ช่วยยับยั้งป้องกันมะเร็ง
ขมิ้นชันเป็นพืชที่คนไทยรู้จักกันมาแต่โบราณ โดยนำมาใช้แต่งสี แต่งกลิ่น และรสของอาหาร เช่น แกงเหลือง แกงไตปลา การใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร ขมิ้นผงเป็นแหล่งสีธรรมชาติให้ความปลอดภัยมากกว่าสีสังเคราะห์ ตลอดจนเป็นสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ เช่น แผลในกระเพาะอาหาร อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลมขมิ้นชันเป็นพืชปลูกง่ายสามารถปลูกขึ้นได้ทุกภาคของประเทศไทย เติบโตได้ดีในที่ดอนไม่ชอบน้ำท่วมขัง ปัญหาของโรคแมลงรบกวนน้อย อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 8-9 เดือน เกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกขมิ้นชันเป็นพืชสวนครัวหลังบ้านในปริมาณไม่มากนักขมิ้นชันเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ขิงข่า เป็นพืชล้มลุกอายุหลายปี ลำต้นเหนือดินเป็นลำต้นที่เกิดจากการอัดตัวกันของกาบใบ ลำต้นจริงอยู่ใต้ดินเรียกเหง้าขมิ้น ประกอบด้วย เหง้าหลักใต้ดินที่เราเรียกว่า หัวแม่ ซึ่งมีรูปไข่และแตกแขนงทรงกระกอบออกด้านข้างทั้ง 2 ด้าน ที่เราเรียกว่า แง่ง เนื้อในเหง้ามีสีเหลือง มีกลิ่นเฉพาะ ใบเป็นใบเดี่ยว เจริญออกจากเหง้าเรียงเป็นวงซ้อนทับกัน ใบรูปหอก กว้าง 12-15 เซ็นติเมตร ยาว 30-40 เซนติเมตร ช่อดอกเจริญออกจากเหง้าแทรกขึ้นระหว่างใบ รูปทรงกระบอก ประกอบด้วยใบประดับจำนวนมาก มีสีเขียวอ่อน ใบประดับตรงปลายช่อจำนวน 6-10 ใบ สีขาวหรือขาวแกมชมพูเรื่อ ๆ ดอกสีเหลืองอ่อน เกิดในซอกใบประดับเว้นแต่ในซอกใบตรงปลายช่อผลทรงกลมมี 3 พู

คุณค่า ขมิ้นชัน สมุนไพรไทย ช่วยยับยั้งป้องกันมะเร็งฤดูกาลปลูกขมิ้น
การปลูกขมิ้นชันในประเทศไทย เริ่มปลูกในช่วงต้นฤดูฝนประมาณ ปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุก ๆคุณค่า ขมิ้นชัน สมุนไพรไทย ช่วยยับยั้งป้องกันมะเร็ง ปี และจะเก็บเกี่ยวหัวขมิ้นในช่วงฤดูหนาว หรือประมาณปลายเดือนธันวาคมถึงมกราคม ซึ่งช่วงนี้หัวขมิ้นชันจะแห้งสนิท

ดินและการเตรียมดิน
ขมิ้นชันสามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด แต่ที่เหมาะสมควรเป็นดินที่ระบายน้ำดี น้ำไม่ท่วมขัง ถ้าเป็นดินเหนียวควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 1 ตัน/ไร่ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของดิน การเตรียมดินควรไถพรวนก่อนต้นฤดูฝน และหลังจากพรวนดินให้มีขนาดเล็กลงแล้ว ก็ใช้ไถยกร่องปลูกระยะระหว่างแถว 75 เซนติเมตร ระยะระหว่างต้น 30 เซนติเมตร

การเตรียมหัวพันธุ์ขมิ้นชันสำหรับปลูก
ขมิ้นชันสามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด แต่ที่เหมาะสมควรเป็นดินที่ระบายน้ำดี น้ำไม่ท่วมขัง ถ้าเป็นดินเหนียวควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 1 ตัน/ไร่ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของดิน การเตรียมดินควรไถพรวนก่อนต้นฤดูฝน และหลังจากพรวนดินให้มีขนาดเล็กลงแล้ว ก็ใช้ไถยกร่องปลูก ระยะระหว่างแถว 75 เซนติเมตร ระยะระหว่างต้น 30 เซนติเมตร

การใส่ปุ๋ยและกำจัดวัชพืช
ขมิ้นชัน เมื่อเริ่มงอกยาวประมาณ 5-10เซนติเมตร ต้องรีบทำการกำจัดวัชพืช เนื่องจากขมิ้นชัน
หลังจากงอกจะเจริญเติบโตแข่งกับวัชพืชไม่ได้ และใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลอัตรา 50 กก./ไร่ เมื่อกำจัดวัชพืชครั้งที่ 2 
ควรพรวนดินกลบโคนแถวขมิ้นชันด้วย หลังจากนั้นกำจัดวัชพืชอีก 2-3 ครั้งก็พอ

