10 สัญญาณฟ้อง ร่างกายกำลังป่วย เป็นอะไรกันแน่นะ


1,300 ผู้ชม


10 สัญญาณฟ้อง ร่างกายกำลังป่วย เป็นอะไรกันแน่นะ

pictures: legacyproject.human.cornell.edu & healthyplace.com

โดยปกติแล้ว ถ้ามีความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นจากภายใน ร่ายกายก็จะแสดงอาการบางอย่างออกมาเพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้ตัวก่อนเสมอ ถึงแม้จะเป็นอาการที่ดูเหมือนจะไม่แปลกอะไรที่จะเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าเกิดอาการเช่นนี้ซ้ำๆ ย่อมหมายถึงผลร้ายที่จะตามมาในไม่ช้า หากเรารู้ทันร่างกายและสามารถดูแลรักษาได้แต่เนิ่นๆ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคร้ายที่จะถามหาอีกต่อไป กับ 10 สัญญาณ ที่กำลังฟ้องว่า ร่างกายกำลังป่วย เป็นอะไรอยู่กันนะ?

1. ไม่หิวเมื่อถึงเวลาอาหาร
โดยปกติแล้วคนเราจะเกิดอาการหิวเนื่องจากกระเพาะลำไส้จะหลั่งน้ำย่อยออกมาตามเวลาที่เหมาะสมในการรับประทานอาหาร แต่หากในวันหนึ่งเราทานอาหารแค่ 1-2 มื้อก็อยู่ได้ หรือไม่รู้สึกหิวเลยทั้งวัน นั่นเป็นสัญญาณเตือนที่แสดงให้เห็นว่าระบบย่อยและดูดซึมอาหารของร่างกายกำลังมีปัญหา จึงไม่ผลิตน้ำย่อยออกมา ดังนั้นไม่ว่าเราจะทานอาหารดีๆเข้าไปแค่ไหน ร่างกายก็จะไม่สามารถดูดซึมกลับไปใช้ได้เลย เป็นเหตุทำให้ร่ายกายจะค่อยๆขาดสารอาหาร เสื่อมสภาพ ป่วยง่าย จนลุกลามไปถึงโรคร้ายอื่นๆในที่สุด

2. ไม่ว่าจะดื่มน้ำเท่าไหร่ก็ยังคอแห้ง
ต้นเหตุของอาการหิวน้ำตลอดเวลา เกิดจาก 2 ปัจจัยใหญ่ๆ อย่างแรกคือภายในร่างกายมีอาการร้อนใน จึงทำให้ในร่ายกายมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ไม่ว่าเราจะดื่มน้ำเข้าไปมากขนาดไหน ก็ยังรู้สึกคอแห้งเหมือนเดิมอยู่ดี กับสาเหตุที่ 2 คือ เลือดหมุนเวียนไม่ดี ทำให้การหมุนเวียนของน้ำในร่างกายมีปัญหาไปด้วย จึงทำให้เรารู้สึกหิวน้ำเวลาที่เลือดไปหล่อเลี้ยงบริเวณลำคอไม่เพียงพอนั่นเอง หากใครพบปัญหานี้ ควรงดน้ำเย็น น้ำแข็ง หรือไอศกรีม เลี่ยงการทานเนื้อไก่และเนื้อวัว ให้ทานเนื้อหมูแทน เพราะว่าถ้าอาการของเรามีสาเหตุมาจากอาการร้อนใน ของเหล่านี้จะยิ่งทำให้ร่างกายเกิดอาการร้อนในเพิ่มมากขึ้น

3. นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ
ไม่ว่าตอนกลางคืนจะนอนไปมากมายแค่ไหน แต่ก็มักจะง่วงตอนกลางวันด้วยตลอด อาการแบบนี้เกิดขึ้นจาก “พลังงานในร่างกายไม่เพียงพอ” มีสาเหตุอันเนื่องมาจากนิสัยการใช้ชิวิตแบบผิดๆ ทั้งเรื่องอาหารการกินและการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกันเป็นเวลานาน หากปล่อยไว้ไม่รีบแก้ไข อาหารนี้จะส่งผลให้อวัยวะอื่นๆภายในร่างกายเสื่อมสภาพเร็วไปตามๆกัน ซึ่งวิธีแก้ไขก็ง่ายๆ เพียงแค่ทานเนื้อหมูและปลามากๆ เพื่อเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย นอนพักผ่อนให้ครบ 8 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงอาหารเย็น เพราะจะทำลายพลังงานที่ร่างกายสะสมไว้

