เหตุใดไม่ควรดื่มกาแฟเกินสี่ถ้วยต่อวัน
เหตุใดไม่ควรดื่มกาแฟเกินสี่ถ้วยต่อวัน
นอกเหนือจากน้ำแล้ว กาแฟนี่แหละคือเครื่องดื่มที่ผู้คนในโลกดื่มมากเป็นอันดับหนึ่ง ในอดีตเคยเชื่อกันว่ากาแฟให้สารกาเฟอีน (caffeine) ที่สร้างปัญหาต่อระบบจิตและประสาท แต่เมื่อทำวิจัยมากเข้ากลับพบว่ากาเฟอีนในปริมาณพอเหมาะสร้างประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าก่อปัญหากลายเป็นอย่างนั้น นักโภชนาการยุคใหม่จึงแนะนำให้ดื่มกาแฟในปริมาณไม่มากเกินไป นั่นคือไม่เกินสี่ถ้วยต่อวัน ตัวเลขที่ว่านี้นอกจากไม่ทำให้ร่างกายได้รับสารกาเฟอีนมากเกินไปจนเกิดโทษแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายไม่ได้รับสารเคมีตัวอื่นที่พบในกาแฟในปริมาณที่มากเกินไป ไปดูกันดีกว่าว่ามีสารเคมีตัวไหนบ้างในกาแฟที่อาจก่อปัญหา การดื่มกาแฟไม่เกินสี่ถ้วยต่อวันจะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากสารเคมีเหล่านี้อย่างไร
สารเคมีตัวแรกคือสารอะครีลาไมด์ (acrylamide) สารตัวนี้เป็นผลจากการนำเมล็ดกาแฟดิบมาคั่วด้วยความร้อน ปฏิกิริยาในเมล็ดกาแฟที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดการผลิตสารอะครีลาไมด์ขึ้น เดิมเชื่อกันว่าเป็นสารก่อมะเร็ง สุดท้ายได้ข้อสรุปว่าสารอะครีลาไมด์ในกาแฟไม่ได้มีมากถึงระดับที่ก่อปัญหา หากดื่มไม่เกินวันละสี่ถ้วย การดื่มระดับนี้ทำให้ร่างกายได้รับสารกาเฟอีนไม่เกินวันละ 100-150 มิลลิกรัม ด้วยเงื่อนไขว่าต้องเป็นกาแฟที่ชงแบบปกติในถ้วยกาแฟธรรมดา ส่วนสารอะครีลาไมด์นั้นในกาแฟหนึ่งถ้วยปกติขนาด 160 ซีซี มีสารอะครีลาไมด์ประมาณ 0.45-3.21 ไมโครกรัมขึ้นกับว่าปรุงแบบไหน ขณะที่ค่าความปลอดภัยของสารตัวนี้อยู่ที่ระดับ 2.6 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม ดังนั้นคนที่มีน้ำหนักตัว 60 กิโลกรัมจึงไม่ควรบริโภคสารอะครีลาไมด์เกิน 156 ไมโครกรัม หรือไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 48 ถ้วยต่อวัน หากดื่มกาแฟตามที่แนะนำคือไม่เกินสี่ถ้วยต่อวันย่อมไม่เกิดปัญหาจากอะครีลาไมด์อย่างแน่นอน
สารเคมีตัวที่สองคือ สารไดเทอร์พีนส์ (diterpenes) ที่เร่งการสร้างคอเลสเตอรอลในร่างกายส่งผลให้คอเลสเตอรอลสูงขึ้นในเลือด สารตัวนี้มีไม่มากนักในกาแฟ ทว่าในการผลิตกาแฟบางชนิดอย่างเช่นกาเฟเข้มข้นแบบฝรั่งเศสหรืออิตาเลียน อาจส่งผลให้สารไดเทอร์พีนส์มีระดับสูงขึ้นจนเป็นปัญหา เป็นความห่วงใยสำหรับผู้ที่รักการบริโภคกาแฟคั้นเข้มข้นเท่านั้น ดังนั้น หากดื่มกาแฟธรรมดาไม่เกินสี่ถ้วยต่อวันย่อมไม่เกิดปัญหาจากไดเทอร์พีนส์ ไม่ต้องห่วง
สารเคมีตัวที่สามเป็นกลุ่มสารเคมีนั่นคือกรด (acids) สารในกาแฟหลายตัวมีสภาพเป็นกรดส่งผลให้กาแฟออกฤทธิ์เป็นกรดเล็กน้อย การดื่มกาแฟมากเกินไปจึงอาจทำให้สารเคลือบฟันกร่อนนำไปสู่ปัญหาฟันผุ กรณีนี้ก็อย่างที่บอกคือหากดื่มไม่มากเกินไปย่อมไม่เป็นปัญหา โดยสรุปคือการดื่มกาแฟไม่เกินวันละสี่ถ้วยปกติช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากสารเคมีในกาแฟไม่ว่าจะเป็นกาเฟอีน อะครีลาไมด์ ไดเทอร์พีนส์ รวมไปถึงสภาพความเป็นกรด
ขอแถมเรื่องสุดท้ายที่กลายเป็นข่าวระยะหลังนั่นคือประเด็นการทำความสะอาดอุปกรณ์ชงกาแฟ มีข่าวเล็กๆออกมากวนใจคนรักกาแฟว่าไม่ควรดื่มกาแฟที่ให้บริการบนเครื่องบิน รวมถึงกาแฟที่ให้บริการตามห้องพักในโรงแรม ปัญหาไม่ได้มาจากตัวกาแฟทว่ามาจากกระบวนการทำความสะอาดกาต้มน้ำร้อนและหม้อต้มกาแฟ ข่าวกล่าวว่ามักทำกันอย่างไม่ถูกต้อง คำเตือนจึงเป็นไปในทำนองว่าใครที่บินบ่อยหรือไปพักกันตามโรงแรมบ่อยๆ ขอให้ระมัดระวัง คำเตือนประการหลังนี้ รับฟังไว้ แต่อย่าซีเรียสถึงขนาดเลิกดื่มกาแฟกันเลยหากจะว่าไปกาและหม้อต้มกาแฟทั้งตามร้านกาแฟรวมถึงที่บ้านของเราเอง เอาเป็นว่าให้ใส่ใจกระบวนการชำระล้างให้มากกว่านี้สักหน่อย หมั่นเตือนกันไว้แต่อย่าถึงขนาดชวนให้เลิกดื่มกาแฟกันเลย
บทความจากเพจ : Dr.Winai Dahlan