ข้าวโพดป้องกันไข้หวัดหมูได้จริงหรือ


802 ผู้ชม


เชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 กำลังระบาดหนัก มีนักวิจัยจากสหรัฐอเมริกา กำลังคิดวัคซีนป้องกันเชื้อนี้จากข้าวโพด   

ข้าวโพดป้องกันไข้หวัดหมูได้จริงหรือ

        หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 ได้นำเสนอข่าวในคอลัมน์วิทยาการ-ไอที ในหัวข้อข่าวว่า เพาะข้าวโพดวัคซีนหวัดหมู เอาไวรัสเชื้อหวัดปนกับองค์ประกอบข้าวโพด  ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยไอโอวา สเตทแห่งอเมริกา กำลังเอาวัคซีนผสมลงไปในองค์ประกอบทางพันธุกรรมของข้าว โพดด้วย ซึ่งจะทำให้คนหรือหมูที่กินข้าวโพดหรือผลิตภัณฑ์จากข้าวโพด มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดหมูอยู่ในตัว
        นอกจากข้าวโพดจะนำไปใช้ทำวัคซีนป้องกันไข้หวัดหมูแล้ว การกินข้าวโพดหวานต้มสุกยังช่วยป้องกันมะเร็งได้ด้วย (ที่มา :เว็บที่นี่วาไรตี้)ยังเราจะเห็นได้ว่าข้าวโพดที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ น่าจะมีคุณสมบัติในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้พอสมควร วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ การปลูกข้าวโพดหวาน ซึ่งเป็นข้าวโพดที่คนไทยเรารู้จักกันดี และนิยมบริโภคกันมานาน

ข้าวโพดป้องกันไข้หวัดหมูได้จริงหรือ
ภาพจาก พืชผักการเกษตร

เนื้อหาสำหรับกลลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ช่วงชั้นที่ 3

การปลูกข้าวโพดหวาน

        ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ข้าวโพดหวาน อยู่ใน ตระกูล Gramineae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับหญ้าหรือข้าว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zeamays Line var. rugasa หรือ saccharata
        ประโยชน์ของข้าวโพดหวาน ข้าวโพดหวานมีคุณประโยชน์มากมาย นอกจากจะใช้รับประทานเป็นผักสดแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปได้หลาย รูปแบบ เช่น ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องทั้งฝัก หรือบรรจุกระป๋องเฉพาะเมล็ด ทำครีมข้าวโพดหวาน ข้าวโพดแช่แข็ง ซึ่งผลิตภัณฑ์ ต่างๆ เหล่านี้ สามารถส่งไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน และกลุ่มประเทศในแถบยุโรป
        พันธุ์ข้าวโพดหวาน พันธุ์ข้าวโพดหวานที่ใช้ปลูกควรเป็นข้าวโพดหวานลูกผสม  ในตลาดมีหลายพันธุ์ผลิตจากหลายบริษัทให้เลือก แต่พันธุ์ที่แนะนำคือพันธุ์ข้าวโพดหวานลูกผสม ไฮ-บริกซ์ 10 และ ไฮ-บริกซ์ 3 ทั้งสองพันธุ์เป็นพันธุ์ข้าวโพดหวานลูกผสมที่ผลิตโดย บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ จำกัด ซึ่งสามารถให้ผลผลิตสูง มีขนาดฝักใหญ่เป็นที่ต้องการของตลาด คุณภาพฝักสดดีมาก รสชาติดี กลิ่นหอม  
        ฤดูปลูก ข้าวโพดหวานสามารถ ปลูกได้ตลอดปี แต่นิยมปลูกกันมากในช่วงฤดูฝน และสามารถปลูกได้ดีในดินทุกสภาพ แต่จะขึ้นได้ดีในสภาพดินร่วนปนทราย จะทำให้ผลผลิตดีและเก็บเกี่ยวได้เร็วกว่าความเป็นกรด-ด่าง ของดินที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 6.0-6.5 ข้าวโพดหวานต้องการแสงแดด เต็มที่ตลอดวัน
        การเตรียมดิน การเตรียมดินที่ดีควรมีการไถดะและทิ้งตากดินไว้ 3-5 วัน จากนั้นจึงไถแปรเพื่อย่อยดินให้ แตกละเอียดไม่เป็นก้อนใหญ่เหมาะกับการงอกของเมล็ด ควรมีการหว่านปุ๋ยคอกเช่นปุ๋ยขี้ไก่เป็นต้น อัตราประมาณ 1 ตันต่อไร่ก่อนการไถแปร เพื่อเป็นการปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ดีขึ้นสามารถอุ้มน้ำได้นานขึ้น  และยังเป็นการเพิ่มธาตุอาหารให้กับข้าวโพดหวาน
        