4. ลุกเข้าห้องน้ำกลางดึกเป็นประจำ
เพราะว่าร่างกายไม่สามารถดูดน้ำส่วนเกินกลับเข้าสู่ร่างกายได้มาก ทำให้ระหว่างตอนกลางคืนจะเกิดอาหารปวดปัสสาวะบ่อย ซึ่งอาการดังต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่าไตของเราเริ่มมีอาการไม่ค่อยแข็งแรง เพราะไตมีความเชื่อมโยงกับกระดูกภายในร่างกาย เมื่อไตไม่แข็งแรงแคลเซียมที่ควรจะถูกดูดกลบไปใชงานในร่างกายก็จะรั่วออกมาทางน้ำปัสสาวะมากเกินไป หากไม่ทำการรักษาจะส่งผลให้เป็นโรคกระดูกพรุน เข่าเสื่อม และหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมทับเส้นประสาท วิธีการบรรเทาคือการพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อมหเร่างกายมีโอกาสซ่อมแซมอวัยวะภายในไดอย่างมีประสิทธิภาพ

5.ปวดเมื่อตัวแบบเป็นๆหายๆ
อาการปวดเนื้อปวดตัวที่เกิดขึ้น เกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตที่ทำงานผิดปกติ อาจจะเกิดจากสาเหตุเพราะเม็ดเลือดหรือน้ำเลือดน้อยเกินไป เลือดข้นหนืดมากเกินไป หรือมีสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกาย หากปล่อยไว้นาน จะส่งผลให้หลอดเลือดทั่วร่างกายเกิดอาการตีบตัน เป็นเหตุที่ทำให้เกิดโรคร่ายอื่นๆตามมา อย่างเช่นโรคหัวใจ หลอดเลือดอุดตัน และมะเร็งตับตามมาได้ วิธีบรรเทาอาการเบื้องต้น สามารถทำได้โดยการทานเนื้อสัตว์ที่เป็นโปรตีนสะอาด เช่นเนื้อปลาและหมู ใช้เครื่องเทศที่มีฤทธิ์ร้อนเป็นเครื่องปรุง เพื่อให้เลือดหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น

6. ท้องผูก 
เกิดจากลำไส้ไม่มีแรงบีบตัว เนื่องจากเลือดมาเลี้ยงลำไส้ใหญ่ได้ไม่เพียงพอ เวลาที่ท้องผูกบ่อยๆจะมีผลทำให้น้ำเหลืองและเลือดมีสารพิษตกคางเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาทางร่างกายตั้งแต่เรื่องเล็กๆอย่างสิว ไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่างมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ หรือมะเร็งเต้านม ดังนั้นเราจึงควรขับถ่ายทุกวัน เพื่อขับสารพิษและลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง

7. ชาตามปลายมือและปลายเท้า
ที่จริงแล้วอาการชาตามปลายมือและปลายเท้าไม่ได้เกิดขึ้นเพราะร่างกายขาดวิตามินบี อย่างที่เราเคยเข้าใจกัน แต่เพราะระบบไหลเวียนโลหิตที่มีปัญหา ถ้าเกิดอาการเช่นนี้บ่อยมากขึ้นโดยไม่ดูแลรักษาร่างกาย เมื่อเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองไม่พอเพียงพอ นานวันเข้าอาจจะทำให้เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ โดยไม่ทันตั้งตัว

8. มือสั่น
หลายๆคนเข้าใจว่าอาการมือสั่นน่าจะเกิดจากอายุที่มากขึ้น แต่ที่จริงแล้วอาการมือสั่นอาจจะมีสาเหตุมาจากไทรอยด์ที่เป็นพิษ จนเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ส่งผลให้ระบบประสาทและสมองมีปัญหา จนเกิดอาการมือสั่น หากอาการเกิดจากทางระบบประสาท สามารถฟื้นคืนสภาพด้วยสมุนไพร ก็อาจจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ แต่ถ้าเกิดจากอาการของไทรอยด์เป็นพิษ หากรักษาด้วยสมุนไพรทางธรรมชาติควบคุมกับยาแผนปัจจุบันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

9. แน่นหน้าอก
เกิดขึ้นจากเลือดไหลเวียนบริเวณหลอดเลือดหัวใจผิดปกติ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับไขมันที่อุดตันบริเวณแถวหลอดเลือดหัวใจ หากปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน มีโอกาสทำให้เกิดอาการหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน และเกิดภาวะหัวใจวายกระทันหันในที่สุด แต่ว่าสามารถดูแลรักษาได้ ด้วยการลดอาหารมัน และกินยาสมุนไพรอย่างต่อเนื่อง เพื่อล้างไขมันที่เกาะบริเวณหลอดเลือดออกให้หมด

10. หายใจไม่เต็มปอด
หลายคนที่เวลาหายใจแล้ว รู้สึกหายใจได้ไม่เต็มอิ่ม อาการนี้เกิดจากเลือดมาเลี้ยงหัวใจและปอดไม่เพียงพอ จึงทำให้อวัยวะทั้งสองทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ หากเข้าใจและดูแลปัญหาเรื่องเลือดได้อย่างถูกต้อง ก็ยังสามารถหายเป็นปกติได้ แต่หากปล่อยอาการทิ้งไว้ อาจจะทำให้เกิดปัญหาหัวใจโต อันเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหัวใจวายเฉียบพลันในที่สุด

ที่มา: เอ็มไทย

อัพเดทล่าสุด