Joomla [ตอนที่ 1]

ภาพจาก https://www.mambo.or.th

CMS
        เมื่อพูดถึงคำว่าเว็บไซต์ หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า CMS แล้ว อาจจะเกิดคำถามสงสัยว่ามันคืออะไร และเกี่ยวข้องอย่างไรกับการพัฒนาเว็บไซต์ 
        CMS ย่อมาจาก Content Management System เป็นระบบบริหารจัดการเว็บไซต์ ที่นำมาช่วยในการสร้างและบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป ซึ่งช่วยให้การสร้างเว็บไซต์ในปัจจุบันเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว โดยในการใช้งาน CMS นั้นผู้ใช้งานแทบไม่ต้องมีความรู้ในด้านการเขียนและพัฒนาโปรแกรมเลยก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ โดยที่ตัว CMS เองมีโปรแกรมประยุกต์แบบพร้อมใช้งานอยู่ภายในมากมาย อาทิ ระบบจัดการบทความและข่าวสาร (News and Story) ระบบการดึงข่าวจากที่ต่างๆ (News Feeds) ระบบจัดการสมาชิก (Member) ระบบสืบค้นข้อมูล (Search) ระบบจัดการไฟล์ดาวน์โหลด (Download) ระบบจัดการป้ายโฆษณา (Banner) ระบบการวิเคราะห์และตรวจสอบสถิติความนิยมในเว็บไซต์ (Analysis, Tracking and Statistics) เป็นต้น 
        ลักษณะเด่นของ CMS นำมาใช้ในการสร้างเว็บไซต์แบบไดนามิก (Dynamic) ซึ่งช่วยให้สามารถเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ทำให้การเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ในปัจจุบันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถกำหนดหน้าตา (Template) เพิ่มลดเมนูหรือโมดูล (Module) ต่างๆ ที่ใช้งานในเว็บไซต์ได้โดยง่าย สามารถนำมาใช้ได้ทั้งกับเว็บไซต์ส่วนตัวขนาดเล็กจนถึงเว็บไซต์เพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สามารถติดตั้งใช้งาน และอัพเดทข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ มีปลั๊กอิน (Plug-in) หรือคอมโพเนนต์ (Component) ให้เลือกใช้จำนวนมากทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถเพิ่มหรือแก้ไขภายหลังได้ การอัพเดท (Update) CMS รองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ ด้วยการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ของ CMS นั้นๆ 
        การประยุกต์ใช้ CMS ในวงการต่างๆ การนำ CMS มาใช้ในการสร้างเว็บไซต์สถาบันการศึกษา ธุรกิจบันเทิง หนังสือพิมพ์ การเงิน การธนาคาร หุ้นและการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ งานบุคคล งานประมูล สถานที่ท่องเที่ยว และงานให้บริการลูกค้า การนำ CMS มาใช้ในหน่วยงานของรัฐ อาทิเช่น งานข่าว งานประชาสัมพันธ์ การนำเสนองานต่างๆ ขององค์กร และการจัดการความรู้ (Knowledge Management) การใช้ CMS สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว (Personal Website) ชมรม สมาคม และสมาพันธ์ โดยวิธีการแบ่งงานกันทำเป็นส่วนๆ ทำให้เกิดความสามัคคี ทำให้มีการทำงานเป็นทีมเวิร์คมากยิ่งขึ้น การนำ CMS มาใช้ในการสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP กำลังได้รับความนิยมสูง การนำ CMS มาใช้แทนโปรแกรมลิขสิทธิ์อื่นๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และง่ายต่อการพัฒนา เช่น Mambo, Joomla การใช้ CMS สร้างเว็บไซต์ที่ใช้ภายในองค์กร (Intranet Website) 
        การใช้ cms สร้างเว็บ (Portals) ซึ่งในอดีตการสร้างเว็บไซต์เป็นงานที่ค่อนข้างยาก อย่างน้อยต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้ในการเขียนภาษา HTML (Hypertext Markup Language) ซึ่งเป็นภาษารากฐานสำหรับการสร้างเว็บไซต์ แต่ปัจจุบัน CMS ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้สร้างและบริหารเว็บไซต์ ซึ่งช่วยทำให้การทำเว็บไซต์ของคุณดูเป็นมืออาชีพได้แบบง่ายๆ ปัจจุบันซอฟต์แวร์ที่ใช้สร้าง CMS มีหลายตัวด้วยกัน อาทิเช่น Mambo, Joomla, PostNuke, PHP-Huke, MyPHPNuke, eNvolution, MD-Pro, XOOPs, OpenCMS, Plone, JBoss, Drupal เป็นต้น    

ภาพจาก https://www.joomla.org

Joomla!
        Joomla คือ ระบบเว็บสำเร็จรูปแบบหนึ่ง มีคุณสมบัติเป็น Open source  สามารถนำมาพัฒนาใช้ได้ฟรี โดยเป็นส่วนหนึ่งของ CMS โดยมีการพัฒนา โครงสร้างเพื่อใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น ระบบเว็บไซต์ ระบบร้านขายสินค้า มีโครงสร้างเป็นลักษณะ Web Service โดยถูกพัฒนาจาก ภาษา PHP และมีการใช้งานร่วมกับฐานข้อมูล Mysql  ผู้ใช้สามารถติดตั้ง และปรับแต่งส่วนต่างๆ ได้อย่างอิสระ รวมถึงสามารถพัฒนาระบบขึ้นมาใช้เองได้ 
        Joomla นั้นหลายคนชอบนำมาใช้ เพราะผู้ใช้สามารถนำระบบต่างๆ เช่น ระบบข่าวสาร ระบบสมาชิก ระบบเว็บบอร์ด รวมถึงสามารถหารูปแบบ ต่างๆ มาใช้ได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องเสียเวลาพัฒนาระบบต่างๆ เอง ที่สำคัญคือสามารถติดตั้งได้ง่าย ซึ่งจะเห็นได้ว่าหน่วยงานต่างๆ รวมถึงผู้เป็นเจ้าของเว็บไซต์ชื่อดังหลายแห่งได้นำมาพัฒนา ใช้งานกันอย่างหลากหลายในปัจจุบัน

แนะนำเว็บสอนการติดตั้ง Joomla!

1. การติดตั้ง Joomla 1.5
2. การติดตั้ง Joomla บน server จริง
3. การติดตั้ง Joomla แบบ Step By Step
4. คู่มือการติดตั้ง Joomla บน windows

5. คู่มือการใช้งาน+การติดตั้ง Joomla มีทั้งไฟล์ VDO และ ไฟล์ PDF

ประเด็นคำถาม

1. วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างการสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html กับการสร้างเว็บไซต์ด้วยระบบ cms
2. ศึกษาข้อดีและข้อจำกัดของโปรแกรม Joomla

กิจกรรมเสนอแนะ

1. จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม แล้วนำความรู้ที่ได้มานำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน

การบูรณาการ

1. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง คำศัพท์ ภาษาอังกฤษสำหรับคอมพิวเตอร์
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เรื่อง หลักการใช้สี

ข้อมูลอ้างอิง

• https://vivaldi.cpe.ku.ac.th/~note/newscrawler/view_news.php?id=378252
• https://www.bcoms.net/dictionnary/detail.asp?id=592
• https://www.ireallyhost.com/forums.php?p=topic&tid=227&cat=12