การปลูกข้าวโพดหวาน ทำการเจาะหลุมปลูกบริเวณข้างๆ ร่อง ใช้ระยะห่างระหว่างหลุม(ต้น) ประมาณ 25-35 เซนติเมตร นำเมล็ดข้าวโพดหวานหยอดลงไป หลุมละ 1-2 เมล็ด ในพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม หลังหยอดเมล็ดแล้วไม่ควรปล่อยดินแห้งเกินไป ควรให้ดินมีความชื้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรให้น้ำมากเกินไป ซึ่งจะทำให้เมล็ดข้าวโพดเน่าได้ หลังจากหยอดเมล็ดพันธุ์ 5-7 วัน ข้าวโพดก็จะเริ่มงอก ให้สังเกตดูว่าถ้าหลุมที่ไม่งอกให้รีบปลูกซ่อมทันที

ข้าวโพดป้องกันไข้หวัดหมูได้จริงหรือ
ภาพจาก กองการเลี้ยงสัตว์

        การดูแลรักษา เมื่อข้าวโพดอายุได้ 11-15 วัน หลังจากปลูกให้ถอนแยกออกเหลือต้นสมบูรณ์ดีไว้เพียง 1 ต้นต่อหลุม แล้วพรวนดินเพื่อกำจัดวัชพืช
        การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนียซัลเฟตอัตรา 25-50 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อข้าวโพดอายุได้ 25-30 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 25-30 กิโลกรัมต่อไร่ และพออายุ 40-45 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 25-30 กิโลกรัมต่อไร่
        การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอ ควรให้ดินชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา แต่อย่าให้น้ำมากจนถึงกับท่วมขังแฉะจะทำให้ข้าวโพดเหลืองแคระแกร็น และถ้าปล่อยให้ดินแห้งก็จะทำให้ข้าวโพดชะงักการเจริญเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงออกดอกและติดฝัก ไม่ควรให้ขาดน้ำ เพราะจะทำให้ฝักมีเมล็ดติดไม่ดีที่เรียกว่าข้าวโพดฟันหลอ
        การกำจัดวัชพืช กระทำพร้อมๆ กับการกลบโคนต้นและการให้ปุ๋ย
        การฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง การปลูกข้าวโพดหวานต้องระวังในเรื่องของหนอนเจาะฝัก หรือเจาะลำต้น ควรฉีดพ่น ยาพวกคาร์บาริล หรือยาพวกถูกตัวตาย เช่น เมทโธมิล
        การเก็บเกี่ยว โดยปกติข้าวโพดหวานจะเก็บเกี่ยวเมื่อมีอายุประมาณ 70-75 วันหลังปลูก  แต่ระยะที่เหมาะสมสำหรับการเก็บเกี่ยวที่สุด คือ ระยะ 18-20 วันหลังข้าวโพดออกไหม 50%   (ข้าวโพด 100 ต้นมีไหม 50 ต้น)   ข้าวโพดหวานพันธุ์  ไฮ-บริกซ์ 10  จะเก็บเกี่ยวที่อายุประมาณ 68-70 วัน   และพันธุ์ไฮ-บริกซ์ 3  จะเก็บเกี่ยวที่อายุประมาณ 65-68 วันหลังปลูก แต่ถ้าปลูกในช่วงอากาศหนาวเย็นอายุการเก็บเกี่ยวอาจจะยืดออกไปอีก หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วควรรีบส่งโรงงานหรือจำหน่ายโดยเร็ว    เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ  หากขาดน้ำจะมีผลต่อเมล็ดและน้ำหนักของฝัก

ข้าวโพดป้องกันไข้หวัดหมูได้จริงหรือ
ภาพจาก โครงการเนื่องจากพระราชดำริ


ประเด็นคำถามเพื่อนำไปสู่การอภิปรายในห้องเรียน
        1. นักเรียนคิดว่าข้าวโพดหวานป้องกันโรคใดได้บ้าง
        2. นอกจากข้าวโพดหวานแล้วมีข้าวโพดชนิดใดที่เกษตรกรนิยมปลูก
        3. ข้าวโพดหวานสามารถนำไปปรุงเป็นอาหารอะไรได้บ้าง
กิจกรรมเสนอแนะ
        ศึกษาวิธีการปลูกข้าวโพดหวานในท้องถิ่นของนักเรียน และจัดทำเป็นรายงานนำส่งครูผู้สอน
การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ
         สาระการเรียนรู้วิยาศาสตร์ เรื่องการเจริญเติบโตของพืช
อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
         https://www.vetgetweb.com
         https://www.smed.or.th
         
https://www.pacthai.co.th/knowleage_base/sweetcorn.htm
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=320

อัพเดทล่าสุด