การให้น้ำ
แม้ว่าขมิ้นชันจะเป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมก็ตามในช่วงต้นฤดูฝน อาจทิ้งช่วงไปขณะที่ขมิ้นชันยังมีขนาดเล็กอยู่ อาจมีอาการเหี่ยวเฉาบ้าง จึงควรให้น้ำชลประทานให้เพียงพอสำหรับความชุ่มชื้น หรืออาจใช้วัตถุคลุมดินเพื่อลดการระเหยของน้ำ และเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนไม่จำเป็นต้องให้น้ำเลย แต่ต้องระมัดระวังน้ำท่วมขังในแปลงเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ขมิ้นเน่าตายได้ ควรเตรียมแปลงให้มีทางระบายน้ำและต้องรีบจัดการระบายน้ำออกทันทีที่พบว่ามีน้ำท่วมขัง

โรคและแมลงศัตรูพืช
โรคของขมิ้นชันเกิดจากการเน่ของหัวขมิ้นจากน้ำท่วมขังหรือการให้น้ำมากเกินไป หรือเกิดจากการปลูกซ้ำที่เดิมหลาย 
ๆ ครั้ง ทำให้เกิดการสะสมโรค โรคที่พบกได้แก่ โรคเหง้าและรากเน่าซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โรคต้นเหี่ยว และโรคใบจุด เกิดจากเชื้อรา โรคเหล่านี้เมื่อเกิดแล้วรักษายาก จึงควรป้องกันก่อนปลูก การป้องกันโรคที่ดีควรทำโดยการหมุนเวียนแปลงปลูกทุก ๆ ปี

การเก็บเกี่ยว
หลังจากปลูกขมิ้นชันเมื่อช่วงต้นฤดูฝนจนย่างเข้าสู่ฤดูหนาวประมาณปลายเดือนธันวาคม ลำต้นเหนือดินเริ่มแสดงอาการเหี่ยวแห้งจนกระทั่งแห้งสนิทจึงเริ่มทำการเก็บเกี่ยวในการเก็บเกี่ยวหัวขมิ้นควรใช้เครื่องมือทุ่นแรง เช่นรถแทรคเตอร์ติดผานไถอันเดียว และคนงานเดินตามเก็บหัวขมิ้นชันจะช่วยให้ประหยัดต้นทุนค่าแรงงาน เนื่องจากการเก็บเกี่ยวเป็นช่วงฤดูแล้งในสภาพดินเหนียวดินจะแข็ง ทำให้เก็บเกี่ยวยากอาจให้น้ำพอดินชื้น ทิ้งไว้ 1 สัปดาห์แล้วจึงเก็บเกี่ยวขมิ้น ในกรณีที่ใช้แรงงานคนขุดหัวขมิ้นในดินที่ไม่แข็งเกินไป มักจะขุดได้เฉลี่ยประมาณ 116 กก./วัน/คน เมื่อทำการเก็บเกี่ยวแล้วต้องนำมาตัดแต่งราก ทำความสะอาดดินออกในกรณีที่ต้อกงารขมิ้นสดอาจจะขายส่วนที่เป็นแง่ง ส่วนหัวแม่ควรเก็บไว้เป็นพันธุ์ปลูกในฤดูกาลต่อไป ถ้าเตรียมขมิ้นแห้งเพื่อนำไปใช้ทำยารักษาโรคนั้น ต้องเป็นขมิ้นชันที่แก่เต็มที่ และต้องคำนึงถึงความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งต้องมีปริมาณสารสำคัญ (เคอร์คูมิน) ไม่น้อยกว่า 8.64 เปอร์เซ็นต์

แหล่งที่มาของข้อมูล.-
https://www.thairath.co.th/content/life/173844

https://www.guru.sanook.com

https://amantras.com/55-herbal-powder-turmeric.html
https://guru.sanook.com/pedia/topic/คุณประโยชน์ของขมิ้นชัน/

https://www.anpon12123.ob.tc/

ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ลดการอักเสบของสิว ลดการอักเสบจากแมลงกัดต่อย ลดอาการคัน ลดผื่นคัน ช่วยสมานแผล มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชลอการแก่ของเซลล์ผิวหนัง ช่วยปรับสภาพผิวให้ขาว ลดรอยด่างดำ ลดรอยแผลเป็น ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยย่อย แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ นอกจากนี้ยังมีสารช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด ทำให้แก้อาการของโรคผิวหนังบางชนิดได้ 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3993

อัพเดทล่าสุด