ปวดท้องตรงไหน เป็นโรคอะไร? 9 ตำแหน่ง บอกโรคอะไรบ้าง รู้ก่อนมีโอกาสรักษาหายทัน


8,190 ผู้ชม

“โอ๊ย! ปวดท้อง” อาการทั่วไปที่มักเกิดขึ้นได้กับคนส่วนใหญ่ แต่รู้ไหมว่าการปวดท้องแต่ละที่นั้นก็บอกถึงความผิดปกติของร่างกายที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับอาการปวดท้อง 9 จุด มาดูสิว่าตอนนี้ร่างกายกำลังบอกอะไรกับคุณอยู่?


ปวดท้องตรงไหน เป็นโรคอะไร? 9 ตำแหน่ง บอกโรคอะไรบ้าง รู้ก่อนมีโอกาสรักษาหายทัน

ปวดท้องตรงไหน เป็นโรคอะไร? 9 ตำแหน่ง บอกโรคอะไรบ้าง รู้ก่อนมีโอกาสรักษาหายทัน
“โอ๊ย! ปวดท้อง” อาการทั่วไปที่มักเกิดขึ้นได้กับคนส่วนใหญ่ แต่รู้ไหมว่าการปวดท้องแต่ละที่นั้นก็บอกถึงความผิดปกติของร่างกายที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับอาการปวดท้อง 9 จุด มาดูสิว่าตอนนี้ร่างกายกำลังบอกอะไรกับคุณอยู่?
1. ชายโครงด้านขวา เป็นจุดของตับและถุงน้ำดี
หากกดแล้วเจอก้อนแข็งๆ บวกกับอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ก็จะหมายถึง ความบกพร่องเกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดี หากรู้สึกว่าปวดมาก แนะนำว่าให้รีบไปพบแพทย์จะดีกว่านะ

2. ใต้ลิ้นปี่ หรือกลางตัวเรา
ตรงซี่โครงซี่ล่างสุด (กลางตัว) จะหมายถึง กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ตับ และกระดูกลิ้นปี่
– หากปวดเป็นประจำเวลาหิวหรืออิ่ม ก็หมายถึง อาจเกี่ยวกับโรคกระเพาะ
– หากปวดรุนแรงร่วมกับคลื่นไส้อาเจียน อันนี้ตับอ่อนอาจจะเกิดการอักเสบได้
– หากคลำเจอก้อนเนื้อค่อนข้างแข็งและมีขนาดใหญ่ อาจหมายถึงตับโต แบบนี้ต้องรีบไปหาหมออย่างด่วนเลยนะ
– คลำได้ก้อนสามเหลี่ยมแบนเล็กๆ มักเป็นกระดูกลิ้นปี่ อันนี้ควรรีบไปปรึกษาแพทย์อีกเช่นกัน
3. ปวดชายโครงซ้าย เป็นตำแหน่งของม้าม หากรู้สึกว่ามีอาการเจ็บ ต้องปรึกษาหมอโดยด่วนที่สุด

4. ปวดบั้นเอวขวา สาวๆ มักเป็นกันประจำ จุดนี้คือตำแหน่งของท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่
– ปวดมาก อาจหมายถึง ลำไส้ใหญ่อักเสบ
– ปวดร้าวถึงต้นขา อันนี้แรงหน่อย เริ่มต้นเป็นนิ่วในท่อไตแล้วล่ะ
– ปวดร่วมกับปวดหลัง แถมมีไข้ หนาวสั่นด้วย ปัสสาวะขุ่น อันนี้แรงหน่อย กรวยไตอักเสบ อย่าฝืนเลยนะ หาหมอดีกว่า
– คลำเจอก้อนเนื้อ อันนี้ก็หาหมอวินิจฉัยโดยด่วนเช่นกัน
5. ปวดรอบสะดือ มันคือ ตำแหน่งลำไส้เล็ก มักพบในคนที่ท้องเดิน แต่หากกดแล้วเกิดความรู้สึกว่าปวดมาก มันคือตำแหน่งที่อยู่ของไส้ติ่ง แนะนำว่าให้หาหมอโดยด่วนดีกว่านะ แต่ถ้าปวดแบบมีลมในท้องด้วย ก็ไม่เป็นไรมากครับ อาจแค่กระเพาะลำไส้ทำงานผิดปกติ เพราะทานเอยะไปหน่อย
6. ปวดบั้นเอวซ้าย เป็นตำแหน่ง ท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่ ลักษณะอาการก็จะเหมือนกับข้อ 4 เลย

7. ปวดท้องน้อยขวา เป็นตำแหน่ง ไส้ติ่ง ท่อไต และปีกมดลูก
– หากปวดเกร็งเป็นระยะๆ แล้วร้าวมาที่ต้นขา หมายถึง กรวยไตอาจเกิดอาการผิดปกติอะไรสักอย่าง ปรึกษาหมอจะดีที่สุดนะ
– ปวดเสียดตลอดเวลา กดแล้วเจ็บมาก อย่าฝืนทนนะคะ หาหมอดีกว่า เพราะมันอาจเป็นอาการของไส้ติ่งอักเสบ
– ปวดร่วมกับมีไข้สูง หนาวสั่น มีตกขาว ผู้หญิงเท่านั้นที่จะเป็น เพราะมันคือ อาการของปีกมดลูกอักเสบ
– คลำแล้วเจอก้อนเนื้อ เบื้องต้นอาจเป็นก้อนไส้ติ่งหรือรังไข่ผิดปกติ
8. ปวดท้องน้อย มันเป็นตำแหน่งกระเพาะปัสสาวะและมดลูก
– ปวดเวลาถ่ายปัสสาวะ หรือถ่ายกระปริบกระปรอย เดาได้ง่ายเลย เพราะมันคือ อาการของผู้ที่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือแรงหน่อยก็คือ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (แต่อันนี้จะเป็นกันน้อยนะ)
– ปวดเกร็งเวลามีประจำเดือน ไม่มีอะไรมาก คุณกำลังมีประจำเดือน แต่ในรายที่ปวดเรื้อรังในหญิงแต่งงานแล้วไม่มีบุตร คุณคงต้องรีบไปหาหมอโดยด่วยแล้วล่ะ เพราะมันคืออาการมดลูกผิดปกติ
9. ปวดท้องน้อยซ้าย เป็นตำแหน่ง ปีกมดลูกและท่อไต
– ปวดเกร็งเป็นระยะและร้าวมาที่ต้นขา มักเป็นอาการของนิ่วในท่อไต
– ปวดร่วมกับมีไข้ หนาวสั่น ตกขาว เป็นเพราะมดลูกอักเสบ
– ปวดร่วมกับถ่ายอุจจาระผิดปกติ อาจเป็นเพราะลำไส้ใหญ่อักเสบ
– คลำพบก้อนร่วมกับอาการท้องผูกเป็นประจำ อาจเป็นเนื้องอกในลำไส้ อันนี้ก็ควรไปพบแพทย์โดยด้วยเหมือนกัน
เราควรหมั่นสังเกตอาการหรือสัญญาณเตือนต่างๆ ของร่างกายเอาไว้ด้วย หากรู้สึกว่าเจ็บปวด หรือมีอาการผิดปกติมากๆ แนะนำว่าให้ไปปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยโดยละเอียดจะดีกว่านะ หากเป็นอะไรที่มันรุนแรงขึ้นมาจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที
ที่มาจาก unigang.com

อัพเดทล่าสุด